กิจกรรมสร้างงานให้เป็นเล่ม
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search

Latest topics
» Who’s the KING? } 16 [END]
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:30 pm

» Who’s The KING? } 15 - Special part form Pramuk.
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:25 pm

» Who’s the KING? } 15
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:23 pm

» Who’s the KING? } 14
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:09 pm

» Who’s the KING? } 13
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:01 pm

» Who’s the KING? } 12
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 6:50 pm

» Who’s the KING? } 11
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 6:40 pm

» Who’s the KING? } 10
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 5:59 pm

» Who’s the KING? } 9
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:39 pm

» Who’s the KING? } 8
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:31 pm

» Who’s the KING? } 7
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:19 pm

» Who’s the KING? } 6
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 1:49 pm

» Who’s the KING? } 5
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:57 am

» Who’s the KING? } 4
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:43 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #2 (จบ)
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:26 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #1
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:13 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /14 (จบ)
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:03 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /13
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:54 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /12
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:43 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /11
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:33 am


Who’s the KING? } 5

+5
tookta
memoapp
coldcream
Sier
คราม
9 posters

Go down

Who’s the KING? } 5 Empty Who’s the KING? } 5

ตั้งหัวข้อ by คราม Wed May 21, 2014 7:36 pm

Who’s The KING?
5
 
นานๆ ทีผมถึงจะได้ออกมาอ่านหนังสือกับเพื่อนในเอก เพราะโดยปกติผมมักจะนั่งอ่านคนเดียวในห้องเงียบๆ ขนาดไอ้บุ๊คที่อยู่ร่วมห้องกันก็ยังออกมาอ่านด้วยกันแบบนับครั้งได้ ถ้ามีอะไรที่อ่านแล้วไม่เข้าใจจริงๆ ถึงจะออกมาถามเพื่อน แต่ครั้งนี้ผมยอม เรื่องที่จะออกสอบปลายภาคนี้มันยากเกินกว่าที่ผมจะอ่านคนเดียวได้เลยติดสอยห้อยตามไอ้บุ๊คมาอ่านกับเพื่อนที่มหาลัยด้วยคน


พวกผมเซ็ตเดิมกับที่ทำรายงานด้วยกันเมื่อครั้งก่อนพากันมานั่งในร้านข้างมหาลัยชั้นสองที่ค่อนข้างเงียบเพราะไม่ได้เปิดใช้งานในวันนี้ แต่ทำไมผมถึงขึ้นมาได้น่ะเหรอ หึหึ ร้านแม่ไอ้ตี๋มันครับ เพราะงั้นเลยได้รับสิทธิพิเศษกันแบบสุดๆ แอร์ก็พร้อมที่นั่งก็เลิศ บรรยากาศก็เงียบ ถ้าตัวคนมันตั้งใจก็อ่านได้ยาวเลยครับ แต่ผมเลยจุดนั้นมาแล้ว เลยจุดที่ตั้งใจกลายเป็นขี้เกียจมาแล้วตอนนี้


“มึงเข้าใจแล้วเหรอ ถึงได้นอนเลื้อยขนาดนี้”


“เข้าใจแล้ววววว กูเบื่อแล้วอ่า เลิกอ่านเหอะ” เสียงยานยาวพอๆ กับสันหลัง ง่ายไหม ขี้เกียจก็เลิกอ่าน


“ตี๋มาช่วยแม่ทำงานแป๊ปหนึ่งสิ!


เสียงแม่ไอ้ตี๋ตะโกนขึ้นมาจากชั้นหนึ่ง แต่ไอ้ตี๋ก็หาได้สนใจไม่มันยังคงตั้งใจอ่านหนังสือต่อไป คนอื่นๆ ก็ด้วย ผมชะโงกหน้าลงไปดูเพรานั่งติดริมสุด คนเข้าร้านเยอะกว่าตอนที่พวกผมมาเสียอีก อาจจะเพราะว่านี่มันก็เป็นเวลาเลิกเรียนแล้วแถมร้านแม่มันยังอยู่ในละแวกโรงเรียนและมหาลัยคนเลยค่อนข้างเยอะเป็นพิเศษ


“ไอ้ตี๋!!


“กำลังจะลงไป”


“เดี๋ยวกูไปเองๆ มึงอ่านไปเถอะ” ไอ้ตี๋ตะโกนตอบกลับ แต่ก่อนที่มันจะลุกไปผมก็คว้าแขนมันไว้ แล้วอาสาเสนอตัวเพราะมันกำลังอ่านหนังสือกันได้ที่ แต่ตัวผมน่ะอิ่มตัวแล้ว อ่านต่อไปก็ไม่เข้าหัวขออาสาไปช่วยงานแม่มันแทนดีกว่า


 
แม่ไอ้ตี๋ดูงงๆ ที่เพื่อนลูกลงมาแทน แต่พอผมบอกไปว่าผมอ่านหนังสือไม่เข้าหัวอีกต่อไปแล้ว แม่แกก็หัวเราะรวนแล้วให้ผมไปช่วยรับออดอร์ ผมเดินเข้าไปยังโต๊ะมุมสุดที่เห็นเพียงหัวด้านหลังของคนนั่ง แต่ทันทีที่ไปถึงก็อยากจะขอเปลี่ยนไปโต๊ะอื่นทันที ไอ้สองคนที่ว่าก็คือไอ้ประมุขกับเพื่อนมิงค์ของมันนั่นเอง


“อะ.. อ่าว คุณเพื่อนคนนั้นนี่หว่า ทำงานที่นี่ด้วยเหรอ” ตอนนั้นยังเรียกกูน้องอยู่เลยนะ


“รับอะไรครับ” ผมเลี่ยงที่ตอบ เอาง่ายๆ คือไม่อยากเสวนาด้วย ไอ้มิงค์ทักผมแลดูสนิทสนม แต่ไอ้คนที่ผมมีคดีด้วยกลับนั่งนิ่งๆ มีหญิงคนเดิมที่ผมเคยเจอเมื่อครั้งที่คอนโดนั่งอยู่ข้างๆ พากันเปิดเมนูดูโดยไม่สนใจคนรอบข้าง มีแต่เพื่อนของมันที่ดูเหมือนว่ามันอยากจะจ้อกับผมเสียเหลือเกิน


“อันนี้อะไรอ่ะ อร่อยไหม ว่าแต่ทำงานที่นี่ด้วยเหรอ”


“ไม่ทราบครับ”


“ถ้างั้นเอาอันนี้แหละ แล้วทำงานที่นี่ด้วยเหรอ”


ผมกระพริบตาปริบๆ ปล่อยแขนที่มีสมุดเล็กกับปากกาสำหรับจดลงข้างตัว พ้อยท์ขาเหมือนนักเลงแล้วมองหน้าเพื่อนมิงค์อย่างหาเรื่อง


“เออ! ทำ ก็เห็นอยู่ว่าทำจะถามอะไรหนักหนา”


“ก็แค่เนี่ย แค่ตอบมันยากเหรอ”


“ไม่ยากเว้ย แต่กูแค่ไม่อยากคุย จะรับอะไรเพิ่มไหมครับ”


ประโยคแรกผมพูดกับมิงค์ ส่วนประโยคที่สองผมกันมาทางไอ้ประมุขเต็มๆ มันมองผมเฉยๆ แล้วหันไปบอกให้ผู้หญิงของมันสั่งให้แทน คุณเธอเลยพลั่งพรูเมนูออกมาจนผมจดแทบไม่ทัน ผมทวนเมนูอีกครั้ง ก่อนหมุนตัวกลับก็หันไปแยกเขี้ยวให้เพื่อนมันอีกรอบหนึ่ง โดยที่ไม่มีไอ้ประมุขกับผู้หญิงของมันอยู่ในสายตาเลย


จากที่ตั้งใจจะว่าจะแค่ไปรับเมนูแล้วก็จะให้คนอื่นไปจัดการที่โต๊ะไอ้ประมุขต่อก็กลายเป็นว่าผมต้องรับผิดชอบโต๊ะนี้พร้อมโต๊ะอื่นๆ ไปด้วยเพราะพนังงานต่างก็มีโต๊ะให้รับผิดชอบกันคนละหลายโต๊ะแล้ว จะให้มาเปลี่ยนกันก็คงไม่ได้ สุดท้ายเลยต้องเจอกับสามคนนั้นทั้งตอนรับออเดอร์ เสริ์ฟของ ซึ่งพวกมันสั่งกันบ่อยมาก  โดยมีไอ้บ้ามิงค์คอยกวนตีนผมทุกรอบ


“ไม่กวนตีนกูสักรอบจะตายไหม”


“โห ทำโหด ก็คนมันเหงานี่ ดูดิ เพื่อนกูแม่งก็มากับแฟนไง”


ไอ้มิงค์ทำหน้ากวนตีนแล้วบุ้ยปากไปทางตรงข้าม แล้วมึงจะตามมาทำไมตั้งแต่แรก ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ประมุขเงยหน้าจากหน้าสมุดที่มันกับแฟนพากันสนใจเมื่อครู่มายักคิ้วให้เพื่อนตัวเองแล้วเลยมามองที่ผม เรามองหน้ากันแต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา


“มึงก็กลับไปสิ อยู่เป็นก้างทำไม แล้วไม่ต้องสั่งอะไรแล้วนะ กลับๆ กันไปได้ล่ะ คนอื่นเขาจะได้มีที่นั่งกัน” เบาครับ ประโยคนี้พูดเบาๆ กลัวพี่คนอื่นหรือไม่ก็แม่ไอ้ตี๋มาได้ยิน ซ่ามากกูมาไล่ลูกค้าเขาเสียอย่างนั้น มันไม่ตอบไม่พูดอะไรแต่แลบลิ้นให้ผมกวนๆ ด้วยความหมั่นไสผมเลยเตะขาไอ้มิงค์ไปทีก่อนจะเดินมาช่วยพี่ๆ คนอื่นต่อ




จนพระอาทิตย์เริ่มลาขอบฟ้าไปคนก็เริ่มน้อยลงจนพี่พนังงานไม่ต้องเหนื่อยวิ่งวุ่นเท่าช่วงบ่าย ผมเองก็ขึ้นมาเก็บของข้างบนเพื่อเตรียมตัวกลับบ้านใครบ้านมัน โดยมีค่าจ้างที่ผมไปช่วยงานเป็นเค้กคุ้กกี้อัลมอนด์แบบพิเศษสำหรับผมคนเดียว

“เฮ้ย เพิ่งจะกลับกันเหรอ” เจอมันอีกล่ะ! ไอ้บุ๊คหันมามองหน้าผมเป็นเชิงถามว่าคนที่อยู่ในรถนั่นใคร


“เพื่อนไอ้ปอนด์”


“รู้จัก?”


“คิดว่านะ” เอาจริงๆ กูไม่ได้อยากรู้จักอ่ะ “มาๆ เดี๋ยวไปส่ง”


มิงค์กวักมือเรียกจากในรถ ผมส่ายหน้ารัวแอบมองเข้าไปก็ไม่มีใครนอกจากมัน จะให้ขึ้นรถไปกับที่เพิ่งรู้จักกันสองวันก็แปลกๆ อยู่นะ


“ทำไมว้า คอนโดไปทางเดียวกันนะเว้ย ไม่ต้องเกรงใจ”


“มึงรู้เหรอว่าคอนโดกูอยู่ไหน รู้ได้ไง”


“ไอ้ปอนด์บอกมาแหละ มาๆ มาขึ้นเร็ว เดี๋ยวกูโดนเจ้าของร้านเดินออกมาตบข้อหาจอดขว้างทางร้านนะ”

ผมรี่ตามองมันแว็บหนึ่งแล้วลากไอ้บุ๊คมาขึ้นรถด้วยกัน ผมตั้งใจจะนั่งข้างหน้าข้างไอ้มิงค์แต่ไอ้บุ๊คดันแทรกตัวเข้าไปนั่งก่อนผมเลยต้องมานั่งข้างหลังคนเดียวแทน พอขึ้นมาบนรถได้ไอ้คนขับก็ยิ้มร่าแล้วออกรถไป ระหว่างทางมันยิ้มให้ผมผ่านกระจกบ่อยๆ จนผมเริ่มคิดแล้วว่ามันอาจจะเป็นคนบ้า ยิ้มอยู่นั่น


“คนข้างๆ กูนี่คงเป็นคนที่ไอ้ปอนด์เล่าให้กูฟังสินะ”


“เล่าว่าอะไร” เป็นบุ๊คที่ถามไม่ใช่ผมแต่อย่างใด ดีๆ กูก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันไปเล่าเรื่องของผมกับไอ้บุ๊คว่าอย่างไร


“บอกว่าเป็นคู่เกย์กัน”


“ตลกล่ะ สัด พวกกูเป็นเพื่อนกันเถอะ”


“กูก็ว่าอย่างนั้นนะ พวกมึงคงไม่เล่นเลสกันหรอก เดี๋ยวไปแก้ให้ มันแม่งบ้า ชอบคิดไปก่อนเอง”


“เออ เพื่อนมึงมันบ้า แล้วพวกกูก็ไม่ใช่ลงไม่ใช่เลลสด้วย” ไอ้บุ๊คพูดขึ้น ผมเห็นมันกำมือจะชกด้วยแต่คงยั้งใจไว้ทัน ไม่งั้นได้ตายโหงกันทั้งรถแน่ ไอ้มิงค์หัวเราะรัวยาวๆ แล้วมองผมผ่านกระจกก่อนจะเอ่ยปากถาม


“เพื่อนมึงชื่อไร” อ่าว ไอ้นี่ อยู่ข้างๆ ทำไมไม่ถามกันเองว่ะ


“บุ๊ค”


“ยินดีที่ได้รู้จัก กูมิงค์นะ” พอมันได้รู้ชื่อไอ้บุ๊คจากผมแล้วก็ทำเป็นยื่นมือไปจะเช็คแฮนด์แต่ไอ้บุ๊คปัดมือออก


“ชื่อหญิงสัด”


“ฮ่าๆ น้องกูชื่อมายด์แหละ สวยจ๋าเลยมึง อย่าสนใจนะกูหวง” เดี๋ยวนะ.. บอกผมทีว่าใครถามชื่อน้องมัน ได้ข่าวว่าเขาด่าชื่อมึงนะ ไอ้บ้านี่


รถของไอ้มิงค์พาผมกับบุ๊คมาถึงที่หมายตอนสองทุ่มกว่าๆ ทางไม่ได้ไกลมาก แต่รถค่อนข้างติด ตลอดทางมีไอ้มิงค์ที่พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องดังคลอมาตลอดทาง ผมก็ต่อมุกเล่นกลับบ้าน ไอ้บุ๊คก็นานๆ ที่จะแทรกเข้ามา ส่วนมาก็เพราะโดนไอ้มิงค์กวนเลยต้องด่ากลับ สรุปแล้วไอ้มิงค์มันก็ไม่ได้แย่อะไร แค่ออกจะบ้าไปสักหน่อย คบไว้ก็ไม่เสียหาย ถือว่าได้มีเพื่อนคณะอื่นบ้างอะไรบ้าง




 
“มาช้านะพี่”


“ให้กูมาช้าบ้างเถอะ นักกีฬารึก็ไม่ใช่”


ผมบ่นใส่ไอ้นายไปที แล้วเดินไปนั่งบนโต๊ะที่มีสารพัดเอกสารและสมุดบัญชีวางอยู่ หยิบๆ ดูพอเห็นว่าไม่มีงานค้างก็วางมันไว้ที่เดิม ไม่นานอาจารย์ก็เดินเข้ามาในห้อง เดินดูนู่นดูนี่ไปเรื่อยแล้วนั่งลงบนโต๊ะหยิบงานขึ้นมาทำ ปกติครับ ห้องชมรมก็เหมือนที่ลี้ภัยเพราะว่าทั้งกว้างทั้งสบายเลยชอบพากันมาพักผ่อนที่นี่รวมไปถึงทำการทำงานด้วย แต่พักหลังๆ ห้องมันดูระเกะระกะไปหน่อย


“จารย์ ขอดูคะแนนที่เพิ่งสอบไปหน่อยได้ป่ะ”


“ไม่ได้ นี่มันคะแนนลับ”


“โธ่ นิดเดียวเอง ไม่บอกใครหรอก”


“พอเลยๆ มาช่วยยกโต๊ะดิ๊ ทั้งคู่เลย”


คะแนนก็ไม่ได้ดูแถมยังโดนใช้อีก ผมกับไอ้นายลุกขึ้นกันอย่างเนือยๆ ช่วยอาจารย์แกยกโต๊ะนู้นมาไว้โต๊ะให้ห้องมันมีระเบียบขึ้นมาหน่อย


ตุ้บ!


“โอ้ย!!! แม่ง ยกมาตั้งนานไม่ทับมาทับเอาตัวสุดท้าย ผมร้องเสียงหลงพยายามยกโต๊ะที่ทับเท้าออก จนไอ้นายมือดีที่ปล่อยโต๊ะใส่เท้าผมเต็มๆ ต้องเข้ามาช่วยยกอีกแรง อาจารย์เองก็เข้ามาหาพลางช่วยยกด้วย


“เฮ้ย พี่ขอโทษๆ ไม่ได้ตั้งใจนึกว่าพี่เอาเท้าออกแล้ว”


“ซี้ดดด มุมด้วย ท่าจะเจ็บหนัก ถอดรองเท้าออกมาดู เลือดออกเปล่า”


“มะ.. ไม่หรอก คงไม่ขนาดนั้นหรอก”


ผมว่าแล้วค่อยๆ กระเผลกตัวเองไปนั่งที่เก้าอี้ ไอ้นายเข้ามาเลียแข้งเลียขาขอโทษยกใหญ่ ผมเองก็ไม่ได้ติดอกติดใจอะไรหรอก เพราะมันไม่ได้ตั้งใจอยู่แล้ว มันก็แค่อุบัติเหตุแล้วผมดันซวยแค่นั้นเอง


“พี่โอเคแน่นะ ไปห้องพยาบาลป่าว ผมพาไป”


“เออ โอเค เริ่มหายเจ็บแล้ว มึงเหอะ ไปซ้อมดิ”


“พี่ไปด้วยกันดิ วันนี้พี่ปอนด์ก็มา”


“ไม่อ่ะ ขี้เกียจ” ไม่อยากเจอหน้าไอ้หมาปอนด์นั่น ผมต่อท้ายในใจ แต่ไอ้นายก็ยังนั่งตาแป๋วอ้อนให้ผมไปด้วย ไอ้ผมเองก็ใจแข็งได้ไม่นานสุดท้ายก็ยอมไปกับมัน ไอ้นายรีบเข้ามาทำท่าจะช่วยพยุงแต่ผมห้ามไว้ก่อน เพราะว่ามันไม่ได้เจ็บอะไรแล้ว เดินได้ปกติ พากันบอกลาอาจารย์แล้วก็ไปที่โรงยิมกัน


โรงยิมที่ว่าก็เป็นโรงยิมขนาดใหญ่ที่รวมหลายกีฬา แล้วค่อยแยกย่อยออกมาแต่ละประเภทไปอีกที มีตาข่ายกั้นไว้ไม่ให้เลยเขตกันในเวลาซ้อมส่วนตอนแข็งก็จัดคิวกันอีกที ส่วนมากเลยไม่ค่อยมีปัญหากันเท่าไร อย่างตอนนี้เฟนชิ่งก็ซ้อมอยู่ริมสุดของโรงยิม


ผมนั่งดูคนอื่นๆ รวมทั้งนายประมุขซ้อมอยู่ที่นั่งข้างๆ พวกเขาแบ่งคู่ซ้อมกัน ตอนแรกคู่ของประมุขเป็นไอ้ดอน พอไอ้นายเข้าไปประมุขก็ขอเปลี่ยน เท่าที่ดูไอ้นายก็ฝีมือเข้าขั้น ตอนซ้อมอย่างเจ๋ง แต่ตอนแข่งกลับชอบมึนๆ เบลอๆ บ่อยๆ คะแนนเลยไม่ค่อยดีนัก สุดท้ายก็หลุดจนเกือบไปอยู่อันดับสุดท้าย


ผมกวาดสายตาไปที่นั่งกีฬาทุกคน แม้ว่าจะมองไม่เห็นหน้าตาเพราะทุกคนใส่มาร์กกันอยู่ แต่ผมก็พอจะเดาลักษณะหรือส่วนสูงได้บ้าง ไม่มีนรินทร์.. อดเฟลเบาๆ ไม่ได้ที่คำพูดของตัวเองมันไม่ได้ผล ไม่สามารถที่จะดึงนรินทร์ให้มาเข้ารับการคัดเลือกครั้งนี้ได้ กี่วันแล้วที่ไม่ได้ไปหานรินทร์เลย จะให้กลับไปตามตื้ออีกผมว่าครั้งนี้คงได้โดนด่ากันบ้างล่ะ


ผมกรอกตาไปมาอย่างใช้ความคิดก่อนสายตาจะปะทะเข้ากับประมุขที่เพิ่งถอดมาร์กออกเมื่อครู่ พอเห็นหน้ามันแล้วหน้าผมก็บึ้งขึ้นมาทันที คดีเก่ายังไม่เคลียร์อย่าคิดว่าจะยอมดีด้วยง่ายๆ พอผมทำหน้าบึ้งใส่มันกลับทำหน้าจ๋องๆ กลับมาเหมือนไม่ใช่นายประมุขคนกร่างก่อนจะกลับไปตั้งใจซ้อมกับไอ้นายต่อ


ผมนั่งดูไปสักพักก็รู้สึกเจ็บแปลบๆ ที่เท้าข้างที่โดนโต๊ะทับเลยตั้งใจว่าจะกลับบ้านเลยจะได้ไปดูสภาพเท้าตัวเองด้วย ไอ้นายยังซ้อมอยู่ผมก็ไม่อยากขัดเลยเขียนโน้ตสั้นๆ ติดไว้ที่กระเป๋ามันแล้วค่อยเดินออกมา รู้สึกนิดๆ ว่าตัวเองเดินไม่ค่อยตรง แถมยังเจ็บแปลบๆ ทุกครั้งที่วางเท้าอีกต่างหาก




 
ผมพาตัวเองออกมายังไม่ทันพ้นโรงยิมดีแขนก็ถูกกระชากโดยใครบางคนที่ที่เพิ่งทำหน้าจ๋องใส่ผมเมื่อครู่ มันกระชากผมลงไปนั่งที่ม้านั่งสีน้ำตาลพอดีก้นอย่างแรง เจ็บยันสันหลังเลยให้ตายดิ


“อะไรของมึงเนี่ย! ปล่อยเลยนะไม่ต้องมาจับ”


ผมว่าแล้วชักเท้าหนีมือของมันที่กำลังจะยื่นมาจับเท้าของผม มันวางกล่องยาฉุกเฉินไว้ๆ ข้างตัว ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้แล้ววางแขนไว้ที่หัวเข่าตัวเอง มันออกมาพร้อมกับชุดเฟนชิ่งสีขาวตัวเก่งของมันนั่นแหละ


“เท้าเจ็บไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวจะดูให้”


“ดูทำไม ไม่ต้องมาดู เดี๋ยวทำเอง.. เฮ้ย! บอกว่าอย่าจับไง”


“อะไรหนักหนาวะ ห๊ะ กูจะช่วยเนี่ย จะช่วย ไม่ได้จะมาแกล้ง” มันปัดผมตัวเองไปมาจนผมยุ่งไม่เป็นทรง เมื่อกี้ยังพูดดีตอนนี้ขึ้นเสียงใส่กูอีกล่ะ ดีได้ไม่ถึงห้านาทีนิสัยเดิมก็โผล่


“ไม่ต้องมายุ่ง กูไม่อยากโดนตัวคนปากหมา พูดอะไรใส่กูไว้มึงจำไม่ได้เลยหรือไง ขอโทษสักคำยังไม่มี”


ผมใส่เต็มแรง ยกมือขึ้นจะตบหัวมันด้วย แต่ชะงักไว้ทันเพราะกลัวเอฟเฟ็คจากมัน ถ้าผมตับหัวมันมันอาจจะถีบผมกลับมาก็เป็นได้


“ถ้าขอโทษแล้วจะให้จับเหรอ”


“อะไร! พูดดังๆ ดิ๊”


“ขอโทษ!!! เอาขามึงมาดูได้แล้ว กลัวขาจะไม่หายหรือไง” ผมชะงักไปแวบหนึ่ง ขาข้างที่โดนทับก็ไปอยู่ที่มือของมันเรียบร้อยมันค่อยๆ ถอดรองเท้าออกอย่างเบามือ แล้วดูแผลให้ มันเกิดรอยช้ำสีม่วงวงใหญ่ๆ แถมยังมีเลือดคลั่งตรงเล็บอีก มันประคบประหงมเท้าผมอย่างเบามือแล้วค่อยๆ ทายาแก้ปวดลงไป แต่ ณ เวลานี้ความเจ็บไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกกังวลเท่ากับกลิ่นเท้าที่แฝงอยู่ในคอนเวิร์ดทั้งวันกลิ่นคงไม่ธรรมดาแน่ๆ อายวะ


“เสร็จยัง”


“ที่กูขอโทษเพราะกูรู้แล้วว่าผิด”


“เออ รู้ก็ดี เสร็จยังเนี่ย” เร็วๆ กูอายกลิ่นเท้า


“เอาจริงๆ กูก็เคืองมึงนิดหน่อยที่ไม่ค่อยเข้าชมรม อยู่กินกับผู้ชายแล้วก็เอาแต่ไปตามไอ้นรินทร์อีก แต่กูรู้ล่ะว่านั่นเพื่อนมึง”


“ไอ้ห่า ที่กูต้องไปตามนรินทร์ก็เพราะมึงขู่กูไม่ใช่เหรอ แล้วกูไม่ใช่นักกีฬาแบบพวกมึงนะ จะเข้ามาบ่อยๆ ทำไม”


มันมองผมแล้วกระพริบตาปริบๆ แล้วพึมพัมอะไรสักอย่างกับตัวเองที่ผมจับใจความได้แค่ว่า เออวะ กูขู่มันไว้นี่หว่าผมรีบใส่รองเท้าทันทีที่มันปล่อยมือ แล้วผลักไหล่มันไปที


“อะไร หาเรื่องเหรอมึง”


“ทีหลังมึงอย่าไปว่าใครเขาแบบนี้อีกนะ”


“หือ”


“ก็ที่พูดกับกูแบบนั้นไง มันไม่ดี ไม่ค่อยจะเหมาะกับหน้าหล่อๆ ของมึงด้วย”


“หะ.. เอ่อ.. เออ ขอโทษล่ะกัน” มันว่าเสมองไปทางอื่นแล้วเกาแก้มตัวเองเบาๆ


“แล้วเรื่องไอ้นรินทร์ กูยังไม่เห็นมันมาซ้อมสักที”


“ไม่รู้สิ นรินทร์อาจจะไม่มาก็ได้ ขอโทษทีแล้วกันถ้าทำให้มึงต้องเสียศักดิ์ศรี”


“ที่ไปตามให้ผมมาแข่งก็เพราะแบบนี้ด้วยสินะ แลนด์”


เสียงทุ่มของนรินทร์ดังขึ้นมาพร้อมกับการปรากฏตัวของเขา ผมกับประมุขมองหน้าผู้มาใหม่ด้วยสายตาที่แตกต่างกันไป ปอนด์กับนรินทร์มองหน้ากันอย่างท้าทาย ผิดกับของผมที่มีเพียงรอยยิ้มจางๆ ไม่ได้มีความหมายอื่นๆ แฝงอยู่ หรืออาจจะมีแต่ผมดูมันไม่ออกเอง


“มึงจะลงไม่ลงบอกมาเลย”


ปอนด์ลุกขึ้นยืนปะทะสายตากับนรินทร์เต็มความสูงแล้วพูดอย่างหาเรื่อง ส่วนตัวผมได้แต่พยายามจะลุกขึ้นเพื่อเตรียมตัวไปห้ามสองคนนั้นในกรณีที่เกิดการชกต่อยขึ้น


“ตอนแรกก็ว่าจะไม่ลง”


“งั้นมาแข่งกันให้รู้ไปเลย”


“มั่นใจขนาดนั้นเลย คิดว่าจะชนะได้อีกรอบงั้นเหรอ”  น้ำเสียงและท่าทางของนรินทร์ยี่ยวนกวนประสาทอย่างที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน เขายกยิ้มมุมปากให้ปอนด์อย่างกับคนที่เหนือกว่า


“ก็ไม่แน่ ครั้งนั้นกูชนะได้ ครั้งนี้กูก็ต้องชนะได้” เดี๋ยวนะ ครั้งนั้น.. ครั้งนั้นที่ว่าคงไม่ใช่เมื่อตอนม.ปลายที่นรินทร์ได้ที่สองอะไรนั่นใช่ไหม


“ไม่เอาน่า ถ้าแข่งรอบเดียวจบ ประมุขก็จบเลยสิ มาแข่งกันเป็นรอบๆ ตามกติกาที่โค้ชตั้งไว้ดีกว่า แฟร์ๆ ดี”


“แปลว่านรินทร์จะลงใช่ไหม” ผมโพล่งออกไปด้วยความดีใจที่ปิดไม่มิด แต่ไม่มีใครสนใจผมสักคน


“ทำเป็นพูดดี มึงกลัวตัวเองแพ้มากกว่ามั้ง”


ผิดคลาด ผมคิดว่าประมุขจะโมโห ฟาดงวงฟาดงาทันทีที่นรินทร์จบประโยคเสียอีก กลับกันเขากลับสงบได้อย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยบุคลิกห่ามๆ กร่างๆ อย่างเขาน่าจะปล่อยหมัดออกไปได้ตั้งนานแล้ว นรินทร์ไม่ตอบกลับแต่เดินเข้ามาประคองผม ก่อนจะยิ้มให้


“ถ้าบอกว่าโดนประมุขขู่ ผมคงไม่คิดนานขนาดนี้”


“อ่า.. เอ่ออ มันก็แค่ส่วนหนึ่งน่ะ แต่ที่พูดไปนั่นเรื่องจริงๆ คิดแบบนั้นจริงๆ ไม่ได้โกหกหรือแค่พูดให้สบายใจ”


ผมตะกุกตะกักบอกออกไป เพราะกลัวว่านรินทร์จะเข้าใจผิดแล้วมองผมไม่ดี ผมคงจะรู้สึกไม่ดีแน่ๆ ถ้านรินทร์เข้าใจผมผิดแล้วมองผมด้วยสายตาหมางเมินเหมือนคนไม่เคยรู้จักกัน


“ครับ รู้ครับว่าไม่โกหก เดี๋ยวไปส่งนะ ไถ่โทษที่วันนั้นไม่ได้ไปส่งด้วย” ผมยิ้มบางๆ ให้นรินทร์แล้วมองไปที่ประมุข หมอนั่นก็กำลังจ้องมาที่ผมกับนรินทร์พอดี มันเดินเข้ามาจับแขนผมไว้


“มันขาเจ็บอยู่ เดี๋ยวกูไปส่งเอง”


“ไม่เป็นไร คุณไปซ้อมต่อเถอะ แล้วพรุ่งนี้เจอกันกับรอบแรกของการเก็บคะแนน” นรินทร์พูดแล้วปัดมือของประมุขออกจากแขนผมอย่างเบามือแล้วประคองผมออกมา ยังเดินกันไม่พ้นต้นไม้ที่อยู่ข้างๆ ดี นรินทร์ก็หยุดแล้วหันไปหาประมุขผมที่โดนประคองอยู่ก็พลอยหันไปด้วย


“ผมคิดว่าพรุ่งนี้จะไม่แพ้นะ รวมถึงครั้งต่อๆ ไปด้วย”



นรินทร์พูดแค่นั้นแล้วก็พาผมเดินต่อ ผมที่รู้สึกไม่ดีนิดๆ ที่ต้องมาอยู่ระหว่างสงครามของสองคนนี้ก็ได้แต่เหงื่อตกบนหน้าผากแล้วหันไปหาประมุขมันเองก็มองมาอยู่ ผมเลยฉีกยิ้มกว้างๆ ไปให้ แต่รอยยิ้มของมันที่ส่งกลับมาดันเป็นการยิ้มยกมุมปากแบบเจ้าเล่ห์ ขอเถอะ อย่าได้คิดอะไรแปลกๆ อีกเลย 




TBC 
หายไปนานมากกกกกกกกกก ไม่มีอะไนจะแก้ตัว เราแต่งสองตอนนี้เสร็จตั้งแต่ต้นเดือนแต่ว่าเจอมหกรรมสอบวันเว้นวันเข้าไปช็อคค่ะ ต้องตั้งหน้าตั้งแต่อ่านหนังสืออย่างเดียวเลย แต่ตอนนี้ใกล้จะจบซัมเมอร์แล้วน่าจะมีเวลาว่างกว่าเดิมหน่อย (ถ้าไม่ได้ทำงานพิเศษ) 
แล้วพบกันใหม่นะคะ 
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ 
คราม
คราม
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 41
Join date : 01/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Who’s the KING? } 5 Empty Re: Who’s the KING? } 5

ตั้งหัวข้อ by Sier Thu May 22, 2014 2:46 pm

เข้ามาติดตามอย่างใกล้ชิด!!

มดเริ่มตอมแล้ว>_< ฟินเล็กๆ

สู้ๆนะคะ รอตอนต่อไปคะ^^

Sier
นักอ่าน

จำนวนข้อความ : 107
Join date : 11/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Who’s the KING? } 5 Empty Re: Who’s the KING? } 5

ตั้งหัวข้อ by coldcream Thu May 22, 2014 8:46 pm

รออ่านต่อนะคะ สนุกค่ะ

coldcream
นักอ่าน

จำนวนข้อความ : 11
Join date : 07/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Who’s the KING? } 5 Empty Re: Who’s the KING? } 5

ตั้งหัวข้อ by memoapp Fri May 23, 2014 10:16 pm

ความเข้มข้นกำลังจะมาแล้วสินะ สู้ๆเข้านะคะ
เอาใจช่วย

memoapp
นักอ่าน

จำนวนข้อความ : 46
Join date : 04/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Who’s the KING? } 5 Empty Re: Who’s the KING? } 5

ตั้งหัวข้อ by tookta Sat May 24, 2014 1:32 pm

ขอบคุณจ้า
ว๊าววววว !!! สงครามกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว
ยิ่งใหญ่ไปไหม ฮ่าฮ่า
ติดตามจ้า เดิมพันครั้งนี้ดูมันช่างหนักหนายิ่งนัก
tookta
tookta
นักอ่าน

จำนวนข้อความ : 22
Join date : 17/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Who’s the KING? } 5 Empty Re: Who’s the KING? } 5

ตั้งหัวข้อ by เลื่อมประภัสสร Sun May 25, 2014 11:09 pm

ประมุขเริ่มน่ารักขึ้นแล้ว น่ารักแบบฉบับคนปากแข็ง หึหึ 
ส่วนนรินทร์ก็น่ารักต่อไปจ๊ะดีแล้ว ดูปกป้องแลนด์ดีเหลือเกิน เลื่อมปลื้ม 
แอบเชียร์ใครคงไม่ต้องบอกเลย
เลื่อมประภัสสร
เลื่อมประภัสสร
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 192
Join date : 01/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Who’s the KING? } 5 Empty Re: Who’s the KING? } 5

ตั้งหัวข้อ by 13cotton13 Mon Jun 02, 2014 9:25 pm

ศึกชิงนายแน่ๆเลยค่ะ
บอกไว้เลยงานนี้
นู๋แลนด์จะต้องเป็นรางวัลของผู้ชนะ (ไม่ใช่ล่ะ)
13cotton13
13cotton13
นักอ่าน

จำนวนข้อความ : 129
Join date : 03/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Who’s the KING? } 5 Empty Re: Who’s the KING? } 5

ตั้งหัวข้อ by TwInZZZ Mon Jun 23, 2014 5:18 pm

มาแล้วสงครามแย่งน้องแลนด์
ปอนด์ก็น่ารักดีนะ ซึนดี
ส่วนนรินทร์นี่ สุภาพบุรุษอยู่แล้วนะฮ้าาา

TwInZZZ
นักอ่าน

จำนวนข้อความ : 31
Join date : 21/06/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Who’s the KING? } 5 Empty Re: Who’s the KING? } 5

ตั้งหัวข้อ by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:57 am

สงครามเย็น (หรือสงครามโลก?) ปะทุแล้ว
น้ำไหล
น้ำไหล
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 172
Join date : 01/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ