กิจกรรมสร้างงานให้เป็นเล่ม
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search

Latest topics
» Who’s the KING? } 16 [END]
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:30 pm

» Who’s The KING? } 15 - Special part form Pramuk.
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:25 pm

» Who’s the KING? } 15
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:23 pm

» Who’s the KING? } 14
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:09 pm

» Who’s the KING? } 13
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:01 pm

» Who’s the KING? } 12
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 6:50 pm

» Who’s the KING? } 11
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 6:40 pm

» Who’s the KING? } 10
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 5:59 pm

» Who’s the KING? } 9
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:39 pm

» Who’s the KING? } 8
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:31 pm

» Who’s the KING? } 7
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:19 pm

» Who’s the KING? } 6
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 1:49 pm

» Who’s the KING? } 5
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:57 am

» Who’s the KING? } 4
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:43 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #2 (จบ)
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:26 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #1
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:13 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /14 (จบ)
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:03 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /13
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:54 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /12
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:43 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /11
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:33 am


Fairy Tell - บทที่ 6

5 posters

Go down

Fairy Tell - บทที่ 6 Empty Fairy Tell - บทที่ 6

ตั้งหัวข้อ by เลื่อมประภัสสร Wed Apr 23, 2014 4:15 pm

บทที่ 6
 
                ถึงแม้จะเคยเป็นนักว่ายน้ำมาก่อนแต่สิ่งที่เอกภักดิ์เจอมาเมื่อครู่มันกลับทำให้สติที่มีเลือนหายไปหมด นักปราชญ์ผิดพลั้งได้ฉันใด คนที่ทำอะไรโดยขาดสติก็สามารถทำให้ชีวิตตกอยู่ในอันตรายได้ฉันนั้น
 
                ขณะที่ทุกอย่างกำลังจมลงสู่ความมืดมิด เอกภักดิ์กลับรู้สึกว่ามีคนเรียกชื่อของเขาอยู่ มื้อเย็นๆ เอื้อมมาจับใบหน้าของเขาเอาไว้แล้วดึงลงไปหา ความรู้สึกนิ่มหยุ่นบริเวณริมฝีปากพร้อมอากาศที่ถูกเป่าเข้ามาเรียกสติที่เลือนรางของเขาให้กลับมาได้บางส่วน มือข้างขวากดสิ่งนั้นเข้าหาตัวเอง ดูดกลืนอากาศและสิ่งที่อยู่ตรงหน้าราวกับโหยหามาเนิ่นนาน จนกระทั่งโดนหยิกเข้าที่สีข้างเท่านั้นแหละ สติของเขาถึงได้กลับมาอย่างสมบูรณ์
 
                ในที่สุดเอกภักดิ์ก็ลืมตาขึ้นมองสิ่งที่อยู่รอบตัว เขาใช้สายตาสื่อความหมายให้คนที่แบ่งปันอากาศให้เมื่อครู่อยู่นิ่งๆ และเหมือนว่าฝ่ายตรงข้ามจะสามารถรับรู้ได้ วายุภัคยกยิ้มให้แล้วผงกหัวเล็กน้อย
 
                หลังจากอยู่นิ่งๆ ได้สักพักร่างของทั้งคู่ก็ค่อยๆ ลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ เอกภักดิ์เอนตัวลงในแนวราบ แล้วพลิกตัวคนที่ตัวเล็กกว่าไว้ด้านบน ในที่สุดทั้งคู่ก็ลอยอยู่ในระดับเดียวกับผิวน้ำ แต่ถึงอย่างไรก็ตามน้ำหนักที่กดทับลงมาก็ทำให้เอกภักดิ์จมอยู่ใต้น้ำได้อย่างไม่ยาก
 
                วายุภัคเงยหน้าขึ้นมาสูดลมหายใจจนแก้มพองแล้วก้มหน้าลงไปหาคนในน้ำที่รองรับร่างของเขาอยู่ มือเล็กเรียวดึงใบหน้านั้นเข้ามาใกล้ ประกบริมฝีปากลงไปจนแน่ใจว่าแนบสนิทดีแล้วก็ปล่อยให้อากาศผ่านเข้าไป แต่แล้วก็มีสิ่งแปลกปลอมเล็ดลอดเข้ามาในปาก มันชกชิงทุกอย่างที่มันพบเจอในโพรงปากนิ่มนั้น จนคนตัวเล็กกว่าต้องเอื้อมมือไปหยิกที่สีข้างอีกด้าน แต่ก็ได้รับเสียงหัวเราะในลำคอของคนด้านล่างกลับมาเท่านั้น
 
                เอกภักดิ์รู้ว่าถ้าอยากได้อากาศจริงๆ เขาก็แค่ออกแรงสักหน่อยยกศีรษะให้พ้นน้ำเพียงเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นว่ามีคนคอยป้อนอากาศให้แบบนี้เขาก็เลือกที่จะนอนรออยู่นิ่งๆ ใต้น้ำเสียมากกว่า ถึงแม้จะน่าเสียดายที่เขาไม่ได้เห็นคนด้านบนหน้าขึ้นสีแบบชัดๆ ก็ตาม
 
                ไม่นานพนักงานที่อยู่บนแพก็เข้ามาใกล้ เอกภักดิ์ส่งเสียงครางในลำคอออกอย่างไม่ปิดบังด้วยความไม่พอใจ แถมยังพยายามว่ายน้ำหนีเสียอีก แต่เพราะข้อเท้าที่โดนรัดเอาไว้เขาจึงไปได้ไม่ไกลนัก ไม่นานก็ถูกลากขึ้นมาบนแพเหมือนลูกแมวตกน้ำ
 
 
 
 
                เจ้าของบันจี้จัมพ์ออกมากล่าวขอโทษขอโพยด้วยตนเองเป็นการใหญ่ที่ทำให้ลูกค้าต้องได้รับอันตราย ผู้คุมบันจี้จัมพ์ยืนก้มหน้านิ่งด้วยความรู้สึกผิด ถึงแม้ว่าเขาจะมั่นใจว่าเขาเช็คความเรียบร้อยแล้วก็ตาม และเหตุการณ์นี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่เขาคุมบันจี้จัมพ์แห่งนี้มาเกือบสิบปี
 
                เอกภักดิ์ไม่ได้ติดใจเอาความอะไรมากมาย ต่างจากอติกันต์ผู้เป็นน้องชายที่ยืนตะโกนด้วยความโมโหจนอชรายุต้องเข้าไปห้าม ค่ำนั้นพวกเขาเลยได้คำขอโทษจากเจ้าของบันจี้จัมพ์เป็นอาหารทะเลมื้อใหญ่
 
                หลังทานอาหารกันจนเกลี้ยงเพราะได้พนักงานเก็บกวาดมือดีอย่างอติกันต์ก็ถึงเวลาแยกย้ายกันเข้าห้องเพื่อพักผ่อนเสียที
 
                อติกันต์โวยวายขึ้นมาอีกรอบเมื่อรู้ว่าคืนนี้ต้องนอนกับคนที่คุกคามสวัสดิภาพตัวเองมากที่สุดอย่างอชรายุอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากพี่ชายของเขาจองห้องของตัวเองแยกกับเขาไว้ไกลสุดกู่ แถมจัดของตัวเองเข้าห้องเสียเรียบร้อยแล้วอีกต่างหาก คนที่ไม่มีทางเลือกได้แต่เดินตามอชรายุไปเมื่อถูกขู่ว่าจะอุ้มกลับห้อง
 
                เอกภักดิ์แวะซื้อขนมอีกเล็กน้อยเผื่อคนที่ไม่ค่อยได้ทานอะไรจะหิวขึ้นมากลางดึก
 
                ท้องฟ้าค่ำคืนนี้ไร้ซึ่งแสงสว่างจากดวงจันทร์ แต่กลับเต็มไปด้วยหมู่ดาวน้อยใหญ่ที่แข่งกันเปล่งรัศมีอวดกายอยู่บนผืนฟ้ากำมะหยี่สีดำสนิท บทเพลงแหว่วหวานถูกขับกล่อมออกมาจากริมฝีปากเล็กๆ น้ำเสียงใสกังวาลแทบจะสะกดให้คนฟังตกอยู่ในห้วงภวังค์ เอกภักดิ์กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ปิดเปลือกตาลงเพื่อซึมซับบทเพลงที่มักจะได้ยินในคืนที่เขาฝันร้ายจนต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา




 
                Somewhere over the rainbow, way up high
                There's a land that I've heard of once in a lullaby
                บางแห่งเหนือสายรุ้งขึ้นไป สูงขึ้นไปบนนั้น
                มีดินแดนที่ฉันเคยได้ยินในเพลงกล่อมนอนอยู่
 
                Somewhere over the rainbow, skies are blue
                And the dreams that you dare to dreams really do come true
                บางแห่งเหนือสายรุ้งขึ้นไปที่นั่นท้องฟ้าเป็นสีคราม
                และความฝันที่เธอใฝ่ฝันจะเป็นจริงขึ้นมา
 
                Someday I'll wish upon a star
                And wake up where the clouds are far behind me
                บางวันฉันเฝ้าอธิษฐานต่อดวงดาว
                ให้ตื่นขึ้นมาในดินแดนที่อยู่สูงเหนือเมฆขึ้นไป
 
                Where troubles melts like lemon drops
                Away above the chimney tops
                That's where you'll find me
                ดินแดนที่ซึ่งปัญหาละลายหายไปราวกับหยดน้ำมะนาว
                เลยจากปล่องไฟขึ้นไป ที่นั่นเธอจะได้พบกับฉัน
 
                Somewhere over the rainbow, blue birds fly
                Birds fly over the rainbow
                Why, then, why can't I?
                บางแห่งเหนือสายรุ้งขึ้นไปที่นั่นมีเหล่านกสีฟ้าโบยบินอยู่
                เหล่านกบินข้ามสายรุ้งนั้นไป
                แล้วทำไมฉันถึงไม่สามารถข้ามไปได้
 
                If happy little blue birds fly beyond the rainbow
                Why oh why, can't I?
                ในเมื่อเหล่านกสีฟ้าตัวน้อยโบยบินอย่างมีความสุขเหนือสายรุ้งนั่น
                แต่ทำไมฉันถึงไม่สามารถทำเช่นนั้นได้เล่า
 
 
                คืนนั้นเอกภักดิ์ฝันเห็นทุ่งดอกไม้กว้างไกลสุดสายตา เหล่าภูตน้อยใหญ่กำลังบินอยู่เหนือฟากฟ้าสีคราม วายุภัคบินเข้ามาหาจับมือเขาเอาไว้ แล้วเอ่ยปากชวนให้โบยบินไปด้วยกัน
 
                นับจากคืนนั้นเป็นต้นมาเอกภักดิ์ก็ไม่เคยฝันร้ายในเรื่องเดิมๆ อีก และดูเหมือนว่าโรคกลัวความสูงของเขาก็ลดลงไปด้วย
 
 
 
 
                เมื่อแสงแรกแห่งอรุณรุ่งมาเยือน วายุภัคก็ลืมตาขึ้น และทำเพียงแค่นอนจ้องมองคนที่ยังคงอยู่ในห้วงนิทรา ไม่กล้าขยับตัวไปไหนเพราะกลัวคนที่กอดตัวเองเอาไว้จะตื่นขึ้นมา เขารู้ว่าเมื่อวานคนตรงหน้าต้องเจอเรื่องหนักหนามาแค่ไหน
 
                หยดน้ำตาที่ไหลออกมาจากคนที่ไม่เคยร้องไห้ให้เขาเห็นมาก่อนเรียกความรู้สึกผิดขึ้นมาจากเบื้องลึกของหัวใจ เพราะเขามีปีกเขาจึงไม่กลัวความสูง แต่คนตรงหน้าไม่ใช่ เอกภักดิ์ไม่มีปีก และไม่สามารถบินได้เฉกเช่นเขา เมื่อรู้ทั้งรู้ว่าคนตรงหน้ากลัวเขาก็ยังดึงดัน
 
                ตื่นแล้วเหรอครับ?เอกภักดิ์สบสายตาเข้ากับคนที่นอนนิ่งอยู่ในอ้อมกอด กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นเมื่อเห็นหยดน้ำใสๆ ที่เอ่อล้นออกมา
 
                ใครทำอะไรวาครับ หืม ฝันร้ายเหรอ คนในอ้อมกอดสายหัวช้าๆ ไม่ตอบรับอะไร ตรงกันข้ามวายุภัคนอนหลับอย่างสบายและไม่ได้ฝันร้ายอย่างหลายๆ คืนที่ผ่านมา
 
                เมื่อเห็นคนตรงหน้าไม่ตอบรับอะไร เอกภักดิ์ก็ลุกขึ้น เอื้อมมือออกไปตรงหน้า
 
                วายุภัคจับมือคู่นั้นเอาไว้อย่างมั่นคงแล้วดึงตัวเองขึ้นจากเตียงนอน แล้วก็ขมวดคิ้วเมื่อเอกภักดิ์บอกให้ขึ้นไปยืนอยู่บนเท้าของเจ้าตัว แต่วายุภัคก็ทำตามแต่โดยดี
 
                แขนแกร่งโอบคนตรงหน้าเอาไว้หลวมๆ แล้วออกก้าวเดินอย่างช้าๆ ไปยังห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลนัก เรียกเสียงหัวเราะคิกคักจากวายุภัคได้เป็นอย่างดี
 
 
                เอกภักดิ์จับมือวายุภัคเดินเล่นไปรอบชายหาด นานๆ ทีวายุภัคก็วิ่งเข้าไปหาเจ้าปูที่เดินอยู่จนมันตกใจแล้ววิ่งหนีไป จวบจนกระทั่งดวงอาทิตย์เริ่มแผดแสงร้อนแรงมากขึ้นเอกภักดิ์จึงเอ่ยปากชวนคนข้างตัวกลับไปยังที่พัก
 
                นั่งรออาหารเสิร์ฟได้ไม่นานนักชายหนุ่มอีกสองคนก็ตามลงมาสมทบ อติกันต์อ้าปากหาวเสียจนกว้างอย่างไม่เกรงใจสายตาชาวบ้านจนอชรายุต้องยกมือขึ้นมาป้องปากให้แทน
 
                นั่งคุยกันไปได้สักพักอาหารเรียงรายอยู่บนโต๊ะตัวยาว กลิ่นหอมๆ โชยออกมาเรียกน้ำลายได้เป็นอย่างดี ทั้งสี่คนจึงลุกขึ้นไปตักอาหารใส่จานของตัวเองเสียจนพูน โดยมีเอกภักดิ์คอยเดินตามวายุภัคอยู่ไม่ห่าง เพื่อคอยบอกอาหารชนิดไหนบ้างที่คนตัวเล็กจะสามารถทานได้
 
                จานอาหารวางอยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว เหลือก็แค่เครื่องดื่มที่เอกภักดิ์กับอชรายุไปเอามาเท่านั้น
 
                อติกันต์เขี่ยผักที่ตัวเองไม่ชอบเอาไปไว้ข้างจาน อชรายุอ้าปากหมายจะดุ แต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาเสียก่อน เขาลุกออกจากโต๊ะไปรับโทรศัพท์เพราะไม่อยากรบกวนบรรยากาศการทานอาหาร
 
                ไอ้เอกขอโทษนะ แต่ฉันต้องกลับแล้ว ฝากดูแลอติกันต์ด้วย น้องวาพี่ไปก่อนนะครับ เสียงหัวเราะบนโต๊ะเงียบลงทันทีเมื่อเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของคนพูด
 
                พี่ยุจะไปไหน?อติกันต์ลุกขึ้นแล้วรั้งมือคนที่กำลังจะเดินออกไป
 
                แม่พี่โดนรถชน
เลื่อมประภัสสร
เลื่อมประภัสสร
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 192
Join date : 01/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Fairy Tell - บทที่ 6 Empty Re: Fairy Tell - บทที่ 6

ตั้งหัวข้อ by มอคราม Wed Apr 23, 2014 4:51 pm

โอ๊ยยยยย เกิดเรื่องอะไรนักหนาฟะ -*-
มอคราม
มอคราม
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 141
Join date : 01/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Fairy Tell - บทที่ 6 Empty Re: Fairy Tell - บทที่ 6

ตั้งหัวข้อ by น้ำไหล Wed Apr 23, 2014 5:12 pm

พี่เอกเริ่มออกลาย ฟฟฟฟฟฟ
ขอให้คุณแม่ไม่เป็นอะไรมากนะคะพี่ยุ
น้ำไหล
น้ำไหล
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 172
Join date : 01/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Fairy Tell - บทที่ 6 Empty Re: Fairy Tell - บทที่ 6

ตั้งหัวข้อ by 13cotton13 Thu May 01, 2014 1:29 pm

กำลังไปได้ดีมีอะไรมาขัดตลอดเลยยยยยย
13cotton13
13cotton13
นักอ่าน

จำนวนข้อความ : 129
Join date : 03/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Fairy Tell - บทที่ 6 Empty Re: Fairy Tell - บทที่ 6

ตั้งหัวข้อ by Sier Mon Jun 02, 2014 2:12 pm

เป็นตอนที่น่ารักมุ้งมิ้งดีจังเลย
อ่านแล้วมีความสุข~
(ไม่รวมตอนจบที่ว่าแม่พี่ยุโดนรถชนนะ!)

Sier
นักอ่าน

จำนวนข้อความ : 107
Join date : 11/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ