กิจกรรมสร้างงานให้เป็นเล่ม
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search

Latest topics
» Who’s the KING? } 16 [END]
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:30 pm

» Who’s The KING? } 15 - Special part form Pramuk.
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:25 pm

» Who’s the KING? } 15
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:23 pm

» Who’s the KING? } 14
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:09 pm

» Who’s the KING? } 13
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:01 pm

» Who’s the KING? } 12
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 6:50 pm

» Who’s the KING? } 11
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 6:40 pm

» Who’s the KING? } 10
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 5:59 pm

» Who’s the KING? } 9
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:39 pm

» Who’s the KING? } 8
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:31 pm

» Who’s the KING? } 7
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:19 pm

» Who’s the KING? } 6
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 1:49 pm

» Who’s the KING? } 5
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:57 am

» Who’s the KING? } 4
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:43 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #2 (จบ)
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:26 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #1
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:13 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /14 (จบ)
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:03 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /13
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:54 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /12
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:43 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /11
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:33 am


Who’s the KING? } 3

+7
เสน
Sier
เลื่อมประภัสสร
หงส์ดิน
tookta
น้ำไหล
คราม
11 posters

Go down

Who’s the KING? } 3 Empty Who’s the KING? } 3

ตั้งหัวข้อ by คราม Fri Apr 18, 2014 4:45 pm

Who’s The KING?
3
 






       สุดท้ายผมก็ยอมทำตามที่มันบอกคือมันจะยอมลงแข่งแต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนระหว่างกัน โดยถ้ามันชนะแล้วได้เป็นตัวแทนมันจะบอกอีกทีว่าต้องการอะไรจากผม แต่ถ้ามันไม่ชนะก็เจ๊าๆ กันไป เราทำสัญญากันปากเปล่ามีเพื่อนมิงค์ของมันเป็นพยานเอก รู้สึกว่ามันจะไม่แฟร์กับผมสักเท่าไร แต่ก็เอาเถอะ ไม่ได้อยากได้อะไรจากมันอยู่แล้วแค่มันยอมเข้าคัดเลือกก็พอ ส่วนถ้ามันชนะก็อีกเรื่องหนึ่ง ดีไม่ดีพอถึงวันนั้นต่างคนต่างก็คงลืมมันไป 







                หลังจากที่มันยอมมันก็พร้อมจะลากผมไปห้องประชุมทันที แต่ผมก็ยื้อตัวไว้ก่อนเพราะยังมีอีกคนที่ยังไม่ได้ไปตาม นายนรินทร์นั่นแหละ พอบอกให้ไอ้ปอนด์ไปก่อนมันก็ไม่ไป สรุปเราสองคนเลยต้องไปที่วิทยาลัยนานาชาติด้วยกัน เดินกันจนจะถึง สายตรงจากไอ้นายก็โทรมาได้ความว่า นรินทร์เข้าไปพบโค้ชกับอาจารย์แล้วบอกว่าจะไม่ลงคัดเลือกให้ประมุขเป็นตัวแทนไปเลย พอเล่าให้ประมุขฟังมันก็ควันออกหูปากบอกไม่ยอมอย่างเดียว มันบอกว่าเสียศักดิ์ศรีจะชนะทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มแข่งเลยได้ไง 




                “ไปเอามันมาลงคัดเลือกกับกูให้ได้เลยนะ ไม่อย่างนั้นมึงโดนกูเล่นแน่”




             นั่นเป็นประโยคสุดท้ายหลังจากที่เราเข้าประชุมกันเสร็จโดยมีแค่นายประมุขและไร้เงาคุณชานนรินทร์ ในห้องประชุมมันบอกดิบดีว่าจะไปกล่อมนรินทร์ให้มาลงคัดเลือกอย่างยุติธรรมให้ได้ แต่พอออกจากห้องมาก็อย่างที่ได้ยิน แม่ง ใช้กู! ไม่พอแถมขู่! แทนที่จะจบแค่กล่อมไอ้มนุษย์ป่าเถื่อนกลับต้องมาคิดอีกว่าจะไปกล่อมคุณชายเขายังไงอีก












                การตามหานรินทร์ไม่ใช่เรื่องยาก แค่เดินมาดักรอตรงที่จอดรถวิทยาลัยนานาชาติก็เจอแล้ว แต่มันยากตรงที่ผมจะเข้าไปทักยังไงดี ล่าสุดที่คุยกันก็ดันไปทำหน้าเบื่อหมาใส่เขา แล้วนี่กลับต้องมาขอให้เขาลงคัดเลือก กูจะปั้นหน้ายิ้มยังไงดีวะ





                “อะ.. เฮ้”



                “หือ อ้อ แลนด์นี่เอง”




                “เรียนเสร็จแล้วเหรอ”




                คำถามโง่ๆ ถูกส่งออกจากผากของผมเอง ก็เห็นอยู่ว่าเขากำลังจะสอดตัวเข้าไปในรถก็ยังจะไปถามอีกนะ ผมมาดักรอนรินทร์ตั้งแต่เมื่อสามสิบนาทีก่อน ข้างรถเลย เห็นครั้งแรกก็จำได้แล้วออดี้เงินแบบนี้มีไม่เยอะนักหรอกในมหาลัยน่ะ นรินทร์ยักคิ้วขึ้นก่อนพยักหน้ารับ เอาของเก็บแล้วปิดประตูรถมาหยุดยืนตรงหน้าผม



                “มีอะไรหรือเปล่า เรื่องคัดเลือกนักกีฬาใช่ไหม”




                “อือ”




                “ผมไปบอกโค้ชแล้ว”




                “ก็รู้แล้วแหละ แต่ทุกคนก็อยากให้นรินทร์เข้าร่วมนะ อย่างน้อยก็ให้รู้ผลแพ้ชนะ” ผมบอกออกไป นรินทร์ยกแขนขึ้นกอดออกพิงรถมองหน้าผมเงียบฉี่ ไม่มีเสียงใดๆ ตอบกลับมา โอเค ถ้างั้นพูดต่อ 




                “แพ้ก็แพ้ไม่ต้องไปแข่ง แต่ถ้าชนะก็ตัดสินใจอีกทีก็ได้”





                “ก็ให้ประมุขไปตั้งแต่แรกเลยมันจะไม่ดีกว่าเหรอ”





                “ไม่นะ ไม่ดี” ถ้าดีไอ้บ้านั่นคงไม่ขู่ให้กูมากล่อมให้มึงไปแข่งหรอก! อยากจะตะโกนออกไปอย่างนั้นแต่ก็ทำได้แค่ยกมือทำเครื่องหมายกากบาทบ่งบอกว่ามันไม่ดีอย่างแรง นรินทร์ขมวดคิ้วยุ่งเลยทีนี้



                “แลนด์นี่ก็แปลกนะ เมื่อวานยังทำไม่สนใจอยู่เลย ผมก็ไปบอกโค้ชเองแล้วทำไมวันนี้ถึงกลับมาง้อล่ะ” แหม่ะ พูดเหมือนผมผิดที่ไม่สนใจมันเมื่อวานอย่างนั้นแหละ ว่าแต่มันสังเกตด้วยเหรอว่าผมทำหน้าเบื่อหมาใส่





                “มันก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรสำคัญนะ แต่เราก็แค่อยากให้มันเป็นไปอย่างยุติธรรมเท่านั้นเอง”




                จะร้องไห้แล้วแม่ง! นึกเหตุผลไม่ออก





                “ยังไงก็เถอะผมบอกโค้ชไปแล้วก็ตกลงตามนั้นไป ไปก่อนนะ” นรินทร์พูดแล้วสอดตัวเข้าไปภายในตัวรถ ผมรีบวิ่งไปเปิดประตูอีกฝั่งแล้วเข้าไปนั่งทันที นรินทร์ไม่มีที่ท่าตกใจเลยสักนิดกลับมองผมด้วยสายตานิ่งๆ แทน ด้านได้อายอด!





                “แต่อาจารย์ก็ยังไม่ยอมรับไม่ใช่เหรอ ไม่อย่างนั้นเราก็คงไม่โดนใช้ให้มาตามง้อหรอก”




                “อ๋อออ ที่มาก็เพราะโดนใช้”




                “ไม่ๆ เอ่อ... โดนใช้ก็ส่วนหนึ่ง แต่ก็...”





                เงียบครับ เงียบยิ่งกว่าเมื่อกี้อีก ผิดสินะ





                “ผมจะลงหรือไม่ลงมันก็ไม่ใช่ธุระของแลนด์เลยไม่ใช่เหรอ”  นี่ด้านมืดของนรินทร์หรือเปล่า ทำไมเสียงเย็นได้ขนาดนี้





                “อือ.. ไม่ใช่ แต่ก็อยากให้ลง”





                “เหตุผลที่อยากให้ล่ะ”





                “ไม่มี”





                “ก็เพราะว่าโดนใช้ไง แลนด์เลยมาตามผมแบบนี้ เอาเป็นว่า..”





                “ไม่ใช่นะ!





                ผมโพล่งออกไปทันที เริ่มรับไม่ได้อย่างแรง ผมไม่ได้มาเพราะแค่โดนใช้อย่างเดียวสักหน่อย แล้วก็ไม่ใช่ว่าเพราะโดนไอ้เถื่อนนั่นขู่ด้วย แต่เพราะคนในชมรมที่รอมันต่างหากมันไม่ได้มารับรู้กับผมนี่ว่าใครเขารอสนับสนุน รอเชียร์มันอยู่ มันเป็นความต้องการของคนอื่นก็จริง แต่ผมก็อยากทำให้พวกเขามีความสุข แม้ว่าจะไม่ได้มีใครมาร้องขอก็ตาม ผมไม่ชอบทำให้ใครผิดหวัง เพราะคนที่ผิดหวังไม่ได้มีแค่คนที่หวังไว้กับเราแต่ตัวเราเองก็จะผิดหวังไปกับตัวเองด้วย มันเป็นความรู้สึกที่ไม่ดีเลย ผมไม่ชอบ ผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้น





                “เราก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรสำคัญ แล้วเรื่องนี้มันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเราโดยตรง เราโดนใช้มาก็จริง แต่ว่านรินทร์คนอื่นๆ เขาคอยที่จะเชียร์นายอยู่นะ พวกเขาดีใจไปกับนาย รอที่จะสนับสนุนแต่พวกนายก็.. ไม่ต้องการมัน”




                ผมถอนหายใจออกมาหนึ่งเฮือกใหญ่ กำลังเรียบเรียงคำพูดต่อไปในหัว นรินทร์ไขกุญแจสตาร์ทรถแล้วแต่ยังไม่ออกรถ คงจะรอให้ผมลงไปก่อน





                “มันไม่ใช่เรื่องของเราเลย แต่เราไม่อยากให้คนอื่นผิดหวังทั้งกับตัวนรินทร์เองแล้วก็กับตัวเราเองด้วย”




                คลิ๊ก




                เฮ้ย! หลังจากพูดจบผมก็เตรียมจะเปิดประตูรถออกแต่ไอ้คนที่นั่งอยู่หน้าพวงมาลัยกลับล็อคประตูรถหน้าตาเฉย แถมปลดเกียร์ถอยรถออกทันทีเลยด้วย




                “เดี๋ยวๆ นรินทร์เราลงก่อน”




                “ไหนๆ ก็ขึ้นมาแล้ว ไปกินข้าวกัน”











                บรรยากาศร้านอาหารใจกลางเมืองในวันศุกร์คนไม่ได้เยอะอย่างที่คิด ร้านที่นรินทร์พาผมมานั่งเองก็บรรยากาศดีเสียจนต้องแอบจำชื่อร้านไว้จะได้มาอีกสักรอบ ครับ ตอนนี้ผมกำลังนั่งบนโต๊ะเดียวกับคุณชายนรินทร์ที่กำลังจิบเบียร์นอกเข้าปากอย่างสบายอารมณ์ผิดกับผมที่กระกดเบียร์ไปแก้วที่สามแล้วตั้งแต่มาถึง ไม่ได้กังวลเรื่องค่าเงินเลยแม้ว่าในกระเป๋าจะมีอยู่แค่พันเดียวก็ตาม ยังไงมันก็จ่าย เชื่อผมสิ





                “นรินทร์รอบที่สามแล้วนะ ทำไมถึงพาเรามาด้วย”




                “ก็ไม่มีอะไร แค่หิว ไม่มีเพื่อนทานข้าวเลยพามาด้วย” น่าโมโห น่าโมโหกับท่าทางกวนโอ๊ยนั่นที่สุด ตอบดีๆ ไม่ได้ต้องเล่นหูเล่นตาให้กูสินะ



                “แปลว่ายอมเข้าคัดเลือกใช่มะ”




                “ไม่นิ ยังไม่ได้ตอบตกลงเลยสักคำ อย่ามาตู่น่าแลนด์”




                ไม่ตู่ก็ไม่ได้เรื่องสิวะ โธ่ เห็นพามานั่งกินข้าวประสานมิตรด้วยก็นึกว่าจะยอมแล้วซะอีก เมื่อกี้ยื่นหน้าเข้าใกล้ไปหน่อย  ผมเลยมูฟหน้าตัวเองกลับมาตั้งตรงพร้อมทำปากจู๋อย่างเซ็งจิต นรินทร์เห็นก็อมยิ้มหวานส่งมาให้ ยิ้มจนตาปิดเลยแล้วผมก็ต้องยิ้มกว้างตามในเสี้ยววินาทีต่อมา





                “ขอคิดอีกหน่อยแล้วกัน”













                นรินทร์ขับรถมาส่งผมที่คอนโดหลังจากที่เราทานข้าวกันเสร็จ บอกเลยว่าเกร็ง ตอนดื่มเบียร์ไม่เกร็งหรอก แต่พอเริ่มทานอาหารเท่านั้นแหละเกร็งเลย นรินทร์ทานได้สุภาพมาก สุภาพจนผมต้องนั่งนึกเรื่องมารยาทบนโต๊ะอาหารที่เคยโดนอาจารย์หลอกให้ไปเข้าอบรมที่โรงแรมเมื่อสมัยม.สี่ นึกก็ไม่ค่อยจะออกเลยพลอยกินไม่ค่อยอิ่มไปด้วย สุดท้ายก็นั่นแหละครับ กลับมาซัดมาม่าไปอีกวัน หลังจากกินเสร็จก็ลงมานั่งจ้ำอยู่ที่พื้นห้องนั่งเล่นข้างไอ้บุ๊ค เราไม่ได้คุยอะไรกันมากนักมันเล่นเกมส์ในมือถือส่วนผมก็ดูละคร หลังข่าวที่ไม่ได้ดูมาหลายวันแล้ว สงสัยต้องไปดูทีวีย้อนหลังอีก นี่งงไปหมดอะไรมายังไง ผมเป็นคนที่ค่อนข้างจะติดละครเหมือนแม่บ้านวัยทอง แต่ก็ดูเฉพาะเรื่องที่มันถูกจริตจริงๆ เท่านั้นแหละ




                “มึงวันนี้เป็นไงอ่ะ ได้ผลไหม”



                “เกือบมั้ง นรินทร์บอกจะคิดอีกที”





                “ไปทำอีท่าไหนว่ะ” ผมปรายตามองมันนิดหนึ่งตอนที่มันขยับเข้ามาใกล้แต่ในมือก็ยังรันไม่หยุด ถึงจะเล่นเกมอยู่แต่ความเสือกก็ไม่ได้ลดลงเลย





                “กูก็พล่ามไปเรื่อย มันน่าผิดหวังบ้าง คนอื่นเขารอเชียร์อยู่นะ บลาๆ นรินทร์เลยขอคิดอีกนิด ไม่รู้ว่านิดของมันจะนานแค่ไหน”





                “เรื่องพูดชักจูงนี่ถนัดนักนะมึง”





                “เฮ้ย ครั้งนี้ไม่ได้แค่พูดเฉยๆ นะเว้ย กูรู้สึกแบบนั้นจริงๆ”






                 “รู้สึกไร”





                “รู้สึกไม่ดีไงมึง คนในชมรมกูเชียร์ไอ้สองคนนั้นจะตายแล้วมันจะไม่เข้าคัดเลือกแบบนี้มันไม่ใช่ กูไม่อยากให้ใครผิดหวัง”






                “ผิดหวังกับใครกับไอ้นรินทร์หรือกับตัวมึงเอง”





                “ก็ทั้งสองนั้นแหละ”





                “มึงก็อย่างเงี้ย”




                มึงก็อย่างเงี้ยของไอ้บุ๊คผมรู้เลยว่ามันหมายถึงอะไรก็อย่างที่บอกว่าผมไม่ชอบให้ใครผิดหวังกับตัวผม อะไรที่ทำให้คนมีความสุขได้ก็อยากจะทำให้แม้ว่าบางทีผมจะไม่ได้อยากทำมันเลยก็ตาม แต่ถ้าสิ่งที่ได้กลับมามันคือรอยยิ้มของคนที่คาดหวังอยู่ผมก็ยอมทำ




                “อะไรที่มันไม่ใช่เรื่องก็อย่าไปเต็มที่กับมันนัก เดี๋ยวต่อไปมึงจะเจ็บเอง ให้คนผิดหวังบ้างมันก็ไม่ตายหรอก”





                “มึงงงง เรื่องแค่นี้เองนะ”    

 
                ผมละสายตาจากจอทีวีพอดีกับที่มันโฆษณาเข้าไปออดอ้อนไอ้บุ๊ค ไม่บ่อยนักที่มันจะทำเสียงเหมือนรำคาญใส่ผมแบบนี้





                “เรื่องแค่นี้ของมึงจะกลายเป็นเรื่องใหญ่เข้าสักวัน”






                “ไม่ใหญ่หรอก นี่อ่ะๆ พอคัดเลือกกูก็แค่ไปช่วยงาน ใครชนะก็ได้ไปแข่งแค่นี้ก็จบล่ะ”





                “หึ”




                “มึงอ่ะ”




                ยังออดอ้อนไม่ปล่อยครับ เอาหัวไปถูๆ เหมือนแมวมันก็ทำเพียงแค่สายหัวกลับมาแล้วสนใจเกมในมือถือต่อไปผมก็กอดแขนมันแล้วดูทีวีต่อ แต่ใจก็ไม่ค่อยจะเป็นสุขสักเท่าไร










                ช่วงเช้าของวันอาทิตย์ผมควรจะได้นอนอืดตื่นสายอยู่คอนโดแต่กลับต้องหอบสังขารเหี่ยวๆ จากเมื่อคืนที่นั่งดวลเกมกับไอ้บุ๊คยันตีสองเพื่อมามหาลัย ไอ้ห่าโชคกวนตีนมันเป็นหัวหน้ากลุ่มทำรายงานงานพวกผมเอง มันไม่ได้นัดล่วงหน้าว่าวันนี้จะต้องเข้ามาทำรายงานที่จะส่งในคาบหน้า ผมก็ลืมไง แต่มันกลับโทรมาบอกเอาตอนเก้าโมงเช้าแล้วต้องครบภายในสิบโมง สัด หมั่นไส มาบ่ายแม่งเลย แน่นอนพอผมกับไอ้บุ๊คมาถึงก็โดนสายตาสาปแช่งจากสมาชิกกลุ่มที่นั่งรอท่าอยู่แล้วทั้งสามคนไปเต็มๆ





                “กูนึกว่าพวกมึงจะโผล่มาสักสี่โมงซะอีก”




                “ถ้าจะสายขนาดนั้นพวกกูไม่มาให้เสียแรงหรอก”




                “หรา นี่ก็สายนะ มาไมอ่ะ”




                “งั้นกูกลับ”





                “อย่า งานจะส่งพรุ่งนี้แล้วมึง มาช่วยกันทำเหอะ”




                ไอ้โชคโหยโหนขึ้นมาทันที จริงๆ งานมันไม่เยอะหรอก เพราะก่อนหน้านี้ก็ทำกันไปก็เยอะแล้ว แต่พอหลังจากนั้นต่างคนต่างก็ลืมกันหมดไอ้ที่ควรเสร็จไปตั้งนานแล้วก็ต้องมานั่งเร่งทำกันวันนี้ไง งานง่ายๆ ครับ ทำสถิติที่พวกผมไปออกสำรวจมาเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อน ตอนนี้ก็เหลือแค่สรุปกับทำกราฟเท่านั้น กวนตีนกันไปกวนตีนกันมากว่าจะเริ่มงานได้ก็เกือบสามโมง พอเข้าโหมดจริงจังงานก็เดินเร็วกว่าที่คิดไม่กี่ชั่วโมงต่อมาก็เสร็จ แบ่งกันทำก็แบบนี้ก็เลยเสร็จไว




                “ไปหาข้าวกินอีกซอยดีไหมมึง กูเบื่อร้านข้างคอนโดล่ะ”




                “เอาอย่างนั้นก็ได้”



                บุ๊คเอ่ยชวนตอนที่เราแยกกับเพื่อนสามคนนั้นแล้ว จริงของมันแหละ ร้านข้างคอนโดนี่กินจนครบเมนูไปหมดแล้ว เบื่อมากบอกเลย ขอลี้ไปกินร้านอื่นให้พอคิดถึงก่อนค่อยกลับไปกินต่อคงจะดีกว่า




                ร้านที่พวกผมเลือกมาคนค่อนข้างเยอะ ดูๆ ไปแล้วนี่มันร้านที่เพื่อนในเอกเคยแนะนำให้มากินนี่หว่า ท่าทางจะอร่อยอย่างที่เพื่อนบอก ผมสองคนสั่งอาหารมาสามอย่างกับข้าวคนละจาน อิ่มแปล้กันไป ก่อนกลับคอนโดก็แวะซื้อเค้กชิ้นเล็กไปกินเป็นของหวาน







                พวกผมเดินมาเรื่อยๆ จนถึงคอนโดกำลังจะก้าวขาเข้าประตูผมกลับชะงักไปแวบหนึ่งจนไอ้บุ๊คต้องดึงเข้าไม่งั้นได้โดนประตูหนีบแน่ ที่ชะงักไปก็เพราะไอ้ผู้ชายที่กำลังยืนรอลิฟต์อยู่นั่นน่ะสิ ทำไมมันมาโผล่ที่นี่ได้วะ ไอ้ประมุข มันไม่ได้มาคนเดียว แต่มากับสาวสวยคนหนึ่ง หุ่นนี่พอๆ กับคนที่มากับนรินทร์เลย ความสวยก็ไม่ต่างกัน




                มือของมันวางอยู่เอวของผู้หญิงคนนั้น ด้วยความสูงของมันที่ผมเพิ่งสังเกตว่าสูงมากทีเดียวขนาดผู้หญิงใส่ส้นสูงแล้วยังได้แค่ปลายจมูก ทำให้เวลาสองคนนั้นมันหันหน้ามาคุยกันมันต้องก้มหน้าลงแล้วปากนี่แทบจะแนบติดกันแล้วอย่างกับโลกนี้มีกันแสองคน 





                ผมยืนดูดไอติมหลอดมองมันอยู่นานจนมันหันมาเห็นในจังหวะที่พากันเข้าไปในตัวลิฟต์ มันยักคิ้วให้ผมทีแล้วทำท่าเร่ง แต่ผมปฏิเสธด้วยการส่ายหน้า ไม่อยากขึ้นกับมันอีกส่วนคือไอ้บุ๊คเข้าไปซื้อของในแฟมมิลี่ แต่มันก็ยังหยุดรอจนไอ้บุ๊คเดินออกมาผาดแขนลงกับบ่าของผมอย่างใกล้ชิด มันรั้งให้ผมเดินไปที่ลิฟต์ตัวนั้นเมื่อเห็นว่าไอ้ประมุขมันยังกดค้างรออยู่





                “มึง ค่อยไปอีกรอบเหอะ”




                “ไมวะ” ผมเอื้อมแขนไปกอดเอวไอ้บุ๊คแล้วเขย่งขึ้นกระซิบข้างหูมันแทนเพราะไม่อยากให้สองคนในลิฟต์ได้ยิน





                “นั่นประมุขมันมากับแฟน กูไม่อยากเข้าไปกับมัน”





                “เอ้า ก็เรื่องของมันดิ”



                “นะๆ อ่าว เฮ้ยยยย”




                ยังอ้อนเพื่อนไม่ทันเสร็จไอ้บุ๊คมันก็ลากผมเข้าไปในลิฟต์แล้วครับ เราสบตากันแวบหนึ่งแต่ไม่มีใครเอ่ยอะไร มันไม่ทักผมก็ไม่ทัก





                “ชั้นแปดครับ ขอบคุณครับ”



                มันกดเลขชั้นให้แล้วหันมายิ้มหวานให้แฟนมัน มองเหลือบมองผมด้วยสายตาเย็นๆ แวบหนึ่งก็พอดีถึงชั้นที่มันกับแฟนจะลงก็พากันออกไปก่อนประตูลิฟต์จะปิดไม่วายหันมาส่งสายตาเย็นให้ผมอีกที






                ไอ้ห่าประมุขเอ้ย! ทำไมเป็นไม่รู้จักกันแล้วยังจะมาขู่กันอีกนะ คิดว่าเก่งแล้วดิถึงไม่ยอมซ้อม คอยดูผมจะเชียร์นรินทร์ใจขาดดิ้นไปเลย 









TBC.
ขอบคุณสำหรับการติดตามและคอมเม้นต์ในสองตอนที่แล้วด้วยนะคะ 
-เรื่องพิมพ์ผิดนี่เราจะพยายามตรวจทานหลายๆ รอบก่อนลงนะคะ พอจะเข้าใจว่าอ่านๆ ไปแล้วเจอตรงพิมพ์ผิดมันจะ กึก. 5555 
-เรื่องสำนวนพูด ยอมรับว่าเป็นคนที่ค่อนข้างติดการพิมพ์ที่เป็นสำนวนพิมพ์จริงๆ บางประโยคเลยดูไม่สมจริงใช่ไหมคะ หลังจากนี้ก็จะลดหย่อนลงค่ะ การสนทนาจะได้ดูเป็นธรรมชาติขึ้น
-เรื่องคู่.. ยอมรับว่ายังไม่ได้ฟิกเลยค่ะว่าจะเป็น รินแลนด์หรือปอนด์แลนด์ กลัวเหมือนกันว่าสุดท้ายตัวเองจะเลือกพระเอกลำบาก แต่ที่แน่ๆ คงไม่มี 3P แม้เราจะชอบก็ตามแต่กลัวว่าจะสื่อความรู้สึกรักสามคนได้ไม่ดี อีกอย่างมันไม่เต็มที่ด้วยค่ะ ยังไงคนรักกันก็ต้องมีเพียงแค่สองคน (บ่งบอกว่าต้องดราม่า TT)
มีหลายข้อความเลยที่ให้ทั้งกำลังใจและชื่นชอบผมงานของครามและที่ชี้จุดผิดพลาดด้วย
ยินดีรับฟังทั้งหมดเลยค่ะ เพราะนั่นช่วยให้เราได้พัฒนางานเขียนให้ดีขึ้นเรื่อยๆ 
สำหรับตอนนี้ก็ขอฝากด้วยนะคะ 
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ  


แก้ไขล่าสุดโดย คราม เมื่อ Sun Apr 27, 2014 9:18 pm, ทั้งหมด 2 ครั้ง
คราม
คราม
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 41
Join date : 01/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Who’s the KING? } 3 Empty Re: Who’s the KING? } 3

ตั้งหัวข้อ by น้ำไหล Fri Apr 18, 2014 5:23 pm

ช่ายๆ เชียร์รินดีกว่าลูก ฟฟฟฟฟฟฟ #หนีปอนด์
น้ำไหล
น้ำไหล
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 172
Join date : 01/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Who’s the KING? } 3 Empty Re: Who’s the KING? } 3

ตั้งหัวข้อ by tookta Fri Apr 18, 2014 6:42 pm

ขอบคุณจ้า
ถ้าไม่ 3P ก็ต้องเลือกสักคนละหนอ ???
และจะเลือกใครดีล่ะ รักรินทร์เสียดายปอนด์
แต่ดูลักษณะรินทร์แล้วน่าจะโหดอยู่เหมือนกัน
แอบเก็บไว้ข้างใน เทียบกับปอนด์แล้วบ่งบอก
ก่อนเลยว่า เห้ย...กูเถื่อน โหด โฉดนะเว้ย !!!
อยากจะรู้เหมือนกันว่าใครกันแน่ที่จะเป็น KING
เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนจ้า สู้สู้ ^^
tookta
tookta
นักอ่าน

จำนวนข้อความ : 22
Join date : 17/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Who’s the KING? } 3 Empty Re: Who’s the KING? } 3

ตั้งหัวข้อ by หงส์ดิน Fri Apr 18, 2014 10:17 pm

เชียร์ริน เตะปอนด์ออกนอกโลกกก~
หงส์ดิน
หงส์ดิน
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 32
Join date : 07/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Who’s the KING? } 3 Empty Re: Who’s the KING? } 3

ตั้งหัวข้อ by เลื่อมประภัสสร Sat Apr 19, 2014 11:31 pm

มาถึงตอนนี้แอบเชียร์บุ๊คแทนได้ไหมคะ ดูจากสิ่งที่รินและปอนด์ทำ หึหึ
ปัจจุบันคะแนนปอนด์นำอยู่นิดหน่อยเพราะยังทำตัวเป็นคนดีอยู่ค่ะ ถึงคราวน่ากลัวนี่ก็น่ากลัวได้เหมือนกันนะคนนี้

เป็นกำลังใจให้คุณครามค่ะ สู้ๆ นะคะ ค่อยๆ ปรับ ค่อยๆ แต่ง เลื่อมเชื่อว่าคุณครามทำได้ค่ะ
แต่กับตัวเองนี่ไม่แน่ใจเลยค่ะว่าจะปรับได้ T^T
เลื่อมประภัสสร
เลื่อมประภัสสร
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 192
Join date : 01/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Who’s the KING? } 3 Empty Re: Who’s the KING? } 3

ตั้งหัวข้อ by Sier Mon Apr 21, 2014 2:09 pm

ตอนนี้อ่านสนุกจังคะ

เป็นเคะขี้อ้อนซะด้วย~~

มีบางประโยคที่อ่านแล้วงง
มีคำที่พิมพืไม่ครบอยู่ประปราย

รอตอนต่อไปนะคะ
ปล. แอบเสียใจที่ไม่ใช่ 3P T^T

Sier
นักอ่าน

จำนวนข้อความ : 107
Join date : 11/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Who’s the KING? } 3 Empty Re: Who’s the KING? } 3

ตั้งหัวข้อ by เสน Thu Apr 24, 2014 10:28 am

อ่านตอนนี้แล้วมีความรู้สึกว่าปอนด์จะเข้าใจแลนด์ผิดไปแล้วประมาณ 3 ส่วน 4

แหมก็ดูท่าเธอออดอ้อนบุ๊คซะ เป็นเราเห็นก็จิ้นค่ะ ><

สุดท้ายแลนด์จะลงกับใครก็แล้วแต่คุณครามตัดสินใจเลยค่ะ

แม้จะอยากได้ 3P แต่ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวคนที่โดนหักอกมาเสนปลอบเอง ><
เสน
เสน
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 29
Join date : 01/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Who’s the KING? } 3 Empty Re: Who’s the KING? } 3

ตั้งหัวข้อ by wazabikung Thu Apr 24, 2014 8:13 pm

เห็นแวว เจ้าเล่ห์ แผ่นเยอะทั้งคู่เลย ;p
รออ่านต่อไปค่ะ แผ่นใครจะแน่กว่ากัน

เชียร์ใครดีๆๆ>,<~

wazabikung
นักอ่าน

จำนวนข้อความ : 24
Join date : 22/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Who’s the KING? } 3 Empty Re: Who’s the KING? } 3

ตั้งหัวข้อ by 13cotton13 Thu May 01, 2014 7:24 pm

คุณประมุขเค้าหึงรึเปล่าคะเนี่ย
ที่แลนด์ไปใกล้ชิดกะรูมเมท 555
ดูเหมือนจะเป็นศ฿กชิงนาย ไม่ก็สามพีชอบกล
แต่เราชอบบบบบบ
13cotton13
13cotton13
นักอ่าน

จำนวนข้อความ : 129
Join date : 03/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Who’s the KING? } 3 Empty Re: Who’s the KING? } 3

ตั้งหัวข้อ by coldcream Thu May 22, 2014 8:29 pm

สนุกค่ะ รอลุ้นไปด้วยว่าน้องแลนด์จะพาสองหนุ่มไปคัดตัวยังไง

coldcream
นักอ่าน

จำนวนข้อความ : 11
Join date : 07/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Who’s the KING? } 3 Empty Re: Who’s the KING? } 3

ตั้งหัวข้อ by TwInZZZ Mon Jun 23, 2014 4:57 pm

จริงๆแล้วบุ๊คเป็นพระเอกใช่ป่ะ?
ดูแลนด์อัอนบุ๊คสุดเลย 6555

TwInZZZ
นักอ่าน

จำนวนข้อความ : 31
Join date : 21/06/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ