กิจกรรมสร้างงานให้เป็นเล่ม
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search

Latest topics
» Who’s the KING? } 16 [END]
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:30 pm

» Who’s The KING? } 15 - Special part form Pramuk.
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:25 pm

» Who’s the KING? } 15
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:23 pm

» Who’s the KING? } 14
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:09 pm

» Who’s the KING? } 13
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:01 pm

» Who’s the KING? } 12
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 6:50 pm

» Who’s the KING? } 11
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 6:40 pm

» Who’s the KING? } 10
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 5:59 pm

» Who’s the KING? } 9
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:39 pm

» Who’s the KING? } 8
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:31 pm

» Who’s the KING? } 7
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:19 pm

» Who’s the KING? } 6
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 1:49 pm

» Who’s the KING? } 5
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:57 am

» Who’s the KING? } 4
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:43 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #2 (จบ)
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:26 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #1
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:13 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /14 (จบ)
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:03 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /13
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:54 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /12
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:43 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /11
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:33 am


ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #2 (จบ)

+3
เลื่อมประภัสสร
TwInZZZ
หมึกจีน
7 posters

Go down

ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #2 (จบ) Empty ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #2 (จบ)

ตั้งหัวข้อ by หมึกจีน Fri Jun 20, 2014 7:21 pm

ใครที่รอลุ้นฉากบู๊ ต้องขออภัยด้วยค่ะ (ทีแรกก็ว่าจะเขียน แต่มันจะลากยาวไป) เอาเป็นว่าให้บริบูรณ์ตรงนี้ก่อน ที่เหลือว่าจะไปจัดในเล่มไว้แจกนักอ่านที่เลือกของตัวเองอีกรอบค่ะ (จะมีใครสนหนังสือเราไหมนะ 555)


..........................................................................................................................................

ตอนพิเศษ #2 (จบ)


เวหานั่งอยู่ข้าง ๆ บอดี้การ์ดหนุ่มใหญ่ที่เบาะหลัง  ส่วนตำแหน่งคนขับมีชายในชุดดำเช่นกันขับรถไปเงียบ ๆ จนสักพักก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้คนด้านหลังต้องมองเบอร์มือถือพร้อมกับขมวดคิ้วยุ่ง ก่อนจะกดรับสายตามปกติ

"บอสครับ ทางคุณรวีรู้ตัวแล้วครับ แถมยังโมโหมาก และกำลังสั่งรวบรวมคนตามท่านไปติด ๆ แล้วครับ!"

"หือ...รู้ตัวไวกว่าที่คิดอีกนะ ...โอเค ไม่ต้องรายงานมาแล้ว เดี๋ยวฉันจัดการทางนี้เอง ...หึ ๆ รับรองน่า ไม่ทำให้เขาต้องมีอันตรายแน่ เขาเป็นคนรักคนสำคัญของซันนี่นะ"

เสียงที่สนทนากันเป็นภาษาอังกฤษ แต่เวหาก็ยังแปลได้อยู่ดี เจ้าตัวหน้าซีดเมื่อใจความที่ได้รับฟังนั้น มันช่างดูแตกต่างจากสิ่งที่คนข้างกายบอกมาก่อนหน้านั้น

"ทำไมเขาถึงเรียกคุณว่าบอสล่ะครับ...แล้วที่พี่ซันกำลังสั่งคนตามมาหมายความว่ายังไงครับ...คงไม่ใช่ตามมาด้วยกันเฉย ๆ เหมือนที่คุณเคยบอกไว้ใช่ไหมครับ"

คำถามที่ได้ยินทำให้คนฟังชะงัก ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ แล้วเอ่ยตอบเป็นภาษาอังกฤษ

"อืม...ฉันก็ลืมไปว่าความรู้ระดับเธอก็คงน่าจะฟังภาษาอังกฤษออกบ้าง...แต่การที่หัวไวแล้วคาดเดาสถานการณ์ได้ใกล้เคียง ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมอยู่ดีล่ะนะ"

คนพูดนั้นมีรอยยิ้ม ทว่าเวหานั้นไม่ได้ยิ้มตอบ เขาขยับตัวออกห่างแล้วพยายามจะเปิดประตูรถ ซึ่งก็ไม่เป็นผลเพราะมันเป็นล็อกอัตโนมัตินั่นเอง

"ถ้าฉันไม่อนุญาต ยังไงเธอก็หนีไปเองไม่ได้หรอก"

ชายวัยกลางคนเปลี่ยนภาษาที่พูดเป็นภาษาไทย พร้อมกับถอดแว่นตาออกเผยให้เห็นนัยน์ตาสีเขียว ซึ่งนั่นก็ทำให้เวหาชะงักเล็กน้อย เพราะไม่ว่าจะสีตาและโครงหน้าของอีกฝ่าย ก็ดูช่างแสนจะคุ้นชินตาคล้ายกับใครบางคนที่เขารู้จักอย่างน่าประหลาด

"หรือว่า...คุณจะเป็น พ่อของพี่ซัน"

คนฟังเลิกคิ้วนิด ๆ แล้วยิ้มน้อย ๆ ตามมา

"ถูกต้อง...อืม เธอนี่นะ นอกจากหัวไวแล้วก็ยังช่างสังเกตดีมาก...แต่ก็ไม่แปลกเท่าไหร่ เพราะซันมันก็ถอดแบบตอนฉันหนุ่ม ๆ มาไม่ค่อยจะผิดเพี้ยนนักล่ะนะ"

"แสดงว่าคุณเองก็ยังคงไม่เห็นด้วยเรื่องที่พี่ซันกับผมคบกันใช่ไหมครับ"

เวหาถามต่อ เมื่อทราบว่าเป็นบิดาของคนรัก เขาก็ใจชื้นขึ้นกว่าเดิม ถึงแม้ว่าจะพอรู้อยู่แก่ใจว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นถึงมาเฟียก็ตาม

"แน่นอน...และฉันก็เชื่อว่าไม่มีพ่อแม่คนไหน ที่จะยิ้มอย่างยินดีที่เห็นลูกชายตนเองไปคบผู้ชายด้วยกันหรอกนะ...อ้อ! คงยกเว้นพ่อแม่ของเธอที่เต็มใจยกเธอให้ลูกชายฉัน ...แต่ฉันก็เข้าใจดีอยู่หรอก เพราะทรัพย์สินเงินทองที่ลูกฉันมี มันก็ค่อนข้างมากอยู่ไม่น้อย"

บิดาของรวีเอ่ยขึ้นพร้อมยิ้มเหยียดซึ่งก็ทำให้คนฟังชะงัก ก่อนจะเม้มปากน้อย ๆ แล้วกำหมัดแน่นอย่างพยายามข่มอารมณ์โกรธที่พุ่งพล่านขึ้นทุกขณะ

"ผมและพ่อแม่ ยอมรับพี่ซัน เพราะพี่ซันแสดงให้เห็นถึงความจริงใจที่มีต่อผม ...ไม่ใช่เพราะหวังทรัพย์สมบัติอะไรอย่างที่คุณพูดมานั่นสักนิด"

"หึ! แล้วถ้าเกิดฉันตัดหางปล่อยวัดเจ้าซัน ไม่ให้มรดกมันสักแดง แถมยังยึดเงินทองที่มันมีติดตัวกลับคืน แทนค่าตัดขาดไม่ให้ฉันเข้าไปยุ่งเรื่องของมันกับเธอล่ะ เธอยังจะยินดีรับผู้ชายที่เหลือแต่ตัวอย่างลูกชายฉันอีกหรือเปล่า หือ?"

คนพูดบอกพร้อมยกยิ้มหยัน แล้วมองดูรวีที่ก้มหน้านิ่งเงียบไปด้วยสีหน้ายิ้มเยาะคล้ายคนเป็นต่อ ทว่าก็ต้องชะงักเมื่อคนฟังเงยหน้าขึ้นมาจ้องเขา พร้อมตอบกลับไปด้วยแววตาและน้ำเสียงที่หนักแน่น

"แน่นอนครับ ต่อให้พี่ซันจะเหลือแต่ตัว ไม่มีสมบัติติดร่างกายแม้แต่เศษเงินสักเหรียญ ...ถ้าเขายังคงรักและมั่นคงต่อผมเช่นเดิม ความรู้สึกที่ผมมีต่อเขาก็จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง....อีกอย่างต่อให้ไม่มีเงินมรดกตกทอดอะไรก็ตามนั่น ขอแค่ยังมีสองมือสองเท้า มีหนึ่งสมองที่พร้อมจะสู้ต่อไม่ยอมแพ้  ยังไงคนเราก็ไม่อดตายหรอกครับ"

บิดาของรวีนิ่งเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะถอนหายใจหนัก ๆ แล้วพิงกายไปกับเบาะนั่งด้วยท่าทางเหนื่อยอกเหนื่อยใจเล็กน้อย จากนั้นจึงเปรยขึ้นคล้ายพูดกับตัวเอง

"ตอนฉันยื่นข้อเสนอเดียวกันนี้เพื่อให้เจ้าซันมันตัดใจจากเรื่องของเธอที่อเมริกานั่น...รู้ไหมว่าเจ้าลูกชายตัวดีของฉันมันทำยังไง"

เวหาชะงักที่เห็นอีกฝ่ายพูดคล้ายชวนคุยด้วย แถมท้ายประโยคยังหันกลับมามองเขาอีก เด็กหนุ่มสั่นศีรษะค่อย ๆ ซึ่งก็ทำให้คนพูดยิ้มน้อย ๆ แล้วเอ่ยต่อ

"ไอ้เจ้าลูกบ้านั่นมันตอบตกลงโดยไม่ลังเล มันคืนทุกสิ่งทุกอย่างที่ติดตัวมันตอนนั้น ยกเว้นเสื้อผ้า ที่บอกว่าขอใส่ติดตัวไว้ก่อนกันอนาจาร เดี๋ยวหาเงินเองแล้วได้เสื้อผ้าใหม่จะถอดสูทที่มันใส่มาคืนให้อีกที...ตอนนั้นฉันนี่โมโหจนพูดแทบไม่ออก เลยไม่คิดสนใจมันอีก...หลังจากนั้นมันก็หายหัวไปจากบ้านสามวัน พอวันที่สี่ก็มีชุดสูทแพคใส่กล่องส่งไปรษณีย์มาคืนที่บ้าน  ฉันเลยให้ลูกน้องไปสืบดูว่ามันทำอะไรอยู่  หึ! ก็เลยได้พบว่าเจ้าลูกบ้านั่น มันกำลังทำงานอย่างขยันขันแข็งเป็นเด็กเสิร์ฟในบาร์เสียอย่างนั้น แถมยังได้ทิปจากทั้งสาวทั้งหนุ่มที่คิดจะหิ้วมันกลับบ้านเสียมากอีกด้วย... ไอ้ฉันพอเห็นแบบนั้น ก็เลยต้องยอมแพ้ เพราะเจ้าซันมันทำให้ฉันเห็นว่า มันไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเงินของพ่ออย่างฉัน มันก็ยืนด้วยลำแข้งตัวเองได้อยู่ดี....ป่านนี้มันคงสบายใจสินะที่พ้นจากพ่อที่มันเกลียดนักเกลียดหนาอย่างฉันมาได้... แถมตอนนี้ก็ยังสมหวังกับเธอแล้วอีกด้วย"

เวหานิ่งเงียบรับฟัง เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายนั้นดูเหงา ๆ เวลาที่พูดถึงลูกชาย ซึ่งก็ทำให้เขาหวนคิดถึงรวีขึ้นมาบ้าง... ชายหนุ่มนั้นแม้จะชอบพูดบ่นเรื่องบิดาของเจ้าตัวเวลาที่เขาถามถึง แต่บางครั้งรวีก็มักจะเผลอมีแววตาเหงา ๆ ให้เขาได้เห็นเมื่อยามพูดถึงบิดาตนเองเช่นกัน

"พี่ซันไม่ได้เกลียดอะไรคุณอย่างที่คุณคิดหรอกครับ...อีกอย่างไม่มีลูกคนไหนเกลียดพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดตัวเองได้ลงคอหรอกครับ...อาจจะมีกระทบกระทั่งผิดใจกันบ้าง  แต่สำหรับคนเป็นลูกแล้ว ไม่ว่าใครก็ทดแทนพ่อแม่ของตนเองไม่ได้หรอกนะครับ"

"เขาบอกเธออย่างนั้น หรือเธอคิดเอาเองล่ะ"

อีกฝ่ายย้อนถาม ซึ่งก็ทำให้เวหาอมยิ้มน้อย ๆ แล้วเอ่ยตอบไปตามตรง

"ไม่ได้คิดเอาเองหรอกครับ แค่ตอบจากการที่ผมสังเกตดูเวลาที่คุยเรื่องครอบครัวกับพี่ซันน่ะครับ ...คนที่เกลียดกันน่ะ เขาจะแทบไม่อยากพูดถึงเรื่องของอีกฝ่ายหรอก แต่พี่ซันกลับชอบพูดถึงคุณให้ผมฟังอยู่บ่อย ๆ ....ซึ่งมันอาจจะเป็นการบ่นเสียส่วนใหญ่ก็จริง แต่ผมฟังแล้วมันเหมือนคนที่น้อยใจที่พ่อตัวเองไม่เข้าใจและเห็นด้วยในสิ่งที่ตนทำมากกว่าที่จะเป็นการเกลียดนะครับ"

ชายวัยกลางคนนิ่งอึ้งหลังจากที่ได้ฟังเวหาพูดจบ เขาเงียบไปพักใหญ่จนเวหารู้สึกกังวล ก่อนจะชะงักเมื่ออีกฝ่ายนั้นหัวเราะขึ้นเบา ๆ ในลำคอ

"...ฉันว่าเจ้าซันมันฉลาดเลือก และคงมีสังหรณ์ดีล่วงหน้า ...ถึงได้คาดเดาได้ว่า เด็กสามขวบไร้เดียงสาเมื่อสิบห้าปีก่อน จะเติบโตมาเป็นเด็กนิสัยดีแบบเธอได้ล่ะนะ... เฮ้อ! เอาเถอะ ถ้าเป็นเด็กอย่างเธอ ฉันก็คงเบาใจปล่อยลูกชายฉันอยู่กับเธอได้หรอก...ส่วนฉันหลังมอบตำแหน่งให้คนที่ฉันเลือกแล้ว ก็คงจะเกษียณออกจากองค์กร แล้วไปหาที่สงบอยู่กับภรรยาของฉันตามลำพังประสาคนแก่ ที่ไม่มีลูกหลานเหลียวแลล่ะนะ"

"เอ๋!? แล้วทำไมไม่มาอยู่ด้วยกันล่ะครับ...อยู่กันแบบครอบครัวใหญ่ ครึกครื้นดีออก ที่บ้านหลังปัจจุบันที่พี่ซันอยู่ก็หลังใหญ่โต มีห้องก็ตั้งหลายห้อง คุณกับคุณแม่ของพี่ซัน ก็น่าจะมาอยู่ได้สบาย ๆ อยู่แล้ว"

เวหาสวนขึ้นทันควัน ทำให้ชายวัยกลางคนต้องจ้องมองเด็กหนุ่มที่ดูเหมือนจะลืมไปแล้วว่าตนนั้นลักพาตัวอีกฝ่ายมา ริมฝีปากมีรอยยิ้มน้อย ๆ อย่างเอ็นดูเป็นครั้งแรก แล้วจึงเอ่ยตอบกลับไป

"เธอคิดว่าซันจะยินดีให้ฉันไปอยู่กับเขาอย่างเต็มใจ หลังจากที่ฉันลักพาตัวเธอออกมาด้วยกันอย่างนี้หรือ"

เวหาชะงัก แล้วจึงนิ่งไปสักพัก ก่อนจะเอ่ยถามกลับไปด้วยสีหน้าสงสัยแกมกังวล

"แล้วการที่คุณลักพาตัวผมมาด้วยกันนี่ เพราะอะไรล่ะครับ"

คนฟังยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงบอกจุดประสงค์ที่ตนวางแผนออกไปตามตรง

"นอกจากเรื่องที่ฉันอยากจะพิสูจน์ดูว่าเธอจริงจังกับลูกชายของฉันหรือไม่...เรื่องสำคัญที่สุดก็คือ ฉันต้องการให้เธอได้รับรู้ว่า หากเธอยังคิดจะอยู่เคียงข้างซันมันแบบนี้ต่อไป เธอก็ต้องพบกับเรื่องร้าย ๆ จากศัตรูในอนาคตของเจ้าซันอีกเรื่อย ๆ"

"ศัตรูในอนาคตหรือครับ"   เวหาย้อนถามกลับไปอย่างแปลกใจ ซึ่งคนฟังก็พยักหน้านิด ๆ

"ใช่แล้ว...ฉันอยากให้เธอได้รับรู้ด้วยตัวเองว่า หากคิดจะใช้ชีวิตร่วมอยู่กับซันเช่นนี้ต่อไป บางทีตัวเธอและครอบครัว ก็อาจจะต้องพบกับเรื่องเสี่ยง ๆ แบบนี้เข้าได้ในสักวัน ....จริงอยู่ที่ซันวางมือไม่ยอมสืบทอดตำแหน่งองค์กรต่อจากฉัน แต่คนที่อยากให้ผลประโยชน์ตกอยู่กับตระกูลของทางฝั่งฉัน แทนที่จะยกให้ทางฝั่งของทายาทคนต่อไป ก็คิดจะดึงซันให้กลับมารับตำแหน่งแทน ส่วนพวกทางฝั่งทายาทที่ฉันเตรียมไว้ ก็คิดจะกำจัดซันให้สิ้นซาก เพื่อที่จะได้ไม่มีการผิดพลาดในอนาคต ....ตัวฉันและคนที่ฉันเลือกเองก็พยายามจะเคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อย ก่อนที่จะมีการสละตำแหน่งอยู่หรอกนะ... แต่ก็นั่นล่ะ กว่าเรื่องราวภายในของพวกเราจะเรียบร้อย จนเธอกับครอบครัวจะไม่ต้องมาเสี่ยงกับลูกชายของฉันอีก ...ก็คงจะเป็นราวช่วงสี่ห้าปีหลังจากนี้ ...ซึ่งนั่นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของคนที่ฉันเลือกให้มาสืบทอดต่อด้วยล่ะนะ"

เวหาเงียบกริบ เรื่องหลังที่ได้ฟังแลดูหนักหนากว่าเรื่องที่อีกฝ่ายต้องการพิสูจน์ความรักของเขากับรวีเสียอีก เนื่องจากมันไม่ได้มีเพียงเขาเท่านั้นที่เกี่ยวข้อง หากแต่ครอบครัวของเขาก็อาจจะต้องถูกลากเข้ามาพัวพันอีกด้วย

"...เรื่องนี้ผมคงตัดสินใจเองไม่ได้ เพราะถ้าเรื่องที่เกี่ยวกับครอบครัวผม ...ผมก็คงต้องฟังความเห็นของทุกคนในครอบครัวด้วย"

เวหาเอ่ยขึ้นในที่สุดซึ่งก็ทำให้คนฟังถอนหายใจเบา ๆ แต่ก็ยังนึกชื่นชมที่เด็กหนุ่มไม่มีสีหน้าหรือน้ำเสียงหวาดกลัวอย่างที่เขาเคยคาดคิดไว้

"...แต่ผมเชื่อนะครับว่า ทุกคนในครอบครัวของผม ก็คงให้โอกาสพี่ซันเหมือนเดิม...เรื่องความกลัวความกังวลมีเอาไว้บ้างมันก็นับเป็นเรื่องดี เพราะมันทำให้เรารู้จักป้องกันและไม่ประมาท ...แต่ถ้าเราเอาแต่ปล่อยให้ความกลัวครอบงำจิตใจจนเกินไป... บางทีพอรู้สึกตัวอีกที ก็อาจจะทำให้เราเผลอปล่อยผ่านสิ่งดี ๆ ที่เรารอคอยมาตลอดชีวิต ให้หลุดมือออกไปก็เป็นได้..."

เวหาหันไปสบตากับคนที่นั่งข้างเขา แล้วยิ้มน้อย ๆ ออกมาอย่างจริงใจ ก่อนจะพูดต่อ

"ผมไม่อยากเป็นคนที่เอาแต่กลัวในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง แต่ผมอยากสู้และเผชิญหน้าไปพร้อมกับคนที่ผมรักมากกว่าครับ"

ชายวัยกลางคนอึ้งเงียบไปชั่วครู่กับคำพูดนั้น ก่อนที่จะมีรอยยิ้มน้อย ๆ ตามมาในที่สุด

"อืม...บางทีการที่ลูกชายของฉัน เลือกที่จะทิ้งทุกอย่างที่ฉันสร้างมาเพื่อเขา แล้วมาอยู่กับคนจิตใจดีอย่างเธอ มันอาจจะเป็นสิ่งที่เขาตัดสินใจถูกต้องแล้วก็เป็นได้ล่ะนะ"

เวหาชะงักก่อนหน้าหน้าแดงนิด ๆ เมื่อนึกถึงคนรักที่ทุ่มเททุกอย่างเพื่อตนแบบนี้

"หึ ๆ  อย่างนี้  เรไร เองก็คงชอบใจ ...รายนั้น เคยเล่าให้ฟังว่า เธอตอนสามขวบน่ารักมาก...จริง ๆ ภรรยาฉันก็เข้าข้างลูกชายล่ะนะ แต่เขาเป็นคนเรียบร้อย ไม่ค่อยมีปากมีเสียง และก็ค่อนข้างเกรงใจฉัน... แต่ตอนที่ฉันไล่เจ้าซันออกจากบ้าน ตอนนั้นฉันกลับถูกหล่อนประท้วงเงียบ เล่นทำอาหารจานไข่ให้กินทุกวัน จนฉันเอียนไข่ไปนานเลยทีเดียว"

เวหาฟังแล้วก็เผลอยิ้มตาม ซึ่งก็ทำให้คนมองยิ้มน้อย ๆ ตอบ

"เวลาเธอยิ้มนี่ก็น่ารักดีนะ เหมือนเมียฉันเลย รายนั้นน่ารักตอนยิ้มเป็นที่สุดนั่นล่ะ....น่ากลัวเจ้าซันจะติดใจรอยยิ้มของเธอตั้งแต่เธอยังเด็กแน่ล่ะนะ... หึ ๆ เหมือนพ่อมันไม่มีผิด!"

เวหารู้สึกเขินที่ได้ยินอีกฝ่ายพูดเช่นนั้น  และสักพักคนที่นั่งข้างเขาก็สั่งให้คนขับเลี้ยวกลับรถและพาเวหาไปส่งที่บ้านแทน ก่อนที่จะยื่นโทรศัพท์ส่งให้

"เอ้า! โทรไปบอกทางบ้านเธอสิ ป่านนี้คงห่วงกันแย่แล้ว"

"ขอบคุณนะครับ คุณ...เอ่อ คุณพ่อของพี่ซัน"

เวหาเลือกใช้คำเรียกอีกฝ่ายอย่างลำบาก เนื่องจากเด็กหนุ่มคิดว่าตนนั้นไม่สนิทสนมพอที่จะเรียกอีกฝ่ายอย่างกันเองนัก ซึ่งก็ทำให้คนฟังอมยิ้ม

"อืม...ฉันยังไม่ได้แนะนำตัวกับเธออย่างเป็นทางการสินะ...ฉันชื่ออังเดร  แต่เธอจะเรียกฉันว่าพ่อแทนก็ได้นะ ...และจริง ๆ มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้นด้วยไม่ใช่หรือ"

"เอ่อ...ครับ"

เวหารับคำเขิน ๆ ซึ่งก็ทำให้คนข้างกายยิ้มน้อย ๆ และมองดูเด็กหนุ่มโทรคุยกับคนที่บ้าน บอกเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นย่อ ๆ ก่อนจะย้ำว่าตัวเองปลอดภัยดีอีกครั้งแล้วจึงวางสายไป

"ฉันคงต้องไปขอโทษพ่อกับแม่เธออย่างหนักทีเดียว ที่ทำให้พวกเขาตกใจขนาดนี้ ...อ้อ แล้วก็ต้องขอโทษเธอที่พูดจาดูถูกพ่อกับแม่ของเธอเมื่อก่อนหน้านั้นด้วย...จริง ๆ ฉันก็รู้มาจากลูกน้องของลูกชายฉันแล้วล่ะว่า ทั้งคู่เป็นคนดี ขยันทำมาหากิน ไม่เห็นแก่ทรัพย์สินเงินทองของคนอื่น...แถมเอาจริง ๆ ลูกชายฉันก็เป็นฝ่ายไปรบกวนฝากท้องกับทางบ้านเธอแทบทุกวันแทนเสียด้วยซ้ำนี่นะ"

เวหายิ้มให้ เขารู้สึกว่าบิดาของคนรักนั้นไม่ได้น่ากลัวกว่าที่คิด พอต่างฝ่ายต่างเข้าใจกันดี เจ้าตัวก็คุยง่ายเหมือนเวลาเขาคุยกับรวีด้วยซ้ำไป



เมื่อมาถึงบ้านรวีที่ได้รับการแจ้งข่าว และกลับมารอที่บ้านของคนรัก ก็แทบจะวิ่งพรวดไปดึงตัวของเวหาทันทีที่อีกฝ่ายลงจากรถด้วยซ้ำ

"น้องฟ้า! เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ โดนทำร้ายอะไรไหม!"

ครอบครัวของเวหามองรวีตาปริบ ๆ แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะชายหนุ่มเล่นเข้าถึงตัวเวหาเสียก่อนที่พวกเขาจะขยับเดินไปเสียอีก

"หึ! ฉันไม่ใช่พ่อสามีใจร้าย ที่จะรังแกลูกสะใภ้ตัวเองหรอกนะ...จริงไหมหนูฟ้า"

คนที่ก้าวลงจากรถตามมาพูดขึ้นดัง ๆ แล้วจึงหันมายิ้มน้อย ๆ ให้กับเวหา สร้างความตกตะลึงให้กับรวี เมฆา รวมถึงเหล่าบอดี้การ์ดที่รู้จักในตัวของบิดานายจ้างเป็นอย่างดี

"คุณพ่อไม่ได้ทำอะไรฟ้าหรอกครับพี่ซัน...ก็แค่เรื่องเข้าใจผิดกันนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเอง"

เวหาแก้ต่างแทนให้บิดาคนรัก ทำเอารวีขมวดคิ้วยุ่ง ทว่าชายวัยกลางคนนั้นไม่คิดใส่ใจในตัวลูกชาย เขาเดินตรงไปหาณรงค์และวารี ก่อนจะยืนโค้งศีรษะให้อีกฝ่ายแล้วเงยหน้าจ้องมองทั้งคู่

"ผมต้องขอโทษพวกคุณจริง ๆ ที่วางแผนแกล้งโกหก และลักพาตัวลูกชายของคุณไปแบบนั้น ...ผมยินดีและไม่คิดจะโต้ตอบ หากคุณต้องการจะลงมือกับผมหลังจากนี้ ..."

คนพูดบอกแล้วก็ยืนนิ่ง ทำให้ณรงค์กับวารีต่างหันมาสบตา แล้วทั้งคู่จึงถอนหายใจออกมาไล่เลี่ยกัน

"อย่าให้ถึงขั้นลงไม้ลงมือเลยครับ แค่คุณรู้สึกผิดจากใจจริงก็พอแล้ว ...อีกอย่างลูกชายผมก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไรด้วย...แล้วซันเองก็คงไม่สบายใจ ถ้าผมทำร้ายพ่อของเขาต่อหน้าเจ้าตัวแบบนั้น"

รวีสะดุ้ง เขาแสร้งทำเป็นเมินมองไปทางอื่นเมื่อบิดาหันกลับมาทางตน เพราะเมื่อครู่นี้หากณรงค์หรือวารีลงมือกับบิดาของเขาจริง ๆ เขาก็คงจะไม่มีสิทธิห้ามปราม แต่นั่นก็คงทำให้เขารู้สึกแย่กับเรื่องที่จะเกิดขึ้นนั่นอยู่มากทีเดียว

"ขอบคุณที่อภัยให้ผม....ไว้หลังจากนี้ผมจะแวะมาขอขมาพวกคุณทั้งบ้านอีกครั้ง...อ้อ บางทีผมและภรรยาอาจจะถือโอกาสมาร่วมงานฉลองรับสะใภ้ของครอบครัวโจนาธานด้วยก็ได้ หวังว่าคุณคงจะไม่รังเกียจนะครับ"

ท้ายประโยคนั้นทำให้เมฆาสะดุ้ง ส่วนรวีหันขวับมาจ้องบิดาเขม็ง

"พ่อรู้เรื่องนี้ได้ไง! ...น้องฟ้าบอกพ่อพี่หรือครับ"

อังเดรเหลือบมองลูกชายที่ขึ้นเสียงถามตัวเองเสียงห้วน แต่พอหันไปพูดกับแฟน กลับทำเสียงอ่อนเสียงหวานจนน่าหมั่นไส้

"ฟ้าไม่ได้บอกนะครับ...เอ่อ แล้วคุณพ่อรู้เรื่องนี้ได้ยังไงครับ..."

เวหาหันมาถามคนที่ยืนเงียบอยู่ ซึ่งอังเดรก็ยิ้มน้อย ๆ แล้วบอกไปตามตรง

"ก็ได้ยินจากปากเจ้าตัวน่ะสิ...หรือจริง ๆ ก็คือ ทั้งฉันทั้งเมียฉัน มาที่เมืองไทยพร้อมกับพ่อแม่ของเมฆเขานั่นล่ะ แต่ฉันปล่อยให้ทางนั้นมาเคลียร์เรื่องลูกชายของตัวเองก่อน ส่วนฉันก็ครุ่นคิดหนักว่า จะลงมือพูดคุยอธิบายสถานการณ์ความจำเป็นของเจ้าซันกับครอบครัวเธอดี ๆ หรือแสดงให้เห็นเลยดี ...แล้วก็เลยกลายมาเป็นแบบนี้นั่นล่ะ ...อ้อ! เจ้าซัน แม่แกบ่นถึงแกให้ฉันฟังตลอด ยิ่งมาเมืองไทยนี่ก็ยิ่งบ่นใหญ่ ...ถ้าไม่อยากเป็นลูกเนรคุณให้แม่ตัวเองร้องไห้ล่ะก็ ว่าง ๆ ก็แวะไปเยี่ยมแม่เขาบ้าง ...ถึงกับฉันแกจะไม่อยากเจอหน้ากันนักก็เถอะ!"

ท้ายประโยคเจ้าตัวยังไม่วายประชดประชัน เรียกเสียงถอนหายใจจากคนที่ได้ฟังอยู่แต่ละคน และเพราะเป็นเสียงถอนหายใจที่ดังในเวลาใกล้กัน แม้มันจะเบาแสนเบาทว่าพอเป็นจากหลายคน มันก็ทำให้สองพ่อลูกสะดุ้งได้เลยทีเดียว

"....เอาเถอะ เดี๋ยวผมแวะไปหาแม่พร้อมกับพ่อตอนนี้เลยก็ได้...อีกอย่างผมเองก็มีอะไรอยากคุยแบบเปิดอกตามประสาพ่อลูกกับพ่อด้วยอีกเยอะเลยล่ะนะครับ"

รวีบอกหลังจากที่เห็นสายตาของคนรักที่จับจ้องมองมายังตนอย่างร้องขอ ซึ่งอังเดรพอได้ยินดังนั้นเจ้าตัวก็เงียบไป ก่อนจะแสร้งทำเป็นยักไหล่นิด ๆ

"ก็แล้วแต่แกแล้วกัน ...ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ...พ่อไปละนะหนูฟ้า"

หนุ่มใหญ่หันไปเอ่ยลาพวกณรงค์แล้วหันมายิ้มให้กับเวหาซึ่งเวหาก็ยิ้มตอบ ทำให้อังเดรอารมณ์ดีจนลูกชายที่เดินไปขึ้นรถด้วยกันชักไม่ค่อยสบอารมณ์

"พ่อ...นี่พ่อคงไม่ลืมสินะ ว่าพ่อมีแม่แล้ว ...และน้องฟ้าก็เป็นแฟนผมด้วย!"

"หือ...แน่นอน พ่อรักแม่แกที่สุดอยู่แล้ว...แต่มันก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือ ถ้าหากพ่อสามีกับลูกสะใภ้จะไปกันได้ด้วยดีและรักใคร่กลมเกลียวกันน่ะ"

อังเดรแย้งกลับไปอย่างนึกขำ เพราะไม่คิดว่าลูกชายนั้นจะเป็นคนขี้หึงถึงขนาดนี้

"ก่อนหน้านั้นเห็นกีดกันแทบตาย! ทำไมมาเปลี่ยนง่ายดายแบบนี้ล่ะครับ!"

รวีแย้งกลับไปอย่างเริ่มหงุดหงิด และคำพูดของชายหนุ่มที่กำลังเดินไปขึ้นรถพร้อมบิดา ก็แว่วมาถึงคนที่อยู่ในบ้านจนต้องโผล่หน้าออกมามองอย่างสงสัย

"ก็ก่อนหน้านั้น ฉันไม่รู้ว่าแฟนแกน่ารักแบบนี้นี่...ยิ่งเวลายิ้มงี้น่ารักเหมือนแม่แกตอนสาว ๆ เลยทีเดียว แบบนี้สเป็คฉันเลยล่ะ"

อังเดรแย้งกลับไปกึ่งแกล้งกึ่งจริงจัง ทำให้คนเป็นลูกชายนึกอยากจะกลับไปบอกให้ณรงค์ช่วยมาต่อยพ่อของตนสักหมัดสองหมัดขึ้นมาตงิด ๆ

"อ้าว...หนูฟ้า ไว้เดี๋ยวพรุ่งนี้พ่อจะแวะมาหาอีกนะ ...เห็นว่าชอบขนมมากใช่ไหม ไว้พ่อจะซื้อมาฝากแล้วกัน"

อังเดรที่หันมาเห็นเวหาโผล่หน้าออกมาดูพวกตนเอ่ยทัก ซึ่งเวหาก็ยิ้มกว้างตามมาก่อนจะชะงักแล้วเปลี่ยนกลับเป็นยิ้มเจื่อน ๆ เมื่อเห็นคนรักทำหน้าบึ้งไม่สบอารมณ์หนักยิ่งขึ้นไปอีก

"พ่อ! รีบไปกันได้แล้ว! เร็วสิครับ!"

รวีรีบตะโกนบอกให้บิดาขึ้นรถ ก่อนที่คนรักของเขาจะโดนอีกฝ่ายล่อลวงมากไปกว่านี้ จะว่าไปแล้วเขาก็ดีใจหรอกนะที่อังเดรยอมรับในตัวเวหาได้สักที แต่ยอมรับแล้วเล่นมาหลงเสน่ห์คนรักของเขาด้วยแบบนี้ เห็นทีต่อไปเขาคงจะต้องกันท่าให้ทั้งคู่ไม่มีโอกาสได้อยู่ใกล้กันตามลำพังเสียแล้วล่ะนะ!





.... END .....
หมึกจีน
หมึกจีน
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 81
Join date : 01/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #2 (จบ) Empty Re: ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #2 (จบ)

ตั้งหัวข้อ by TwInZZZ Sun Jun 22, 2014 8:12 pm

พี่ซันงานเข้าแล้วววว จะถูกพ่อตีท้ายครัว 55555

TwInZZZ
นักอ่าน

จำนวนข้อความ : 31
Join date : 21/06/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #2 (จบ) Empty Re: ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #2 (จบ)

ตั้งหัวข้อ by เลื่อมประภัสสร Tue Jun 24, 2014 10:55 pm

ฮ่าๆๆ น้องฟ้ากลายเป็นที่หมายปองไปเสียแล้ว ต้องให้ซันเรียกคุณแม่มาเคลียร์

ขอบคุณนะคะคุณหมึกจีน ^^ ที่แต่งเรื่องดีๆ สนุกๆ มาให้อ่านกัน
เลื่อมประภัสสร
เลื่อมประภัสสร
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 192
Join date : 01/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #2 (จบ) Empty Re: ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #2 (จบ)

ตั้งหัวข้อ by mor578 Sat Jul 05, 2014 1:00 am

น่ารักมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะที่แต่งนิยายสนุกๆให้อ่าน

mor578
นักอ่าน

จำนวนข้อความ : 3
Join date : 30/03/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #2 (จบ) Empty Re: ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #2 (จบ)

ตั้งหัวข้อ by DevilAngel Mon Jul 07, 2014 10:02 pm

คุณพ่อของรวีตกหลุมเสน่ห์ของฟ้าอีกคนแล้ว ก็น้องฟ้าน่ารักนี่เนอะ

DevilAngel
นักอ่าน

จำนวนข้อความ : 11
Join date : 04/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #2 (จบ) Empty Re: ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #2 (จบ)

ตั้งหัวข้อ by marioja Mon Jul 14, 2014 1:28 am

555 พ่อลูกเชื้อไม่ทิ้งแถว สเป็คเดียวกันจริงๆ
นิยายสนุกมาก อ่านแล้วอมยิ้มตลอดเรื่องเลย
น่ารักแบบใสๆ การดำเนินเรื่องก็ดีชวนติดตามตลอด
ภาษาที่ใช้ก็โอ เนื้อเรื่องต่อเนื่องลื่นไหลไม่เร็วไม่ช้าเกิน
ชอบมากเลย^^

marioja
นักอ่าน

จำนวนข้อความ : 8
Join date : 13/07/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #2 (จบ) Empty Re: ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #2 (จบ)

ตั้งหัวข้อ by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:26 am

สมกับเป็นพ่อลูกกันจริงๆ 55555555
อา แต่ละคนน่ารักมากค่ะ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ สนุกๆ นะคะ #ปาดน้ำตาด้วยความปริ่ม
น้ำไหล
น้ำไหล
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 172
Join date : 01/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ