กิจกรรมสร้างงานให้เป็นเล่ม
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search

Latest topics
» Who’s the KING? } 16 [END]
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:30 pm

» Who’s The KING? } 15 - Special part form Pramuk.
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:25 pm

» Who’s the KING? } 15
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:23 pm

» Who’s the KING? } 14
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:09 pm

» Who’s the KING? } 13
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:01 pm

» Who’s the KING? } 12
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 6:50 pm

» Who’s the KING? } 11
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 6:40 pm

» Who’s the KING? } 10
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 5:59 pm

» Who’s the KING? } 9
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:39 pm

» Who’s the KING? } 8
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:31 pm

» Who’s the KING? } 7
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:19 pm

» Who’s the KING? } 6
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 1:49 pm

» Who’s the KING? } 5
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:57 am

» Who’s the KING? } 4
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:43 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #2 (จบ)
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:26 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #1
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:13 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /14 (จบ)
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:03 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /13
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:54 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /12
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:43 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /11
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:33 am


Who’s the KING? } 13

5 posters

Go down

Who’s the KING? } 13 Empty Who’s the KING? } 13

ตั้งหัวข้อ by คราม Tue Jul 15, 2014 3:57 pm

Who’s The KING?
13
 
       หงุดหงิด เครียด กังวล กลัว สี่รูปแบบอาการที่กำลังตีกันมั่วอยู่ในหัวผมตอนนี้ หงุดหงิดเพราะไอ้ประมุขดันมานั่งข้างๆ ผม กลายเป็นว่าตอนนี้ผมโดนขนาบข้างด้วยประมุขและนรินทร์เหมือนตอนที่ไปกินจิ่มจุ้มกันไม่มีผิด เครียดเพราะไอ้ประมุขดันรู้ว่าผมรู้ว่าผมคิดยังไงกับนรินทร์ กังวลว่านรินทร์จะดูออกเพราะไอ้เวรข้างซ้ายมันเอาจะกระเซ้ากระแช่ผมอยู่นั่น กลัว.. กลัวว่านรินทร์จะรู้แล้วเมินกัน แม้แต่ความเป็นเพื่อนก็อาจจะไม่มีให้.. แบบนั้นไม่เอาด้วยหรอกนะ! ไม่ว่าจะยังไงก็ต้องเก็บให้มิดที่สุด!


                “มึงเขยิบไปดิ๊ เบียดขนาดนี้นรินทร์จะตกเก้าอี้เอา”


                “แหม เป็นห่วงกันจังเลยน้า ดูกูดิ ไม่มีที่จะนั่งอยู่แล้ว”


                “เหอะ ก็มึงมันตูดใหญ่ไง นรินทร์นั่งได้ไหม”


                “นั่งได้ ที่ยังเหลืออีกตั้งเยอะ”


“ถ้านั่งไม่ถนัดบอกนะ” อ่า.. รอยยิ้มของนรินทร์นี่สดใสจริงๆ แต่เดียว.. เฮ้ย นี่ผมเลือกปฏิบัติอีกแล้วสินะ เสียงประมุขหัวเราะหึหึอยู่ข้างหู ผมหันไปแยกเขี้ยวให้มันทันที มองดีๆ มันไม่ได้จะตกเก้าอี้อย่างที่บอกเลยสักนิด ไอ้เวรนี่แกล้งกันนี่หว่า ผมยกกำปั้นขึ้นเตรียมจะเขกหัวมันสักหน่อยแต่อาจารย์และโค้ชก็เดินเข้ามาเสียก่อน


“ที่เรียกว่าวันนี้ก็แค่อยากจะบอกเรื่องการคัดเลือกของประมุขและนรินทร์นะ”


พออาจารย์เกริ่นนำเสียงในห้องก็ค่อยๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ มีแค่สองคนข้างๆ ผมเท่านั้นที่นั่งเงียบ อาจารย์กล่าวอะไรต่ออีกนิดหน่อย ก่อนจะยกหน้าที่ให้กับโค้ช


“ที่เราไม่มีการบอกแพ้ชะให้ทุกคนรู้ก็เพราะว่าอยากให้ทุกคนดูแต่ฟอร์มการเล่นของทั้งคู่ ทุกคนก็คงจะเห็นแล้วว่าทั้งคู่มีฟอร์มการเล่นที่ดีมาก จากการแข่งมาสี่รอบผลแพ้ชนะที่ได้คือ 2-2 เพราะฉะนั้น.. อะแฮ่ม ฟังก่อนสิ เราจะให้ทุกคนในชมรมทำการโหวตว่าจะให้ใครเป็นตัวแทนไปแข่ง”


เสียงคุยที่เบาลงไปเมื่อครู่ดังขึ้นมาอีกครั้ง โหวตเหรอ? ไม่นึกว่าอาจารย์จะมาเปลี่ยนแผนเอาแบบนี้ หลายๆ เสียงที่กำลังพูดคุยออกความเห็นกันอยู่ก็มีทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เพราะมันคือการแข่งขันระดับมหาวิทยาลัย แต่หลายคนกลับยอมรับว่าฝีมือของทั้งคู่ไม่เป็นรองกันและกันเลยจริงๆ เพราะฉะนั้นการที่โค้ชต้องใช้วิธีแบบนี้ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าโค้ชเองก็เลือกไม่ได้สินะ


โค้ชให้ทั้งหมดออกไปด้านนอกแล้วเรียกเข้าไปเขียนกระดาษโหวตที่ละสองคน ทุกคนโหวตหมดยกเว้นประมุขและนรินทร์ ระหว่างที่รอทั้งสองคนยืนกันคนละมุม ผมจับกลุ่มคุยอยู่กับพวกไอ้นายแต่ก็ยังแอบมองสองคนนั้นอยู่ตลอด เรื่องที่พวกไอ้นายกำลังคุยอยู่ในตอนนี้ไม่ค่อยจะเข้าหัวผมเท่าไร พวกมันก็ดูท่าจะลำบากใจน่าดูเพราะมันยกให้ทั้งคู่เป็นลูกพี่ของมัน การที่ต้องเลือกมันคงจะลำบากใจมาก ผมเองก็ไม่ต่างกัน


อีกไม่กี่คนก็จะถึงผมแล้วแท้ๆ แต่ผมก็ยังคิดไม่ตกอยู่ดีว่าจะเขียนใครลงไปดี ผมไม่รู้ว่าทั้งสองคนเก่งต่างกันอย่างไร ไม่รู้ว่าใครยังมีจุดอ่อนที่ตรงไหน ถ้าจะให้ผมวัดระดับความเก่งของทั้งคู่แล้วเขียนชื่อลงไปก็คงทำไม่ได้ ที่ผมจะเลือกวัดก็คงเป็นที่ความต้องการส่วนตัวของผมล้วนๆ พอคิดแบบนั้นแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนไม่ดีเลยจริงๆ แล้วถ้าไม่ได้มีแค่ผมที่เลือกจากความต้องการของตัวเองละ แบบนี้มันก็ไม่แฟร์น่ะสิ




 
“ประมุข นรินทร์ ประมุข ประมุข ประมุข นรินทร์ นรินทร์”


สุดท้ายผมก็เลือกที่จะเขียนชื่อนรินทร์ลงไป เสียงโค้ชนับคะแนนไปเรื่อยๆ จนจบ ผลคือคะแนนที่เสมอกัน ทุกคนถอนหายใจออกมาพร้อมกันเกือบทั้งห้อง นั่นสินะ ทุกคนเองก็ไม่อยากจะเลือกด้วยวิธีแบบนี้เท่าไร ไม่แปลกที่จะรู้สึกโล่งใจขนาดนี้


“เฮ้อ มันก็โล่งใจน่ะนะที่เสมอ แต่แบบนี้จะเลือกคนไปแข่งได้ไงละ”


“ให้แข่งอีกรอบสิครับโค้ช รอบนี้ใครชนะก็ได้ไปแข่ง” ไอ้นายเสนอออกไป ผมพยักหน้าเห็นด้วยแทบจะทันที อย่างนั้น อย่างนั้น แฟร์ที่สุดแล้ว ด้วยความสามารถส่วนตัวล้วนๆ


“จริงๆ ก็จะทำแบบนั้นละน้า แต่ก็กลัวจะรักคนชนะเสียดายคนแพ้อีก ที่จริงการคัดเลือกมันต้องจบตั้งแต่ครั้งที่สามที่ประมุขชนะแต่ก็เพราะความเสียดายนี่แหละเลยให้แข่งอีก เฮ้อ” โค้ชพูดไปถอนหายใจไป ดูเครียดๆ ท่าทางจะคิดไม่ตกจริงๆ


“พวกนายสองคนโอเคไหมละที่จะแข่งอีกรอบ”


“โอเคครับ”


“ไม่มีปัญหา”


สองคนนั้นหันมองหน้ากันคล้ายกับกำลังวางเชิงกันอยู่อย่างไงอย่างนั้น ผมรู้สึกโล่งขึ้นมาหน่อยที่ได้ผลสรุปใหม่ ยังไงคัดเลือกด้วยการแข่งมันก็น่าจะยอมรับได้มากกว่าการโหวตน่ะนะ ส่วนเรื่องผลการแข่งนั้นเดี๋ยวค่อยไปกัลวลกันอีกทีก็ได้


“โอเค งั้นเอาตามนั้น ส่วนวันแข่ง อืม... จะเปิดเทอมแล้วนี่นา พวกนายขึ้นปีสามนี่คงไม่มีเอี่ยวเรื่องรับน้องเท่าไร ถ้าอย่างนั้นสองอาทิตย์หลังจากเปิดเทอมเราจะแข่งรอบสุดท้ายกัน ระหว่างที่ก็ให้หยุดยาวเพื่อพักผ่อน แต่ก็อย่าลืมฝึกซ้อมล่ะ เลิกๆ จบประชุม แยกย้ายได้”


พอสิ้นเสียงของโค้ชทุกคนก็ดูโล่งใจไปตามๆ กัน ก่อนจะพากันลุกออกไปจากห้องชมรม ผมมองคนที่ลุกออกจากห้องไปเรื่อย ในหัวก็เริ่มคิดแล้วว่าจะกลับบ้านเลยหรือแวะซื้อการ์ตูนก่อนดีจนนรินทร์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้พร้อมรอยยิ้ม


“ไปกันเถอะ”


“หือ ไปไหน”


“กินข้าวสิ มีร้านดีที่อยากให้แลนด์ลอง”


นรินทร์ไม่ได้รีรอฟังคำตอบจากผมแต่จูงมือผมลากออกจาห้องไปทันที ผมมองซ้ายมองขวาเพราะกลัวว่าคนจะเห็น แต่ก็ไม่มีใครอยู่ในห้องแล้ว รวมทั้งไอ้ประมุขด้วย ไม่รู้ว่าออกไปตั้งแต่ตอนไหน แต่ก็ดีแล้วน่ะนะ มันจะได้ไม่เก็บเรื่องที่นรินทร์จับมือผมมาล้อหรือเอามาเล่นแง่กับผมอีก




 
ทั้งที่ควรจะไปร้านอาหารที่นรินทร์ว่าแต่กลับต้องมาที่คอนโดเสียได้ นั่นก็เพราะนรินทร์ลืมเอากระเป๋าเงินออกมาด้วย พอผมบอกว่าจะขอจ่ายให้นรินทร์ก็ไม่ยอม จนเราต้องแวะมาที่คอนโดก่อน ผมเดินตามนรินทร์มาที่ห้องด้วยเพราะไม่อยากนั่งรอที่รถคนเดียว


“พรุ่งนี้ผมว่าจะกลับบ้าน มาอีกทีก็คงเปิดเทอม”


นรินทร์พูดขึ้นในตอนที่เราอยู่ในลิฟต์ เท่าที่ผมรู้ว่าดูเหมือนว่าบ้านนรินทร์จริงๆ นั้นอยู่ที่กรุงเทพฯ ปิดเทอมนี้แทนที่จะได้กลับไปอยู่บ้านสบายๆ ก็กลายเป็นว่าต้องเที่ยวไปเที่ยวมาระหว่างบ้าน คอนโด และมหาลัย พอโค้ชให้พักก่อนเปิดเทอมแบบนี้นรินทร์จะกลับบ้านมันก็ไม่แปลก  


“จะไม่ได้เจอกันตั้งอาทิตย์กว่าๆ แน่ะ”


“ปกติก็ไม่ได้เจอกันทุกวันนะ”


“นั่นน่ะสิ” นรินทร์พูกลั้วหัวเราะ ลิฟต์พาเราขึ้นมาถึงชั้นที่นรินทร์อยู่ 


“แล้วนรินทร์จะซ้อมที่ไหนเหรอ”


“อืม ไม่รู้สิ อาจจะไปซ้อมที่โรงยิมของโรงเรียนเก่า ถ้าเขาให้เข้าน่ะนะ”


“อ๋อ แล้วคิดว่าไง จะชนะหรือเปล่า” นรินทร์เงียบไปเพียงอึดใจเดียวเขาก็กลับมายิ้มให้ผมเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ได้ตอบคำถามนั้นกลับมา


“ถามหน่อยสิ นรินทร์เล่นเฟนชิ่งเพราะอยากเล่น อยากไปแข่งจริงๆ หรือเพราะแค่อยากล้างมือจากประมุขเหรอ” และแล้วความอยากรู้อยากเห็นที่ผมสงสัยมานานก็ทำให้ผมถามออกไปจนได้


“ที่แค่อยากแก้มือ”


“โกหก ถ้านรินทร์เล่นเพราะแค่อยากแก้มือมันคงเป็นการเล่นที่ไม่มีความสุขนะ ดูๆ ไปแล้วนรินทร์ก็ชอบเฟนชิ่งจะตายไม่ใช่เหรอ” เขาดูจะอึ้งไปเล็กน้อยที่ผมพูดออกไปแบบนั้น ผมมักจะสังเกตเวลาที่นรินทร์จับดาบ เขาดูมีความสุขที่ได้จับแล้วกวัดแกว่งไปที่ร่างของคู่ต่อสู้ ไม่ว่าจะตอนไหนเขาก็ดูมีความสุข ดูไม่เหมือนคนที่แค่อยากแก้มือเลยสักนิด


ไม่มีคำตอบหรือข้อแก้ตัวใดๆ จากคนตรงหน้า เราทำเพียงแค่จ้องตากัน สุดท้ายแล้วก็เป็นนรินทร์ที่หลบสายตาของผมไปก่อน แถมยังหัวเราะออกมาอีกด้วย


“ยอมแล้วๆ แลนด์พูดถูกทุกอย่าง แต่ช่วงแรกๆ ก็เล่นเพื่อแก้มือจริงๆ นะ”


“แต่ตอนนี้เล่นเพราะสนุกใช่ไหมละ ถ้าครั้งต่อไปชนะก็จะไปแข่งใช่ไหม”


“ใช่ ครับใช่ สนุกมากเลยละ ดีจริงๆ ที่ได้กลับมาเล่นเฟนชิ่งอีก ถ้าชนะก็จะไปแข่งแน่นอน ต้องขอบคุณแลนด์...”


“นี่แกยังเล่นไอ้กีฬาบ้าๆ นั่นอยู่อีกเหรอ!!”


เสียงแข็งกราวของผู้ชายมีอายุดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง นรินทร์ก้าวขึ้นมาอยู่ข้างหน้าผมพอดีกับที่เจ้าของเสียงปรากฏตัวขึ้นมาที่ประตูห้อง


ทันทีที่เห็นชายหญิงวัยกลางคนสองคนที่กำลังยืนอยู่หน้าห้องทำเอาผมต้องหันกลับมามองที่นรินทร์สลับกับสองคนหน้าห้องไปมา เหมือนมาก! อย่าบอกนะว่า..


“พ่อแม่มาทำอะไรกันครับ”


พ่อกับแม่นรินทร์จริงด้วย!!


“พ่อกับแม่มีธุระแถวนี้เลยแวะมาหาลูกจ๊ะ”


“รินตอบพ่อ นี่แกยังเล่นเฟนชิ่งอยู่อีกเหรอ” แม่ของนรินทร์ที่กำลังพูดอยู่เงียบไปกลายเป็นน้ำเสียงแข็งกระด้างของพ่อนรินทร์ข้นมาแทน  คุณน้าที่อยู่ข้างๆ คอยลูบแขนเผื่อให้อีกคนใจเย็นลง


“ครับ ผมยังเล่นอยู่” นานทีเดียวกว่านรินทร์จะตอบออกไปได้


“ฉันบอกให้แกเลิกเล่นไง!”


“คุณคะ ใจเย็นๆ สิค่ะ ค่อยๆ พูด ค่อยๆ จา อะ.. เอ่อ.. แล้วหนูเป็นเพื่อนของรินเหรอจ๊ะ” คุณน้าหันมาพูดกับผมที่ยังยืนนิ่งจนนรินทร์ต้องสะกิด แม้จะเคยพูดดีกับนรินทร์ไว้เยอะว่าจะไปขอให้บ้างละ ไปคุยให้บางละ แต่พอเจอเข้าจริงๆ ผมกลับทำได้แค่นิ่ง ดีแต่ปากนี่หว่ากู พอสติกลับมาผมก็ยกมือไหว้ก่อนจะแนะนำตัวเองสั้นๆ


“ฉันบอกให้แกเลิกเล่นแล้วทำไมยังเล่นอยู่อีก ประโยชน์หรือก็ไม่มี” ดูเหมืนอว่าพ่อของนรินทร์จะไม่ได้สนใจอยากจะรู้จักผมสักเท่าไร เขาหันไปด่าทอนรินทร์อีกครั้ง


“ผมก็แค่เล่นเป็นงานอดิเรก มันไม่ได้เสียหายอะไรสักหน่อย”


“เสียหายสิ! ถ้าแพ้ตอนม.ปลายแกบอกจะไม่เล่นมันอีกแล้วนี่อะไร ห๊ะ!”


“ก็ตอนนี้ผมอยากเล่นมันอีกนี่” นรินทร์ตอบกลับไป ติดจะเสียงแข็งนิดๆ แต่ดูก็รู้ว่านรินทร์กำลังพยายามระงับอารมณ์ของตัวเองอยู่ เพราะยังไงคนตรงหน้าก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่แถมยังเป็นพ่ออีกต่างหาก


“ฉันได้ยินนะ ถ้าชนะจะไปแข่ง แข่งอะไร ยกเลิกไปให้หมด ไร้สาระ เอาเวลาไปทำอย่างซะยังจะดีกว่า”


“คุณคะ..”


“กับสิ่งที่ลูกชอบแค่นี้ก็ให้ลูกทำไม่ได้! ทำไมต้องห้าม! ทำไมต้องบังคับ! เป็นพ่อภาษาอะไรเนี่ย!” เวร! ผมตะคลุบปากตัวเองแทบไม่ทัน แลนด์.. มึง.. ทำอะไรลงไปวะ เฮ้ยยยย ไปตะโกนด่าเขาอย่างนั้นได้ยังไง โฮ น้ำตาจะไหล


“เธอ...”


“ขะ.. ขอโทษครับ ฟังแล้วมันนะ.. น่าโมโหก็เลย.. ขอโทษครับ ขอโทษครับ” ผมเฟดตัวเองไปอยู่หลังนรินทร์ทันทีก่อนจะเอ่ยขอโทษเสียงอ่อย เชี่ย น้ำตาจะไหลอยู่แล้ว ไม่เคยรู้สึกพลาดเท่านี้มาก่อนเลย


“ผมยังไม่เคยบอก แต่ผมเข้าชมรมเฟนชิ่งตั้งแต่มาอยู่มหาลัยที่นี่ ความจริงก็แค่อยากเข้าไปสัมผัสบรรยากาศ ได้เล่นบ้างก็ยังดีไม่ได้คิดจะลงแข่งจริงจัง จนมีคนมาขอร้องก็คือคนข้างหลังผมนี่แหละให้ผมเข้าคัดเลือกเพื่อหาตัวแนไปแข่งระดับมหาลัย ผมรู้ว่าผมกำลังกลืนน้ำลายตัวเองอยู่ แต่ผมอยากจะเล่นมันอีกครั้งอยากจะทำให้ดีที่สุด ถ้าการคัดเลือกครั้งหน้าผมแพ้ผมก็จะไม่ทำอะไรอีก ไม่สิขอแค่ได้เล่นสักหน่อยก็ยังดี ผมขอละครับ”


นรินทร์พูดเสียงนิ่ง นั่นเป็นการพูดที่ยาวที่สุดของเขาตั้งแต่ที่ผมรู้จักเขามา มันเป็นน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจกับผลตอบรับที่จะได้ ผมได้แต่เกาะแขนของนรินทร์แน่นแค่อยากให้เขารู้ว่าผมยืนอยู่ข้างๆ เขานี่เอง


“แล้วถ้าชนะละ”


“ผมก็จะไปแข่งแล้วทำให้ดีที่สุดหลังจากนั้นก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการแข่งอีก ขอแค่ได้เล่นเป็นงานอดิเรกก็พอ”


“เมื่อกี้ที่ผมพูดไม่ดี ผมขอโ?ษแต่ว่า ผมก็ขอร้องด้วยนะครับ ให้นรินทร์ได้เล่นเฟนชิ่งเถอะ” ผมพูดออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ ได้แต่แอบมองอยู่ด้านหลังของนรินทร์เท่านั้น ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบก่อนที่เสียงถอนหายใจหนักๆ จะดังออกมา


“อยากทำอะไรก็ทำ แล้วอย่าลืมที่พูดก็แล้วกัน นานแล้วนะที่แกไม่ได้ขออะไรพ่อจริงจังแบบนี้”


“เย้ สำเร็จแล้ว!!” ผมโผล่เข้ากอดนรินทร์เต็มแรง เขาเองก็หันมากอดผมตรงๆ ก่อนจะเอาแต่กระซิบที่ข้างหูว่าขอบคุณๆ อยู่อย่างนั้นต่อหน้าคนทั้งคู่


“ฮึมๆ แล้วนี่จะไปไหนกัน” พอเสียงกระแอ่มไอดังขึ้นเราก็ผละออกจากกัน แต่นรินทร์ก็ยังจับมือผมไว้อยู่


“พวกผมว่าจะไปกินข้าวกัน แล้วพ่อกับแม่ละครับ”


“อย่างนั้นเหรอ งั้นพวกฉันก็จะกลับแล้ว แล้วเมื่อไรรินจะกลับบ้าน”


“พรุ่งนี้ครับ”


“ก็ดี”


“ถ้าอย่างนั้น พวกผมขอตัวนะครับ” นรินทร์ว่าแล้วเดินเข้าไปเอากระเป๋าในห้องนอนเลยกลายเป็นว่าตอนนี้เหลือแค่ผมกับคุณพ่อคุณแม่ของนรินทร์ เกรงไปสิ


“แฮะๆ เมื่อกี้ต้องขอโทษจริงๆ นะครับ”


ผมขอโทษออกไปอีกรอบเพราะรู้สึกผิดมากจริงๆ รู้สึกเหมือนเป็นตราบาปยังไงไม่รู้ คุณแม่ของนรินทร์ยิ้มให้ก่อนจะบอกว่าไม่เป็นไร พอมองไปที่คุณพ่อของนรินทร์เขาก็ทำเพียงแค่ส่ายหัวแต่สีหน้าก็ดูดีขึ้นมาหน่อย


“ไปกันเถอะคุณ”


“แม่ไปก่อนนะจ๊ะ ฝากนรินทร์ด้วย”


“ครับผม” พอทั้งสองคนออกไปนรินทร์ก็เดินออกมาจากห้องนอนพอดี


“ไปแล้ว”


“อืม งั้นเราก็ไปกันเถอะ ผมหิวจะแย่อยู่แล้ว” ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าของนรินทร์ ดูมีชีวิตชีวากว่าเมื่อครู่มากๆ เห็นแบบนี้แล้วผมก็พลอยมีความสุขไปด้วย




 
“เมื่อกี้ขอบคุณมากนะ”


“เหอะๆ เราไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง แถมยังไปตะคอกใส่พ่อนรินทร์อีก”


“นั่นก็เพราะว่าโกรธเรื่องของผมไม่ใช่หรือไง”


ผมยักไหล่แล้วหัวเราะแฮะๆ จริงอย่างที่นรินทร์พูดนั่นแหละก็ถ้าไม่โมโหจนเลือดขึ้นหน้าผมก็คงไม่พูดออกไปแบบนั้นหรอก เขาพาผมมาส่งที่บ้านหลังจากที่เราแวะกินข้าวที่ร้านอาหารที่นรินทร์บอกเรียบร้อยแล้ว ผมปลดเข็มขัดนรภัยออกเพื่อจะลงจากรถแต่นรินทร์กลับรั้งแขนผมไม่ไว้


ผมตั้งใจจะหันไปเพื่อถามว่ามีอะไรแต่แล้วใบหน้าคมที่เลื่อนเข้ามาใกล้นั่นทำเอาผมตกใจจนไม่รู้ว่าควรจะพูดจะทำอะไรก่อนดี ก่อนที่ในหัวจะคิดเสร็จริมฝีปากนุ่มของอีกคนก็ปิดทับลงมาที่ริมฝีปากของผมเสียแล้ว ผมได้แต่ตาโต ทั้ใบหน้าแข็งค้างอยู่แบบนั้น มีเพียงนรินทร์ที่ขยับเปลี่ยนองศาใบหน้าของตัวเองแล้วใช้มือบิดคางของผมเบาๆ เพื่อให้ผมเปิดปากออก ผมที่ไม่ประสีประสากับเรื่อแบบนี้ก็ได้แต่เปิดปากตามที่อีกคนร้องขอผ่านทางการกระทำนั่นราวกับต้องมนต์สะกด


ริมฝีปากทาบทับอยู่นานก่อนที่อีกคนจะค่อยๆ ผละออกไป เราไม่ได้จูบลกซึ้งจนถึงขั้นแลกลิ้นแต่ก็ยอมรับว่ามันค่อนข้างจะแนบชินเกินกว่าคำว่าจุบปากอย่างที่ผมเคยทำกับแม่ตอนเด็ก ถึงตอนนี้ใจของผมเต้นรัวจนแทบจะเด้งออกมาข้างนอกอยู่แล้ว


“ทำไม..”


“วันนั้นที่แลนด์คุยกับประมุขในห้อง ผมได้ยินทุกอย่าง”


“....!!!!”


“ดีใจ แต่ก็ยังไม่แน่ใจกับความรู้สึกของตัวเองเท่าไรนัก แลนด์จะรอบได้ไหม?” ถึงตอนนี้สติของผมก็ได้หลุดลอยไปไกลแล้ว นรินทร์รู้ เขาได้ยินทุกอย่างที่ผมคุยกับประมุขในวันนั้น แม้ว่าจะตกใจแต่ผมก็ยังรู้สึกโล่งใจที่อีกคนไม่มีที่ท่าว่าจะรังเกียจกันเลย

“ที่ให้รอคือให้ความหวังเหรอ”


“จะว่าแบบนั้นก็ได้ ผมยังไม่แน่ใจเท่าไร ดูเห็นแก่ตัวจังเลยเนอะ”



ถึงจะว่าตัวเองแบบนั้นแต่เขาก็ยังคงยิ้ม ผมเองก็ได้แต่ยิ้มพร้อมกับพยักหน้าให้อีกคนไปด้วย รู้ทั้งรู้ว่ามันคือการให้ความหวัง และก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่เห็นแก่ตัวแต่ผมก็ยังรู้สึกยินดีที่จะรอตามที่นรินทร์ร้องขอ ก็นะ.. ความพอใจส่วนตัวล้วนๆ แต่ให้มีเหตุผลมาหักล้างล้านแปดผมก็ไม่ฟังหรอกถ้าใจตัวเองต้องการซะอย่าง






TBC
คราม
คราม
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 41
Join date : 01/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Who’s the KING? } 13 Empty Re: Who’s the KING? } 13

ตั้งหัวข้อ by Sier Wed Jul 16, 2014 2:38 pm

เพราะแค่อยากล้างมือจากประมุขเหรอ - แก้มือหรือเปล่าค่ะ...ล้างมือ...ความหมานมันน่าจะไม่ใช่อะ
แลนด์จะรอบได้ไหม- บ เกินมานะคะ T^T อารมณ์ผิดไปเลย

ยังคงสงสารประมุขอย่างต่อเนื่อง ^^""

Sier
นักอ่าน

จำนวนข้อความ : 107
Join date : 11/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Who’s the KING? } 13 Empty Re: Who’s the KING? } 13

ตั้งหัวข้อ by seaslugblue13 Fri Jul 18, 2014 9:25 pm

ขอบคุณนะคะ ผิดเยอะจริงเชียว T^T

seaslugblue13
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 8
Join date : 28/03/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Who’s the KING? } 13 Empty Re: Who’s the KING? } 13

ตั้งหัวข้อ by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 3:30 pm

หฟกหหฟฟหดหดหดหดหดำไำ #สติแตก
โฮรกกกกกกกกกกกก
น้ำไหล
น้ำไหล
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 172
Join date : 01/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Who’s the KING? } 13 Empty Re: Who’s the KING? } 13

ตั้งหัวข้อ by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:01 pm

เอี๊ยดดด นรินทร์ตีตื้นขื้นมาอย่างรุนแรงคะ 
มีจุ๊บๆ กันแล้วด้วย แถมแลนด์ยังออกโรงปกป้องเต็มที่เลย
มีแต่คนเชียร์ประมุข แต่ส่วนตัวก็ยังแอบเชียร์นรินทร์ค่ะ อิอิ
เลื่อมประภัสสร
เลื่อมประภัสสร
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 192
Join date : 01/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ