กิจกรรมสร้างงานให้เป็นเล่ม
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search

Latest topics
» Who’s the KING? } 16 [END]
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:30 pm

» Who’s The KING? } 15 - Special part form Pramuk.
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:25 pm

» Who’s the KING? } 15
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:23 pm

» Who’s the KING? } 14
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:09 pm

» Who’s the KING? } 13
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:01 pm

» Who’s the KING? } 12
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 6:50 pm

» Who’s the KING? } 11
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 6:40 pm

» Who’s the KING? } 10
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 5:59 pm

» Who’s the KING? } 9
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:39 pm

» Who’s the KING? } 8
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:31 pm

» Who’s the KING? } 7
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:19 pm

» Who’s the KING? } 6
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 1:49 pm

» Who’s the KING? } 5
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:57 am

» Who’s the KING? } 4
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:43 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #2 (จบ)
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:26 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #1
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:13 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /14 (จบ)
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:03 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /13
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:54 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /12
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:43 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /11
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:33 am


ไอติม ตอนที่11

Go down

ไอติม ตอนที่11 Empty ไอติม ตอนที่11

ตั้งหัวข้อ by มอคราม Tue Jul 15, 2014 10:06 pm

สุดท้ายพวกผมก็มาถึงหอE ไม่อยากจะเอ่ยว่าตอนมา มาด้วยจักรยาน1คัน ถามว่ามายังไง 3 คน ก็ตอบง่ายๆอัด3 ไอ้พีมปั่น ผมกับไอ้วิคซ้อน ผมอยู่ตรงกลางสาเหตุเพราะไอ้วิคบอกมันอยากเข้าข้างหลังบ้างงงง กรี๊ดดด มันพูดอะไรรรร (ขออภัยแต๋วแตกไปนิด) มันพูดน่าตบกำกวมมาก แถมมันยังบอกอีกว่าผมตูดใหญ่ให้นั่งกลางไปเดี๋ยวมันเข้าข้างหลังเอง คืออีนี่พูดซะกูคิด
เอาเป็นว่ากลับสู่โลกปัจจุบันได้แล้ว สียงเพลงกระหึ่มมากครับที่ชั้นห้าเหมือนมันเหมาชั้นนั้นเพื่อฉลองวันเกิดโดยเฉพาะ ไอ้วิคก็ดี๊ด๊าซะเหลือเกิน ผมกับไอ้พีมก็เดินตามไป หอนี่ก็ไม่มีลิฟต์กว่าจะถึงเล่นซะปวดขาเลย พอไปถึงชั้นห้าคือนี่มันผับหรือเปล่า ไฟเท็คนี่วิบวาบแสบตาเลย สงสัยคนคุมหอคงได้ค่าปิดปากไปหลายบาท
คนที่มาร่วมฉลองก็แต่งตัวสุดยอด คือมันจำลองผับเปล่าวะแถมที่นี่มีผู้หญิงด้วย!! มาได้ไง พวกเธอใจกล้าหน้าทนมาก แต่สายตาของพวกเธอนี่จับจ้องมองไอ้พีมไม่ลดละ เข้าใจว่ามันหล่อ เหอะ!
“เป้” ไอ้วิคเดินไปหาผู้ชายร่างสูงใหญ่พอๆกับไอ้พีมหน้าตาหล่อเหลาไม่แพ้กันแต่ผมสีทองมาเลย มันเป็นนักศึกษาใช่ไหมวะ ยังกับจิ๊กโก๋ถ้าให้เดาคงอยู่คณะเกรียนวิศวะ
“อ้าว วิค”
“สุขสันต์วันเกิดนะ” ไอ้วิคยื่นกล่องของขวัญไปให้ ไอ้คนชื่อเป้ก็รับไปอย่างไม่ใส่เท่าไรก่อนจะส่งให้กับผู้หญิงที่ยืนกอดแขนข้างๆ
ไอ้วิคหน้าเจือนไปเลย
“เอ่อ…แกะดูเลยไหม ฉันตั้งใจเลือกมาเลยนะ”
“อือ แกะเหรอ แอนแกะดิ๊” ไอ้เป้หันไปบอกผู้หญิงข้างๆให้แกะ นี่เหรอวะเพื่อนที่มันบอกคอยดูแลมันตอนที่ผมไม่อยู่ไอ้ตัวนี้เนี่ยนะ ผมเดินดิ่งไปหามันแล้วแย่งกล่องจากผู้หญิงมา
“กล่องนี้ไอ้วิคตั้งใจซื้อให้มึง มึงต้องแกะเองดิวะ”
“หืม ใคร?”
“เอ่อ นี่คือติมเพื่อนที่ฉันเคยเล่า”
“อ๋อ คนนี้น่ะเหรอที่เคยเล่าให้ฟังว่าย้ายโรงเรียน” มันมองผมตั้งหัวจรดเท้า อยากมีเรื่องเหรอมึง
“ทำไมกูนี่แหละ”
“ติม…”ไอ้วิคสะกิดผมเบาๆ
“ยินดีที่ได้รู้จักนะฉันเป็นเพื่อนกับวิค”
“เพื่อนเหรอ ท่าทางมึงให้เกียรติไอ้วิคมันมากเลยนะ ขนาดมันให้ของขวัญมึงยังไม่สนใจเลย”
“ติม…”
“โอเคๆ ขอโทษนะวิคเดี๋ยวฉันแกะกล่องเอง”
“จริงเหรอ” ไอ้วิคทำท่าดีใจ ผมกับไอ้วิคมองไอ้หัวทองแกะกล่องของขวัญ ส่วนไอ้พีมมันกำลังตกสาวได้อีกแล้วครับไม่ใช่แค่คนเดียวนะเป็นฝูง
นาฬิกายี่ห้อหรูสีดำสวยถูกหยิบออกมาจากกล่องสีดำ ไอ้วิคยิ้มหน้าบานแต่ไอ้ร่างงสูกลับมองเฉยๆแล้วให้สาวข้างๆดูและหัวเราะคิกคัก
“เท่าไหร่เนี่ย”
“สามพัน”
“สามพัน? โกหกป่ะ เห็นที่คลองถมร้อยสองร้อย”
“เปล่านะฉันไปซื้อที่ห้างมา”
“เหอะ! แบบเนี่ยฉันเคยเห็นออกบ่อย วันเกิดฉันทั้งทีเอาของถูกๆมาให้เหรอ”
“เปล่านะ ถามติมได้เลย”
ไอ้เป้มองมาทางผม
“จริงๆนะ ใช่ไหมติม”
ผมไม่พูดอะไรแล้วหยิบกล่องและนาฬิกาคืน “มันเป็นของถูกๆมันคงไม่เหมาะกับมึง”
“ติม…”
“กลับเหอะวิค”
“เดี๋ยวก่อนสิ แค่ของขวัญถูกๆฉันไม่ได้ว่าอะไรนะ มาปาร์ตี้กันสิ”
“ไม่ว่ะ คนจนๆอย่างพวกกูคงไม่เหมาะ”
ไอ้เป้ยืนหน้ามาใกล้ผม “นายนี่ประชดเก่งจังแฮะ เคยฟังจากวิคบ้างว่านายเป็นคนยังไงพอได้มาสัมผัสจริงๆ น่าสนแฮะ มาเดี๋ยวฉันจะพาไปทำความรู้จักกับเพื่อนฉัน” มันคว้าแขนผมไว้แล้วผละผู้หญิงที่เกาะแขนออก
“แอนไปไหนก็ไปก่อนไป”
“เอ๊ะ? ทำไมล่ะ แอนอยากอยู่กับเป้นี่”
“ไป” น้ำเสียงเริ่มไม่พอใจ ทำให้หญิงสาวรีบทำตามที่บอกแม้จะไม่พอใจก็ตาม
“ปล่อย”
“น่า ไปสังสรรค์กัน”
ผมชายตามองไอ้วิคที่หน้าเศร้าเหมือนหมาถูกทิ้ง
“มึงชวนวิคไปดิ” ผมบอก วิคเงยหน้ามองผม
“ทำไม”
“ทำไม? นี่วิคมันเป็นเพื่อนมึงนะ” ผมพยายามสงบสติอารมณ์ อันที่จริงอยากจะต่อยมันไปตั้งนานล่ะแต่เห็นแก่ความเป็นเพื่อนของไอ้วิค
“วิคนายก็เดินเล่นแถวๆนี้ไปสิ” มันพูดแล้วบีบแขนผมเพื่อจะจูงไป
“ปล่อย”
“ไม่” มันยิ้ม ผมกำลังจะแกะมือออกแต่แรงกระชากของใครบางคนทำให้ผมผงะหลังไปกระแทกกับแผงอกของใครบางคน ผมเงยหน้ามอง มันคือไอ้พีมครับ สีหน้ามันตอนนี้คือเหมือนปวดขี้
“ใครวะไอ้ติม”
“นายคือ…คนดังคนนั้นเหรอวะ” ไอ้เป้พูด
“เออ กูดัง”
“ติมมาหาฉันอย่าไปยุ่งกับไอ้หมอนี่เลยชื่อเสียงมันเน่า”
“มึง” ไอ้พีมทำท่าจะเข้าไปหาเรื่องแต่ผมกันไว้ก่อน
“อย่ามีเรื่องดิวะ….กลับกันเถอะ”
“จะกลับแล้วเหรอ งานวันเกิดพึ่งเริ่มเองนะ เค้กยังไม่ได้เป่าเลย”
ผมจับมือไอ้วิคไว้ มันนิ่งสีหน้าเศร้าอย่างเห็นได้ชัดเพราะมันหวังไว้มาก ลงทุนซื้อนาฬิการาคาแพงให้ แต่ผลที่ได้คือถูกเมิน
“วิคกลับกันเถอะ”
“จะรีบไปไหนล่ะติม”
“มึงหุบปากไปเลย” ไอ้พีมออกหน้าจนไอ้เป้หน้าเสียเมื่อเห็นแววตาของไอ้พีม
“วิคกลับ” ผมกระชากมันแล้วเดินหันกลับ อีกมือหนึ่งจับแขนไอ้วิคส่วนอีกมือก็ถูกคนตัวโตจับไว้ มันจะจับมือผมทำไมกัน ผมก็เดินมาแล้วนี่ไง เราสามคนเดินลงมาข้างล่าง มองจักรยานคันเดียวที่พามา แต่สภาพเหม่อลอยของไอ้วิคทำให้ผมเป็นห่วงมัน มันคงรัก…มาก
ตอนกลับไอ้วิคอยู่กลางครับ ถ้าให้มันอยู่ท้ายสุดคงร่วงรถแน่นอน พอมาถึงหอผมก็พามันไปส่งที่ห้อง มันยังคงเงียบมันกลายมาเป็นไอ้วิคคนเดิมคนนั้นแล้ว
ผมหันมามองไอ้พีมที่เดินตามมาด้วย เราสองคนกลับเข้าไปในห้อง …….ทำไมตอนนั้นผมไม่ต่อยไอ้เป้ไปซักหมัด มัวแต่ห่วงความเป็นเพื่อนของไอ้วิคจนสุดท้ายไอ้วิคก็เสียใจอยู่ดี
“เอากล่องพยาบาลมาทำไม” จู่ๆไอ้พีมก็เอากล่องปฐมพยาบาลที่อยู่ประจำห้องออกมา หรือมันจะไปต่อยกับใครเข้าเลยได้แผล
“ยื่นแขนมา”
“หืม”
“ยื่นแขนมา”
“แขนทำไม กูได้แผลเหรอวะ” ผมมองแขนตัวเอง
“เปล่า…”
“แล้วเอามาทำไมวะ”
“ล้างเชื้อโรค”
‘….’
“ก็เมื่อกี้มึงถูกไอ้บ้านั้นจับนี่หว่า”
“อ๋อไอ้เหี้ยเป้อ่ะเหรอ ดีๆมึงรีบๆล้างเลย ยิ่งพูดถึงมันกูอยากจะขี้”
“เหม็นว่ะ”
“ยังไม่ขี้เว้ย”
“หิวข้าวว่ะ”
สงสัยมันจะบ้าไปแล้วพูดถึงขี้เสือกหิวข้าว จะว่าไปมันก็เย็นมากแล้ว
ออกไปข้างนอกกันเถอะ ไปหาไรกินกัน ผมบอกแล้วเราสองคนก็นำจักรยานคันเดียวกันออกไปนอกมหาลัยตามเคย จะว่าไปใช้ชีวิตแบบนี้ก็ดีไปอีกแบบ

วันนี้เป็นวันแรกที่ผมมายืนเคาะประตูหน้าห้องของไอ้วิค ประตูถูกเปิดออกไม่ใช่มันแต่เป็นรูมเมทของมันหรือก็คือกล้ามแฟนแมรี่ กล้ามคงรู้ว่าผมมาทำไม คงเพราะไอ้วิคปล่อยรังสีมืดใส่จนห้องมันทะมึนล่ะสิ
“วิคเปิดประตูให้กูหน่อย” ผมเรียกมันหน้าห้องนอน ซักพักประตูก็เปิดออก วิคมันอยู่ในชุดนอนสีฟ้าลายหมี
“มึงเป็นไงบ้างวะ”
‘….’
“ไอ้วิค”
‘….’
“สรุปมึงจะเงียบใช่ไหม เพราะแค่ไอ้เป้มึงถึงกลับกลายเป็นสภาพแบบนี้เลยเหรอวะ”
“ติมไม่เข้าใจ….ฉันอยู่กับเป้มาตั้ง 3 ปี พอมาเจอเรื่องเมื่อวานเหมือนกับว่า 3 ปี มันไม่มีความหมาย” เสียงมันอ่อนลงจนน่าสงสาร
“แล้ว 3 ปีที่ผ่านมามันดีกับมึงเหรอ”
“อือ…คอยรับฟังฉัน อยู่กับฉัน…”
“วิคมึงฟังกูนะ คนน่ะถ้าสันดานมันไม่เหี้ยจริงระยะเวลาสั้นๆคนมันไม่เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้หรอก”
”เปล่านะ เป้ไม่ใช่คนแบบนั้น เป้ดีมาก”
“วิค…เฮ้อ….เอาเถอะ มึงอยากคิดยังไงก็คิดแต่การที่มึงยิดติดกับมันเหมือนตอนที่เรียนกันมันไม่ได้แล้วไอ้เป้มันเปลี่ยนไป”
“เปล่าเป้ไม่ได้เปลี่ยนติมไม่ได้รู้จักเป้ดีอย่ามาพูดเลยดีกว่า” เป็นครั้งแรกที่มันพูดใส่ผมแบบนี้
“เออ กูมันไม่รู้จักไอ้เป้ดี” ผมเดินออกมาจากห้องนอนไอ้วิคเปิดมาก็เจอไอ้กล้ามยืนกล้ามใหญ่ใส่
“ดูแลมันด้วยนะ” กล้ามพยักหน้าเข้าใจ

“ไม่ครึกครื้นเลยมึงยิ้มๆ” ไอ้พีมที่วันหยุดก็ตัวติดผมตลอดแทนที่จะไปหาสาว ตอนนี้ผมสองคนนั่งตรงม้าหินอ่อนข้างห้องสมุดส่วนเล็กของมหาลัย หอสมุดกลางคนเยอะวุ่นวายมาก เลยมานั่งหลบมุมแต่ไม่ได้เข้าไปในห้องสมุดนะ เข้าไปตาลายวันหยุดขอหยุดดีกว่า
“เครียดเรื่องไอ้วิคว่ะมันซึมเศร้าไปแล้ว”
“เราทำไรไม่ได้นี่”
“มันก็จริง แต่ที่น่าโมโหคือมันตวาดใส่กูเพื่อช่วยไอ้ห่านั่น”
“ติมมึงต้องเข้าใจ ว่าความรักมันห้ามกันไม่ได้”
“แหวะ คนอย่างมึงน่ะเหรอจะใช้คำว่าความรักมั่วไปทั่ว”
“อย่างน้อยกูก็เคยมีความรักว่ะ”
“กูไม่เข้าใจเพราะกูไม่เคยมีความรัก”
‘….’
“อะไร มองหน้ากูแบบนี้หมายความว่าไง”
“พูดจริงเปล่าเนี่ยที่ว่าไม่เคยมีความรัก”
“ก็จริงอ่ะดิ โกหกทำไมวะ”
“ไม่น่าเชื่อ”
“ก็นะ คนหล่อๆแบบกูเนี่ยไม่เคยมีแฟนใครๆก็ไม่เชื่อทั้งนั้นแหละวะ”
“ถ้างั้น…”
“ติม! ใช่ติมเปล่า” เสียงเรียกทำให้ผมหันไปมองผู้ชายตัวสูงๆเดินมาทางผม หน้าตาคุ้นๆแต่จำไม่ได้
“จำพี่ได้เปล่า พี่ไผ่ไงที่ไปกินเหล้ากันวันนั้น”
“พี่ไผ่?”
“ใช่ เพื่อนไอ้แต๊ปไง”
ผมนึกถึงวันที่เฮียแต๊ปพาไปกินเหล้า คนชื่อไผ่……
“อ๋อ…พี่ไผ่ที่นั่งข้างๆผมใช่ป่ะ”
“เออๆนั่นแหละ ไม่เจอกันไม่กี่วันลืมพี่แล้วเหรอ”
“ขอโทษทีพี่”
“มึงนี่มัน…..หืม อ้าวนี่ใครวะ” พี่ไผ่หันไปมองไอ้พีม
“นี่ไอ้พีมมันเป็นรูมเมทผมอ่ะพี่”
ไอ้พีมยังนิ่ง
“หืม…”
“ว่าแต่พี่มาทำไรแถวนี้อ่ะ”
“มาห้องสมุดน่ะ”
“อ๋อ เรียนนิติศาสตร์ก็ต้องเคร่งธรรมดานี่เนอะ”
“นิติ? ใครเรียน”
“ก็พวกพี่ไง”
“เฮ๊ย เปล่าพี่เรียนวิศวะ”
“ก็เฮียแต๊ปมันบอกว่ามันเรียนนิติศาสตร์นี่พี่”
“มั่วแล้ว มันน่ะเรียนวิศวะเครื่องยนต์”
“ไอ้เฮียแต๊ปมันหลอกพ่อกับแม่เหรอ แบบนี้ต้องรายงาน”
“ทำไมเหรอ แต๊ปมันทำไม”
“พ่อผมเป็นทนายอยากให้ไอ้เฮียเรียน แต่มันกบฏน่ะสิ”
“อ๋อ…..”พี่ไผ่พยักหน้า
แล้วนะมันหลอกมาได้ตั้ง3ปีอ่ะ สุดยอดคนเลย ผมกำลังเดือดระอุที่ถูกไอ้เฮียบ้าหลอกมาได้ตั้งนาน โง่อีกกู
“เอ่อ พี่เป็นคนทำให้เกิดเรื่องแย่เปล่าเนี่ย”
“ไม่เลยพี่ ต้องขอบใจพี่จริงๆ กลับไปบอกไอ้เฮียด้วยนะว่าให้มาเครียร์ผมด่วนเลย”
“ได้ๆเดี๋ยวไปบอกเมียมันให้”
ผมนิ่ง
ส่วนพี่ไผ่เบิกตากว้าง ประมาณว่ากูซวยแล้ว
“ว่าไงนะ!!!”
มอคราม
มอคราม
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 141
Join date : 01/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ