กิจกรรมสร้างงานให้เป็นเล่ม
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search

Latest topics
» Who’s the KING? } 16 [END]
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:30 pm

» Who’s The KING? } 15 - Special part form Pramuk.
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:25 pm

» Who’s the KING? } 15
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:23 pm

» Who’s the KING? } 14
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:09 pm

» Who’s the KING? } 13
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:01 pm

» Who’s the KING? } 12
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 6:50 pm

» Who’s the KING? } 11
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 6:40 pm

» Who’s the KING? } 10
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 5:59 pm

» Who’s the KING? } 9
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:39 pm

» Who’s the KING? } 8
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:31 pm

» Who’s the KING? } 7
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:19 pm

» Who’s the KING? } 6
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 1:49 pm

» Who’s the KING? } 5
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:57 am

» Who’s the KING? } 4
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:43 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #2 (จบ)
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:26 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #1
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:13 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /14 (จบ)
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:03 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /13
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:54 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /12
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:43 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /11
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:33 am


Fairy Tell - บทส่งท้าย

+2
หมึกจีน
เลื่อมประภัสสร
6 posters

Go down

Fairy Tell - บทส่งท้าย Empty Fairy Tell - บทส่งท้าย

ตั้งหัวข้อ by เลื่อมประภัสสร Sun May 18, 2014 12:37 am

บทส่งท้าย


                เหมันต์ฤดูผ่านพ้นไปแล้ว อากาศโดยรอบแดนภูตค่อยๆ อุ่นขึ้นทีละน้อย ปลุกสัตว์ทั้งหลายให้ตื่นจากการหลับใหลอันยาวนาน ภูตทั้งหมดในดินแดนมารวมตัวกันอยู่หน้าผืนหญ้าสุดสายตาที่กำลังผลิใบเล็กๆ โผล่พ้นขึ้นมาจากผืนดินสีน้ำตาลเข้ม แม้กระทั่งอดีตองค์ราชาและองค์รานีก็ยังมารวมตัวกันอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ทั่วทั้งลานเงียบสงบมีเพียงเสียงสายลมที่พาดผ่านมานานๆ ครั้งเท่านั้น ที่บั้นเอวของภูตแต่ละตนมีถุงผ้าเล็กๆ ถูกผูกอยู่ ด้านในบรรจุเมล็ดพันธุ์แห่งการเริ่มต้นเอาไว้ เมล็ดพันธุ์เหล่านี้ได้จากการเก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ในช่วงสารทฤดู และจะถูกนำไปใส่ในกระถางไม้ใบโตที่ตั้งอยู่เรียงรายทั้งห้าทิศเพื่อเป็นการบูชาพระแม่ทั้งห้า ได้แก่ พระแม่ธรณี พระแม่คงคา แม่พระพาย แม่พระเพลิง และพระแม่โพสพ เพื่อให้เหล่าภูตทั้งหลายได้ระลึกถึงบุญคุณของธรรมชาติ และรู้จักใช้สิ่งที่ตนมีในทางที่ถูกที่ควร
 
                พิธีบูชาพระแม่นี้จะถูกจัดขึ้นในวันแรกของวสันต์ฤดู ถือเป็นพิธีแห่งการเริ่มต้นชีวิตใหม่สำหรับภูตในแต่ละปี เมล็ดพืชเม็ดเล็กๆ จะถูกหย่อนลงไปในกระถางไม้ใบโตจนเต็ม โดยกระถางทั้งห้าใบนี้จะถูกนำไปเก็บเอาไว้ในห้องพิธีและแจกจ่ายกลับคืนไปให้ภูตในช่วงปลายฤดูเพื่อเริ่มต้นการเพาะปลูก
 
                องค์ราชาและองค์รานียืนอยู่ด้านหน้าของภูตที่เรียงแถวขดวนไปมาจนเกิดเป็นวงกลมขนาดใหญ่หลายวงจนสุดสายตา ทั้งสองใช้มือแตะที่ศีรษะแล้วผายมือออกเพื่อเป็นการให้เกียรติภูตตนแรกของแถว โดยการต่อแถวนี้จะเรียงตามลำดับอายุของภูตเริ่มจากภูตที่อายุน้อยที่สุดและปิดท้ายด้วยองค์ราชาและองค์รานีผู้ดูแลปกครองดินแดน พสุนธรายืนเกร็งอยู่ด้านหน้าสุด ภูตน้อยเขย่งปลายเท้าแล้วหย่อนเมล็ดเล็กๆ ที่อยู่ในมือป้อมๆ ลงไปในกระถางไม้ เหลียวซ้ายแลขวามองหามาตุเรศก่อนจะออกเดินต่อไปยังกระถางต่อไป จวบจนองค์ราชาหย่อนเมล็ดสุดท้ายลงในกระถางใบที่ห้าเสียงโห่ร้องด้วยความยินดีก็ดังขึ้น งานเฉลิมฉลองของวสันต์ฤดูได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว อาหารการกินมากมายถูกยกเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ไพร่พลจากป่าอนธการเองก็ถูกรับเชิญให้เข้ามาร่วมในงานเฉลิมฉลองนี้มาได้หลายปีแล้ว
 
 
 
                สองสัปดาห์หลังจากพิธีบูชาพระแม่และงานเฉลิมฉลองวสันต์ฤดูได้ผ่านพ้นไป งานที่ภูตทั้งหลายรอคอยก็ค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา พวกภูตมักจะระดมกันมาช่วยในการจัดงานมงคลเช่นนี้อยู่เสมอ ขณะที่เจ้าของงานกลับต้องเก็บตัวอยู่แต่ในห้องของตนเท่านั้น เพราะสิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือนคำอวยพรจากเหล่าภูต และคำอวยพรนี้ควรถูกส่งแก่ผู้รับเมื่อถึงเวลาเท่านั้น
 
                ถึงแม้จะล่วงเข้าราตรีกาลมาได้นานแล้วแต่สุ่มเสียงพูดคุยกันของเหล่าภูตที่เตรียมงานยังคงแว่วมาให้ได้ยิน ร่างเล็กแอบเปิดบานประตูตรงระเบียงออกไปสังเกตการณ์ ก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อถูกสัมผัสเข้าที่บริเวณแผ่นหลัง นึกในใจว่าคงจะต้องโดนลงโทษเป็นแน่ แต่พอเห็นว่าเป็นคนที่สัมผัสตนเป็นใครมือเรียวก็ฟาดเบาๆ เข้าที่แขน ดันฝ่ายตรงข้ามเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูทันที
 
                พี่เอกเข้ามาได้ยังไง! เขาให้อยู่แต่ในห้องไม่ใช่เหรอ?วายุภัคเอ่ยถามเสียงเขียวทั้งๆ ที่ตัวเองเพิ่งแอบเปิดประตูออกไปอยู่เมื่อครู่ เอกภักดิ์ชี้นิ้วไปทางหน้าต่างที่เปิดอยู่
 
                งั้นพี่ควรจะกลับห้องใช่ไหม? แต่ก่อนกลับพี่ว่าพี่จะแวะไปหาองค์ราชาเสียหน่อย แล้วบอกว่าพี่เห็นบางคนแอบย่องออกไปดูงาน จะได้รับโทษพร้อมกันไปเลย เอกภักดิ์สาวเท้าเข้าไปหาประตูบานใหญ่ที่ยืนสงบนิ่งอยู่ ร่างเล็กที่เห็นท่าไม่ดีก็รีบบินไปดักหน้าเอาไว้
 
                เอ่อ ไม่ต้องรีบกลับก็ได้พี่เอก นั่งดูจันทรากับวาก่อนดีหรือไม่ คืนนี้ช่างสวยงามยิ่งนัก วายุภัคลากร่างสูงมานั่งบนเตียง แสงจันทร์กระจ่างลอดผ่านเข้ามาตามบานหน้าต่างจนสว่างไปทั่วทั้งห้อง
 
                เอกภักดิ์ยกตัวร่างเล็กขึ้นมานั่งบนตักแล้วใช้แขนโอบเอาไว้หลวมๆ
 
                พี่เอก วาถามอะไรพี่เอกหน่อยได้ไหม?เอกภักดิ์ส่งเสียงตอบรับในลำคอ
 
                พี่เอกแน่ใจแล้วจริงๆ เหรอ ถ้าผ่านพ้นพรุ่งนี้พี่เอกจะต้องอยู่ที่นี่กับวาตลอดไปเลยนะ พี่เอกจะไม่เสียใจเหรอถ้าไม่ได้กลับไปใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์แล้ว วายุภัคเอ่ยถามด้วยความสับสนที่ก่อตัวขึ้นภายใน ไม่อยากยึดเอาเพียงแค่ความสุขของตัวเอง แต่กลับต้องทำให้คนรักต้องลำบากหรือทุกข์ใจ
 
                แน่ใจสิ ถ้าไม่แน่ใจพี่คงไม่เอ่ยขอดูแลวาจากองค์ราชาและองค์รานีหรอกครับ และพี่เองก็ไม่เสียใจที่กลายมาเป็นภูตแบบนี้ เพราะมันคือสิ่งที่พี่ควรจะเป็น และเป็นตัวตนจริงๆ ของพี่อยู่แล้ว อีกอย่างพี่ก็ยังสามารถลงไปเยี่ยมพ่อ พี่กันต์แล้วก็พี่ยุได้อยู่ ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้พบเจอกันอีกแล้วเสียเมื่อไหร่ เสียงทุ้มเอ่ยตอบ 
 
                วารู้ใช่ไหมครับว่าพี่รักวา ร่างเล็กพยักหน้ารับ จากสิ่งต่างๆ ที่ร่างสูงทำมันทำให้เขารับรู้ได้เป็นอย่างดี ไม่ได้เป็นเพียงความหลงใหลเพียงชั่วครู่ชั่วคราว
 
                เพราะฉะนั้นไม่ว่าวาอยู่ที่ไหนพี่ก็จะอยู่ที่นั่นกับวา พี่อยากนอนหลับแล้วก็ตื่นขึ้นมาเห็นหน้าวาอยู่ข้างๆ พี่อีกครั้ง ต่อจากนี้ไปทุกๆ วัน เราจะใช้เวลาร่วมกันให้ดีที่สุดเพื่อชดเชยเวลาที่เราได้สูญเสียไปนะครับ
 
                พี่ฝากมัดจำเอาไว้ที่วาก่อนนะ เอกภักดิ์ดึงรั้งใบหน้าเล็กเข้ามาหาขณะบดเบียดริมฝีปากลงไปอย่างนุ่มนวลแล้วค้างเอาไว้อย่างนั้น ไม่รุกล้ำไม่เร่งเร้าราวกับจะย้ำทุกถ้อยคำและความรู้สึกที่ตนมีให้ติดตรึงลงไปตราบนานเท่านาน
 
 
 
                หลังแสงแรกของอรุณรุ่งปรากฏได้ไม่นาน พิธีที่เรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ก็เริ่มขึ้น บรรยากาศโดยรอบอบอวลไปด้วยความชื่นชมยินดี ไม่มีการนำยศถาบรรดาศักดิ์ เพศ หรือสิ่งใดมาเป็นตัวกำหนดความรักของคู่รัก ถึงแม้คู่ทางจิตวิญญาณจะมีจิตที่สื่อถึงกัน และสามารถรับรู้ความรู้สึกซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดี แต่ก็ไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ ที่กำหนดให้คู่ทางจิตวิญญาณเท่านั้นที่จะสามารถมีสิทธิ์อภิเษกได้ ทุกสิ่งล้วนเกิดจากความพึงพอใจและความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย แม้ว่าคู่ส่วนใหญ่จะเป็นคู่ทางจิตวิญญาณกันก็ตาม แต่กระนั้นก็มีภูตไม่น้อยที่อาจจะหาคู่ทางจิตวิญญาณไม่เจอ หรือเลือกที่จะอภิเษกกับคนที่ตนเองรักมากกว่า
 
                ภูตแต่ละตนเลือกสวมเสื้อผ้าสีสันสดใสแข่งกับเหล่าดอกไม้ที่พวกเขานำมาประดับประดาในลานพิธี กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ลอยฟุ้งไปทั่ว ไม่นานเกินรอร่างในชุดขาวสะอาดตาก็พากันจูงมือเดินเคียงคู่กันเข้ามา ด้านหน้าปรากฎภาพองค์ราชาและองค์รานีในชุดเต็มยศสีเหลืองอร่ามยืนแย้มยิ้มอยู่ ด้านข้างมีจอมทัพยืนมองภาพตรงหน้าด้วยความภาคภูมิขณะใช้มือข้างซ้ายโอบกอดคนรักเอาไว้ ธุวดาราส่งสายตาแวววาวพลางยืนสงบเสงี่ยมอยู่ที่ด้านหลัง พร้อมกับธีรธราและภูตตนอื่นๆ รวมถึงไพร่พลจากป่าอนธการที่ถูกเชื้อเชิญให้มาเป็นสักขีพยาน
 
                ไม่มีคำสาบานหรือข้อผูกมัดใดๆ ในพิธีการนี้ เพราะภูตทุกตนรู้ดีว่าทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากการกระทำของภูตแต่ละตน มิได้ขึ้นอยู่กับถ้อยคำใดถ้อยคำหนึ่ง หากแม้นถ้อยคำจะทรงฤทธิฤามากมายขนาดไหน แต่ถ้าผู้เอ่ยไม่คิดจะกระทำตาม ถ้อยคำเหล่านั้นก็ไร้ซึ่งความหมาย สิ่งที่จะสามารถทำให้คนทั้งคู่มีความสุขในชีวิตคู่หรือไม่นั้นหาใช่คำอวยพร หรือคำสัญญาใดๆ แต่ขึ้นอยู่กับการแสดงความรักและดูแลซึ่งกันและกันต่างหาก ว่าจะดูแลทะนุถนอมซึ่งกันและกันมากน้อยเพียงใด
 
                ถ้อยคำในพิธีการจึงมีเพียงถ้อยคำจากผู้ดูแลดินแดนที่กล่าวขึ้นเมื่อพวกเขาทั้งคู่สัมผัสฝ่ามือของกันและกัน เพื่อรวมดวงจิตทั้งสองให้กลายเป็นหนึ่งเดียว ทั้งคู่ผลัดกันจุมพิตบริเวณหน้าผากเพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ฝ่ายตรงข้ามในการใช้ชีวิตครองคู่กันเรื่อยไป ปิดท้ายพิธีด้วยคำอวยพรที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดจากภูตตัวน้อยที่สวมใส่ชุดสีขาวบริสุทธิ์
 
                เอกภักดิ์โค้งตัวให้ร่างเล็ก มือเรียวจับลงที่ท่อนแขนแกร่งอย่างมั่นคง ฝ่ามืออีกข้างสอดประสานรับกัน ขณะที่บทเพลงถูกบรรเลงขึ้น ทั้งคู่ขยับกายอย่างสง่างามอยู่กลางลานไม่นานภูตที่เหลือก็จับคู่แล้วตีวงล้อมเข้ามา ดูราวกับภาพดอกไม้ยักษ์ที่แปลกประหลาดแต่กลับมีความงดงามจนไม่สามารถหาคำใดมาเปรียบเปรย
 
 
 
                แม้จะผ่านพ้นพิธีอภิเษกมานานพอสมควรแต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเปลี่ยนไปสำหรับเอกภักดิ์และวายุภัค เพราะสิ่งที่เปลี่ยนไปมีเพียงแค่เอกภักดิ์ที่ย้ายเข้ามาอยู่ในห้องของวายุภัคซึ่งกว้างกว่าห้องตนเองเท่านั้น ทั้งคู่ยังคงเที่ยวเล่นพร้อมกับหาความรู้ไปด้วย จึงมีหลายครั้งที่ทั้งคู่มักจะไปปรากฏตัวอยู่ที่บ้านของธีรธราผู้เป็นอาจารย์
 
                ท่านอาจารย์!! ข้ารู้นะว่าท่านอยู่ด้านใน เปิดประตูให้ข้าเถิด พี่เอกของข้าถือของจนหนักแล้วนะท่านอาจารย์ ร่างเล็กยืนตะโกนอยู่หน้าที่พักเมื่อเห็นคนที่อยู่ด้านในไม่ยอมเปิดประตูให้เสียที
 
                เจ้าทั้งคู่ไม่มีที่ไปแล้วหรือไรถึงมารบกวนภูตแก่เฒ่าอย่างข้าเช่นนี้ ธีรธราเดินออกมาเปิดประตูให้เอ่ยบ่นพลางลูบเคราไปมา
 
                ข้ารู้หรอกน่าว่าท่านอาจารย์ยังมิได้แก่เฒ่าเสียหน่อย เหตุใดจึงอยู่ในร่างตาแก่แบบนี้กัน กลัวว่าถ้าใช้ร่างที่แท้จริงภูตสาวๆ จะมาจับท่านไปอภิเษกด้วยอย่างนั้นหรือ วายุภัคเอ่ยติดตลกจึงเรียกมือผอมๆ ให้เขกศีรษะตนเองได้ไม่ยาก
 
                ข้าจะอยู่ร่างไหนมันก็เรื่องของข้า เจ้าจะวุ่นวายอันใดกับข้าหนักหนาวายุภัค พวกเจ้าทั้งคู่ควรจะเตรียมตัวเป็นองค์ราชาและองค์รานีกันเอาไว้เสียแต่เนิ่นๆ มิใช่หรือ ไม่ใช่เที่ยวเล่นไปทั่วแบบนี้ ถึงแม้ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าจะให้กำเนิดภูตน้อยเมื่อใดก็ตาม
 
                ข้าคิดว่าคงอีกหลายร้อยปีแน่ท่านอาจารย์ ที่สำคัญยังไม่รู้เลยว่าใครจะเป็นองค์ราชามิใช่หรือท่านอาจารย์ ท่านลองคิดดูสิ ถ้าข้าได้เป็นองค์ราชาแล้วพี่เอกเป็นองค์รานีคงจะน่ารักทีเดียวใช่หรือไม่ คำพูดของวายุภัคทำเอาเอกภักดิ์ถึงกับทำหน้าแหย ต่างจากภูตเฒ่าที่หัวเราะร่าออกมา
 
                จริงสินะ ว่าแต่ในตะกร้านั่นคืออะไรหรือ?
 
                อ๋อ ข้าคิดว่าเป็นลูกของปักษาสวรรค์นะท่านอาจารย์ ดูท่าแล้วเหมือนมันยังโตไม่เต็มที่ คงจะบินหลงมาจากรังที่ไหนสักแห่ง แถมมันก็ได้รับบาดเจ็บเสียด้วย ข้าว่าควรจะเอามาให้ท่านดูอาการเสียหน่อย
 
                นี่เจ้าเห็นข้าเป็นภูตรักษาสัตว์อย่างนั้นรึ ถึงเที่ยวเอาตัวอะไรแบบนี้มาให้ข้า ภูตเฒ่าเหลือบมองเจ้านกแสนสวยในมือเล็กคู่นั้น ดวงตาของเจ้านกเป็นสีดำขลับ แววตาแลดูเป็นประกายสดใส เฉกเช่นเดียวกับศีรษะของมัน ลำตัวสีฟ้าสดราวกับท้องฟ้าในวันไร้เมฆทำให้เจ้านกดูโดดเด่นและสะดุดตากว่านกที่ธีรธราเคยพบเจอในบริเวณนี้ บริเวณขาและปีกด้านขวามีรอยสีแดงพาดผ่านอย่างชัดเจน
 
                ถึงแม้จะบ่นอย่างไรธีรธราก็รับเจ้านกตัวโตมาจากร่างเล็กที่สวมสร้อยข้อมือสีฟ้าสดเอาไว้จนได้
 
                วายุภัคลูบหัวของเจ้านกแล้วเอ่ยขอบคุณผู้เป็นอาจารย์ก่อนจะเอ่ยขอ ธีรธราพยักหน้ารับอย่างขอไปทีโดยไม่รู้เลยว่านกตัวนี้จะเปลี่ยนแปลงชีวิตที่เงียบเหงาของเขาไปตลอดกาล
 
 
 
 
 
                หลังจากนั้นไม่นานเท่าไหร่นักวายุภัคก็ก่อกำเนิดบุตรชายจากไข่ที่มีวงกลมสีฟ้าขนาดใหญ่ด้านบน หลังหยดน้ำร่วงหล่นจากฟากฟ้าผ่านพ้นไป ภูตน้อยที่อยู่ในไข่เพียงแค่หนึ่งอาทิตย์ก็ออกมาดูโลกเป็นครั้งแรก
 
                อวัศยา ภูตน้อยที่มีดวงตาสีไพลินทักทายภูตที่อยู่รอบกายด้วยเสียงหัวเราะอย่างสดใส แล้วยื่นมือเล็กๆ ไปสัมผัสพสุนธราที่ยืนอยู่ใกล้ๆ จนเจ้าตัวตกใจ เพียงครู่ก็เกิดประกายสว่างวาบ เส้นสีแดงเข้มขนาดเล็กปรากฏออกมาโยงใยทั้งคู่เข้าด้วยกันไม่นานนักก็หายไป ขณะที่ภูตที่เหลือมองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง ไม่เว้นแม้แต่ธีรธราที่โดนเด็กหนุ่มแปลกหน้ายืนเกาะอยู่ด้านข้างด้วยชุดแต่งกายสีฟ้าสดใสตลอดร่าง
 
                พิธีบรมราชาภิเษกอย่างเรียบง่ายถูกจัดขึ้นหลังจากนั้นเพียงแค่หนึ่งวัน มงกุฎคู่เก่าแก่ที่มีลวดลายงดงามถูกสวมลงบนศีรษะเอกภักดิ์และวายุภัคที่อยู่ในชุดทรงสีขาว วราทิตย์เอ่ยฝากฝังดินแดนภูตแก่ผู้ดำรงตำแหน่งองค์ราชาและองค์รานีองค์ใหม่ ทั้งหมดทำความเคารพซึ่งกันและกันอีกครั้ง แล้วพิธีเฉลิมฉลองให้แก่ผู้ปกครองดินแดนองค์ใหม่ก็เริ่มขึ้น
 
                ราชาองค์ก่อนอยู่ในชุดสีน้ำตาลแดงกำลังโอบกอดผู้เป็นที่รักในชุดสีม่วงเข้มขณะเคลื่อนไหวร่างกายไปตามเพลงพร้อมกับภูตตนอื่นๆ หลังจากนี้ทั้งคู่จะย้ายไปอยู่ในที่พักขนาดเล็กที่พวกเขาช่วยกันสร้างขึ้น ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากใจกลางดินแดนเท่าไหร่นัก และคงจะมีเวลาว่างไปเยี่ยมเยียนบุพการีของตนเองได้บ่อยกว่าเดิม เพียงแค่คิดว่าบุตรชายตัวแสบจะต้องมาอยู่ในกรอบแทนที่พวกตนทั้งคู่ก็อดหัวเราะขึ้นมาพร้อมกันไม่ได้
 
                แต่ถึงอย่างไรวายุภัคก็ยังคงเป็นวายุภัคอยู่เฉกเช่นเดิม ถึงแม้จะต้องสวมใส่ชุดที่ไร้สีสันแต่เจ้าตัวก็ยังคงออกไปเป็นกรรมการในการแข่งฟุตบอลภูตอยู่บ่อยๆ เขายังคงออกไปดูการแข่งหอยทากอยู่ทุกปี และไปเยี่ยมเยียนเหล่าภูตในดินแดนมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน
 
 
 
 
                องค์ราชาเดินเข้ามาหาร่างเล็กที่ยืนอยู่บริเวณระเบียบงแล้วโอบกอดเอาไว้ในอ้อมแขน พลางเอ่ยถามถึงสาเหตุ หลังจากสัมผัสได้ว่าคนในอ้อมกอดกำลังไม่พอใจอะไรสักอย่างอยู่ ได้แต่ภาวนาให้สิ่งนั้นไม่ใช่ตนเอง ไม่เช่นนั้นแล้วคงจะได้ตามง้อกันอีกนานพอดู
 
                ทำไมทำหน้ามุ่ยอย่างนี้ล่ะครับวา?องค์รานีพิงตัวลงกับอกกว้างก่อนจะบ่นกะปอดกะแปดออกมา
 
                พี่เอกดูสิยาไม่สนใจวาเลย วาเป็นมาตุเรศของเขาไม่ใช่เหรอพี่เอก ถึงแม้เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นๆ วายุภัคจะพยายามทำตัวให้เหมาะสมกับตำแหน่งที่ได้รับ แต่พออยู่กันเพียงสองคนก็ดูราวกับว่านิสัยเยี่ยงองค์รานีที่เจ้าตัวทำมาตลอดกลับละลายหายไปเสียหมด
 
                วันนี้เขานัดหมายกับอวัศยาบุตรชายเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะไปหาหอยทากมาไว้ให้อวัศยาใช้ลงแข่งในฤดูกาลหน้าสักตัว แต่พอบุตรชายเหลือบไปเห็นพสุนธราก็บินออกไปหาทันที แล้วทิ้งเขาเอาไว้อยู่อย่างนั้น
 
                โอ๋ๆ งอนเจ้ายาเหรอเนี่ย ที่รักใครกันเนี่ยน่ารักจริงๆ เอางี้เดี๋ยวพี่ปลอบใจแทนส่วนของยาด้วยดีไหมครับ ไม่พูดเปล่า เอกภักดิ์ช้อนร่างเล็กไว้ในอ้อมแขนแล้วเดินตรงไปยังเตียงนอนที่อยู่กลางห้อง
 
                พี่เอกจะทำอะไร? หยุดเลยนะ! วาจะนอนแล้ววาง่วง เอกภักดิ์ส่ายหน้าช้าๆ แล้วคืบคลานเข้าไปหา
 
                พี่จะปลอบใจวาไงครับ หืมไม่ดีเหรอ?ยิ่งรู้ว่าวายุภัครู้สึกอย่างไรร่างสูงก็ยิ่งแกล้งมากขึ้นเท่านั้น จากคำพูดก็กลายเป็นการกลั่นแกล้งทางร่างกาย วายุภัคส่งเสียงครางด้วยความวาบหวามตามแรงอารมณ์ที่ร่างสูงเป็นคนชักนำไป ไม่ว่าจะกี่ครั้งเจ้าตัวก็ไม่เคยต้านทานร่างสูงได้เลยสักครั้ง
เลื่อมประภัสสร
เลื่อมประภัสสร
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 192
Join date : 01/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Fairy Tell - บทส่งท้าย Empty Re: Fairy Tell - บทส่งท้าย

ตั้งหัวข้อ by เลื่อมประภัสสร Sun May 18, 2014 12:54 am

                เสียงกดออดที่หน้าประตูบ้านดังอย่างต่อเนื่องและเป็นจังหวะราวกับจะเร่งให้คนที่อยู่ภายในออกมาเปิดเสียที ขาเรียววิ่งก้าวกระโดดขณะที่ปากก็ตะโกนร้องตอบไป มือที่เปียกน้ำสะบัดไปทั่ว
 
                ครับๆๆ มาเปิดแล้วครับ จะกดหาบิดาหรือไงว่ะกดจัง พี่เอก!! น้องวา!
 
                พ่อ พี่ยุ พี่เอกมาเยี่ยมแหนะ อติกันต์ตะโกนเรียกคนในบ้านก่อนจะวิ่งหน้าตั้งออกไปรับพี่ชาย แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นบุคคลแปลกหน้า
 
                ยากับดินสวัสดีคุณอากันต์สิครับ เด็กน้อยยกมือไหว้แล้วก้มหัวให้อย่างสวยงาม
 
                ใครอ่ะพี่เอก? อย่าบอกนะว่าลูก!!อติกันต์เอาแต่เบิกตากว้าง ขณะที่เอกภักดิ์ยกคิ้วให้น้องชายเล็กน้อยกับสิ่งที่เขาเก็บง่ำมาได้หลายปี เพราะอยากรอให้เจ้าตัวเล็กโตพอเสียก่อน จะได้พามาแนะนำให้รู้จักทีเดียว
 
                คนนี้ลูกชื่อยา ส่วนคนนี้แฟนลูก ฮ่าๆๆๆ หลานน่ะชื่อดิน เด็กน้อยไหว้อีกสองคนที่เดินเข้ามาหา ผู้เป็นพ่อกล่าวทักทายแล้วไล่ต้อนทุกคนเข้าไปในบ้าน
 
                อวัศยาเล่นไล่จับกับอติกันต์ไปทั่ว พอจับตัวได้มือเรียวก็จิ้มแก้มนิ่มๆ ของเด็กน้อยอย่างเบามือ แต่สักพักก็ก้มลงไปฟัดร่างด้วยความหมั่นเขี้ยวเต็มทน เล่นกันสักพักจนเหนื่อยอติกันต์ถึงยอมปล่อยอวัศยาให้เป็นอิสระ เจ้าตัวพุ่งไปหาพสุนธราที่นั่งนิ่งอยู่บนตักอชรายุแทบจะทันที แล้วลากออกไปใต้ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่หน้าบ้านด้วยกัน
 
                วายุภัคเดินตามไปดู พอเห็นว่าทั้งคู่คงไม่ได้รับอันตรายอะไรก็มานั่งรวมกับคนรักที่โซฟาตัวเขื่อง
 
                คิดถึงพ่อจังเลยครับไม่เจอตั้งนานแหนะ เอกภักดิ์กอดผู้เป็นพ่อเอาไว้แน่น
 
                นานเนินอะไร เรามาหาพ่อทุกเดือนเลยไม่ใช่เหรอ แต่ไม่เห็นพกลูกชายมาด้วย ไหงมาคราวนี้ลูกโตขนาดนี้ล่ะตาเอก ผู้เป็นพ่อพูดตามความรู้สึกของตนเองพลางเอ่ยเย้า
 
                ภูตจะลงมาโลกมนุษย์ได้เมื่ออายุ 36 ปีภูต หรือ 3 ปีตามการนับแบบโลกมนุษย์ครับคุณพ่อ วายุภัคเอ่ยตอบแทน ขณะที่คุณากรพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
 
                น่าอิจฉาจริงๆ เลย พี่เอกว่ากันต์เขี่ยพี่ยุทิ้งแล้วไปทำลูกน่ารักๆ บ้างดีไหมอ่ะ?อติกันต์โดนผู้เป็นพ่อตีเข้าให้เสียหลายทีโทษฐานพูดจาไม่เพราะ ก่อนจะโดนอชรายุรวบตัวเข้าไปชวนทำลูกด้วยกันคืนนี้ อติกันต์หน้าแดงเถือกพลางบิดตัวหนีเป็นการใหญ่
 
                แล้วนี่งานที่บริษัทเป็นไงมั่งกันต์?
 
                โห!!! เหนื่อยจนกันต์อยากจะแบ่งภาคอยู่แล้วเนี่ย ก็ยังดีที่พี่ยุคอยช่วย ไม่งั้นกันต์ต้องตายจริงๆ แน่พี่เอก ผู้เป็นพ่อส่ายหน้ากับความโอเวอร์เกินเหตุของลูกชายคนเล็กที่ทำท่านวดแขนตัวเองอยู่
 
                พี่กันต์ยังใส่สร้อยหินนี่อยู่อีกเหรอครับ?วายุภัคเอ่ยถามเมื่อเห็นก้อนหินสีดำถูกห้อยเอาไว้ที่คอเหมือนกับครั้งแรกที่เขาเห็นเมื่อคนรักกลับมาเยี่ยมบ้าน
 
                พี่เก็บไว้เป็นของดูต่างหน้าพี่เอกน่ะ แถมมันก็เอาไว้ส่องพวกภูตได้ด้วยไม่ใช่เหรอน้องวา เผื่อวันไหนว่างๆ พี่จะลองเอาไปส่องหาภูตใต้ต้นไม้ดูบ้างไง อติกันต์เอ่ยพลางทำสายตาวิบวับด้วยความสนุก คุยกันได้สักพักอติกันต์ก็ขอตัวไปทำอาหารที่ทำค้างเอาไว้ต่อให้เสร็จ เรียกเสียงแซวจากพี่ชายได้เสียยกใหญ่ คนโดนแซวก็เลยลากวายุภัคเข้าครัวไปด้วย โดยมีคุณากรตามไปดูอยู่ห่างๆ เพราะกลัวลูกชายคนเล็กจะทำครัวของตนเองระเบิดเข้าอีกรอบ
 
 
 
                ขอบใจนะยุที่ช่วยดูแลทั้งกันต์ คุณพ่อ แล้วก็บริษัท เอกภักดิ์หันมาพูดกับอชรายุที่กำลังจะเดินตามเข้าไปในครัว
 
                ไม่เป็นไรหรอก ฉันรักกันต์แล้วก็คุณพ่อจะตาย แล้วก็ถือว่าแลกกับห้องนอนแกด้วย แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ฉันจะได้ย้ายห้องเสียที อชรายุคนที่โดนพ่อตัวเองไล่ออกจากบ้านเอ่ยตอบ
 
                สาเหตุที่อชรายุโดนผู้เป็นพ่อไล่ออกมาจากบ้าน แถมด่าซะสาดเสียเทเสีย เพียงเพราะเขาพาอติกันต์ไปเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และขอคบอย่างจริงจัง ใช่ว่าพ่อของเขาจะไม่รู้เสียเมื่อไหร่ว่าเขาชอบอติกันต์มาตั้งนานแล้ว แต่ก็คงไม่คิดหรอกว่าเขาจะสมหวัง และพ่อคงไม่รู้จะจัดการกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ยังไงดีก็เลยทำเป็นโมโหไล่เขาไปก็เท่านั้น ที่ยิ่งกว่านั้นพ่อขอโทษอติกันต์เสียยกใหญ่ที่ถูกเขาล่อลวงและใช้วิธีสกปรกทำให้อติกันต์ยอมตกลง พ่อทำราวกับว่าเขาเป็นโจรป่าที่ไปฉุดคร่าอติกันต์มาเสียอย่างนั้น เขาที่ไม่มีที่ไป ซึ่งจริงๆ แล้วคงต้องบอกว่ามีแต่ไม่ไปก็ได้ทำการย้ายสำมะโนมาสิงห้องเอกภักดิ์เพื่อนรักเป็นการชั่วคราว และวางแผนจะไปสิงห้องอติกันต์เป็นการถาวรในเร็ววันนี้
 
                เออก็ขอให้สมหวังเร็วๆ แล้วกัน ไปเหอะรีบไปทำอาหารสักทีฉันหิวจะตายแล้วเนี่ย เอกภักดิ์เอ่ยปากไล่อดีตเชฟผู้ผันตัวมาช่วยอติกันต์ดูแลบริษัท
 
                รอสักครู่นะครับท่านเอกภักดิ์ กระผมจะรีบไปบัดเดี๋ยวนี้ ชายหนุ่มยืนมองอชรายุเดินเข้าไปหาอติกันต์อยู่ชั่วครู่ แล้วตั้งจิตอวยพรให้น้องชายทั้งสองคนของเขามีความสุข  เขาตัดสินใจที่จะไม่บอกอชรายุว่าตนเองเป็นพี่ชาย เพราะไม่เห็นว่าจะเกิดผลดีอันใดต่อผู้เป็นน้อง อชรายุที่ก่อกำเนิดเป็นไข่หลังจากเขา 12 ปีภูตไม่สามารถกลับคืนไปเป็นภูตได้อีกเพราะไม่มีดวงจิตภูตหลงเหลืออยู่ภายในหลังจากมาตุเรศนำไข่ของเจ้าตัวลงมายังโลกมนุษย์ด้วยตนเอง เพราะอยากให้อชรายุใช้ชีวิตอยู่กับเขาและเป็นเพื่อนของเขาบนโลกใบนี้ เขาไม่รู้เลยว่าถ้าอชรายุรู้เรื่องจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ และต่อให้กลับไปเป็นภูตได้จริงอชรายุเองก็คงไม่ต้องการเพราะที่โลกภูตนั้นไม่มีผู้ชายที่ชื่ออติกันต์อยู่
 
                เอกภักดิ์เหม่อมองเด็กชายสองคนที่กำลังไกวชิงช้าเล่นกันอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เขาไม่เห็นเส้นใยสีแดงที่เชื่อมโยงทั้งคู่เอาไว้ด้วยกันหรอก แต่สิ่งที่เขาเห็นกลับเป็นสายใยแห่งความรัก และความผูกพันที่จะผูกมัดทั้งคู่เข้าด้วยกัน เฉกเช่นอชรายุและอติกันต์ที่การใช้ชีวิตร่วมกันในแต่ละวันจะค่อยๆ เติมเต็มพวกเขาทั้งคู่ในที่สุด
 
                เอกภักดิ์ยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเสียงหัวเราะของอวัศยาลอยเข้ามาให้ได้ยิน แล้วเดินตามอชรายุเข้าไปในครัวบ้าง
 
 
 
                พี่ดินเล่นไหมเดี๋ยวยาแกว่งให้ เด็กตัวเล็กที่นั่งอยู่บนชิงช้าเอ่ยถามขึ้น
 
                ไม่ล่ะยาเล่นไปเถอะ เด็กตัวสูงที่ยืนไกวชิงช้าให้เอ่ยตอบเสียงเรียบ
 
                พี่ดินเล่นกับยาไม่สนุกเหรอ พี่ดินอยากเล่นอะไรบอกยาได้เลยนะ อวัศยาส่งเสียงอ่อยออกมาพลางพยายามเหลียวไปมองอีกฝ่าย
 
                ยามีความสุขพี่ก็พอใจแล้ว พสุนธรามักจะเป็นแบบนี้เสมอ ทำอะไรมักจะคิดถึงความรู้สึกคนอื่นก่อนเสมอ แต่กระนั้นกลับไม่สามารถแสดงความรู้สึกออกมาได้ดีเท่าที่ควร และที่สำคัญเจ้าตัวดูเหมือนจะไม่เคยนึกถึงความรู้สึกของตัวเองเลยสักครั้ง
 
                อวัศยาเบะปาก พสุนธราพูดแบบนี้อีกแล้ว เด็กน้อยอยากให้อีกฝ่ายแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมาอย่างที่ตนเองรู้สึกจริงๆ บ้าง ทุกๆ วันอวัศยาต้องพยายามทำสิ่งต่างๆ เพียงเพื่อให้พสุนธรายิ้มให้กับตนเองเพียงสักครั้ง
 
                มือเล็กๆ กำเชือกด้านข้างเอาไว้แน่น เอ่ยปากบอกคนด้านหลังว่าจะทำบางสิ่งให้ดู แล้วพยายามทรงตัวขึ้นยืนบนแผ่นไม้เล็กๆ ที่กำลังแกว่งไกว ผลที่เจ้าตัวเล็กได้รับก็คือกระเด็นลอยออกมาจากชิงช้าตามแรงเหวี่ยง พสุนธราที่ยืนอยู่หัวใจเต้นระรัวด้วยความกลัวรีบพุ่งเข้าไปรับร่างเล็กๆ นั่นเอาไว้ เจ้าตัวเล็กลุกขึ้นยืน แต่แล้วก็โดนคนที่โตกว่าดึงรั้งเอาไว้
 
                เดี๋ยวพี่ก็หายแล้ว อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่เลย อวัศยาทำหน้าบึ้งแล้วถอนหายใจออกมาเสียเสียงดัง
 
                ก็ได้ๆ งั้นยาจะดูแลพี่ดินเองแล้วกัน จำเอาไว้นะพี่ดิน ถ้าตราบใดที่พี่ดินยังไม่หายเจ็บ ยาจะไม่ห่างจากพี่ดินเลยแม้สักก้าว!อวัศยาเอ่ยด้วยสีหน้ามุ่งมั่น มือเล็กๆ คู่นั้นจับใบหน้าคนเจ็บเอาไว้แน่น แล้วประกบริมฝีปากนุ่มนิ่มลงไปอย่างรวดเร็ว
 

                ยามัดจำเอาไว้แล้ว เพราะฉะนั้นยาจะไม่หนี! ไม่เบี้ยว! พี่ดินเองก็ห้ามหนีห้ามเบี้ยว เข้าใจนะ!อวัศยาพูดอย่างวางมาด และรู้สึกราวกับตัวเองเติบโตเป็นผู้ใหญ่เพียงแค่ชั่วพริบตา เพราะได้ทำอะไรอย่างที่ผู้ใหญ่ เช่น บิตุรงค์และมาตุเรศชอบทำกัน ขณะที่พสุนธราได้แต่นั่งจับปากตนเองอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งวายุภัคและเอกภักดิ์ออกมาตาม ส่วนเจ้าตัวเล็กก็นั่งพิงหลังคนเจ็บหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบได้ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นมือเล็กๆ ก็กอบกุมมือของพสุนธราเอาไว้อย่างเบามือตลอดเวลา








 sunny ช่วงเลื่อมจอมพล่าม


ไม่คิดว่าจะแต่งจนจบได้ แต่ก็จบแล้วค่ะ ตอนแรกไม่คิดว่าจะถึง 80 หน้าเลยค่ะ กะว่ามันจะสั้นกว่านี้ เวิ่นไปซะเยอะ 


ขอบคุณทุกคนมากๆ จริงๆ ค่ะ ทั้งคนที่เผลอกดเข้ามา คนที่อ่านแม้จะแค่บทนำหรือใดๆ ก็ตามแต่ โดยเฉพาะคนที่เม้นท์ให้เลื่อมมาตลอด เป็นแรงผลักดันในการเขียนให้จบได้ในที่สุด ขอบคุณจากใจจริง ^O^ เลื่อมรักทุกคน (โบกมือแบบนางงามแต่เสียงแบบพี่เบิร์ด)


ปกติจะไม่ค่อยพอใจงานตัวเอง แต่งๆ ลบๆ อ่านใหม่ก็ลบไปลบมา งานก็เลยไม่ค่อยจะคืบหน้า คราวนี้ก็พยายามจะไม่อะไรกับตัวเองมาก แต่ก็ยังแก้ๆ ลบๆ ไปหลายรอบเหมือนกันค่ะ ไม่ได้แต่งเรื่องมานานมาก แล้วก็เป็นแนวแฟนตาซีเรื่องแรกในชีวิตเลยค่ะ ก็เลยทำให้บางอย่างที่ตั้งใจจะแต่งแต่แต่งไปแต่งมากลับออกมาเป็นอีกแบบก็มีค่ะ


ใครอ่านแล้วรู้สึกยังไงก็ติชมงานได้เต็มที่เลยค่ะ สุดท้ายเลื่อมก็แอบหวังว่าคนอ่านจะมีความสุขไปกับเรื่องนี้บ้างสักชั่วขณะหนึ่ง ขอให้ทุกๆ คนเชื่อมั่นในความฝันของตัวเองและลงมือทำ หรืออย่างน้อยๆ ที่สุดก็ขอให้มีความสุขกับสิ่งที่ทำ แล้วภูตตัวน้อยๆ จะอวยพรให้ทุกคนประสบความสำเร็จในวันหนึ่งค่ะ  


แก้ไขล่าสุดโดย เลื่อมประภัสสร เมื่อ Sun May 18, 2014 7:44 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง
เลื่อมประภัสสร
เลื่อมประภัสสร
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 192
Join date : 01/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Fairy Tell - บทส่งท้าย Empty Re: Fairy Tell - บทส่งท้าย

ตั้งหัวข้อ by หมึกจีน Sun May 18, 2014 1:03 am

กรี๊ดดด แต่งจบแล้วหรือคะ ไวมากก ๆ แปะโป้งไว้ก่อนนะคะ เดี๋ยวจะแวะมาอ่านรวดเดียวเลยนะคะ!

เราก็ได้ครึ่งทางละ
หมึกจีน
หมึกจีน
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 81
Join date : 01/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Fairy Tell - บทส่งท้าย Empty Re: Fairy Tell - บทส่งท้าย

ตั้งหัวข้อ by ppm Sun May 18, 2014 9:28 pm

มาแสดงความยินดีกับนักเขียนท่านแรกที่เขียนได้จบ ปั่นได้เทพมากจริง ๆ

ระหว่างนี้สามารถลงพวกตอนพิเศษและอื่น ๆ ได้เรื่อย ๆ ตามสะดวกเน้อ ว่าง ๆ จัดหน้าทำปกไว้เลย มีรางวัลคือรวมเล่มให้ฟรี 1 เล่มจ้า ^^
ppm
ppm
Admin

จำนวนข้อความ : 47
Join date : 13/04/2013

ขึ้นไปข้างบน Go down

Fairy Tell - บทส่งท้าย Empty Re: Fairy Tell - บทส่งท้าย

ตั้งหัวข้อ by น้ำไหล Mon May 19, 2014 5:50 pm

อืม........ ที่พี่ยุหน้าคล้ายพี่เอกเพราะเป็นพี่น้องกันจริงๆ ด้วย................
ลูกๆ น่ารักกันจัง -//////////-
ปล.ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ ค่ะ สนุกมากเลย
น้ำไหล
น้ำไหล
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 172
Join date : 01/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Fairy Tell - บทส่งท้าย Empty Re: Fairy Tell - บทส่งท้าย

ตั้งหัวข้อ by หงส์ดิน Mon May 19, 2014 8:08 pm

ลูกน่ารักอ้ะ อยากได้ >< แต่งจบไวมากเลยค่ะ ของเค้ายังไปไม่ถึงไหนเลย..55555
หงส์ดิน
หงส์ดิน
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 32
Join date : 07/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Fairy Tell - บทส่งท้าย Empty Re: Fairy Tell - บทส่งท้าย

ตั้งหัวข้อ by Sier Mon Jun 02, 2014 4:34 pm

เป็นตอนจบที่ Happy มากๆๆๆๆ เลยคะ >_< ชอบ~

แอบคิดเล่นๆ ถ้ายุรู้ว่าเป็นภูติจะมีลูกกับกันต์ได้หรือเปล่าน้อ~

เมื่อกี้รีบกดไปหน่อย ^^"
รีเควสค้าา อยากอ่านคู่หมอกับนกสีฟ้าอะ (จำชื่อมิได้ต้องขออภัย)


แก้ไขล่าสุดโดย Sier เมื่อ Mon Jun 02, 2014 4:36 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง (Reason for editing : adding request)

Sier
นักอ่าน

จำนวนข้อความ : 107
Join date : 11/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Fairy Tell - บทส่งท้าย Empty Re: Fairy Tell - บทส่งท้าย

ตั้งหัวข้อ by หมึกจีน Mon Jun 09, 2014 6:23 pm

โอ้ ตอนแรกเค้านึกว่าพี่เอกจะกลับมาไม่ได้อีกเลย ที่ไหนได้ พี่แกเล่นแวะมาเยี่ยมทุกเดือน ทำเอาคุณพ่อ คุณน้องชิลล์ ๆ มาก ประหนึ่งแต่งเมียออกเรือนไปอยู่กันเอง ราว ๆ นั้น แถมหอบลูกหอบหลานมาเยี่ยมอีก หุ ๆ

ว่าแต่อาจารย์นี่เห็นเขียนอ่อยทิ้งท้ายไว้ สรุปจะได้ภรรยายหรือไม่ก็สามีเป็นนกสินะๆๆๆ 555

ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ ถึงบางช่วยจะรวบรัดตัดความไปสักนิด แต่โดยรวมแล้วก็ออกมาแฮปปี้ลงตัวพอดีล่ะนะคะ ^^
หมึกจีน
หมึกจีน
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 81
Join date : 01/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ