ค้นหา
Latest topics
» Who’s the KING? } 16 [END]by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:30 pm
» Who’s The KING? } 15 - Special part form Pramuk.
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:25 pm
» Who’s the KING? } 15
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:23 pm
» Who’s the KING? } 14
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:09 pm
» Who’s the KING? } 13
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:01 pm
» Who’s the KING? } 12
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 6:50 pm
» Who’s the KING? } 11
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 6:40 pm
» Who’s the KING? } 10
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 5:59 pm
» Who’s the KING? } 9
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:39 pm
» Who’s the KING? } 8
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:31 pm
» Who’s the KING? } 7
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:19 pm
» Who’s the KING? } 6
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 1:49 pm
» Who’s the KING? } 5
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:57 am
» Who’s the KING? } 4
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:43 am
» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #2 (จบ)
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:26 am
» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #1
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:13 am
» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /14 (จบ)
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:03 am
» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /13
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:54 am
» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /12
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:43 am
» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /11
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:33 am
อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่9
+4
เลื่อมประภัสสร
tookta
น้ำไหล
มอคราม
8 posters
หน้า 1 จาก 1
อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่9
ผมเดินเข้าไปในบ้านเจอแม่ที่กำลังยืนชี้หน้าด่าคนใช้ที่กำลังเก็บบางอย่างตรงพื้น
“เก็บไปให้หมดเลยนะ มึงกล้าดียังไงมาทำแก้วน้ำกูหล่น จงใจชนใช่ไหม”
“ปะ…เปล่านะคะ คุณ…คุณ หญิงน้อย”
“แหม… คำที่มึงเรียกกูไม่พ้นเมียน้อยเลยนะ”
“กะ..กาด ไม่ได้ตั้งใจนะคะ” เธอรีบขอโทษมือก็เต็มไปด้วยเลือดเพราะถูกเศษแก้วบาด
“กาด ไม่ได้ตั้งใจงั้นเหรอ” ปรางพูดล้อเลียนกัดจิกคำพูดแล้วเงื้อมมือจะตบ
“แม่!”
“มึงมาก็ดีแล้ว มาช่วยกูสั่งสอนอีนี่หน่อยซิ”
ผมถอนหายใจยาว ก่อนจะก้มลงเก็บเศษแก้วที่แตก
“ทำอะไรของมึงไอ้ปิง”
“พี่กาดไปเถอะเดี๋ยวผมเก็บเอง”
“อะ..อืม” พี่กาดทำตามที่บอกแล้วรีบเดินหนีไปทันที
“มึงทำไรไอ้ปิง อีนั่นมันเป็นขี้ข้าให้มันทำก็ถูกแล้ว”
“แม่….. เขาก็คนเหมือนกัน เรียกเขาว่าขี้ข้าได้อย่างไรและอีกอย่างถึงพี่เขาจะคนเป็นใช้แม่ก็ไม่ควรที่จะกดขี่เขา”
เพี๊ยะ!
ใบหน้าผมหันไปตามแรง
“มึงสั่งสอนกูมาหลายรอบแล้วนะที่ยืนหัวโด่เนี่ยแม่ของมึงไม่ใช่ลูก หน็อย….มาสั่งสอนกู ฮึ๊ย! มีลูกก็ไม่ได้ใจ” แม่ฮึดฮัดเดินเข้าไปในบ้าน
ผมจับหน้าตัวเองที่ร้อนผ่าว.......
หลังจากที่ผมเก็บเศษแก้วเสร็จก็ขึ้นมาบนห้อง จะเรียกว่าห้องตัวเองก็กระดากปาก
มองโทรศัพท์ในมือที่เมมเบอร์พี่ดินไว้
ถ้ามีปัญหาโทรหาพี่เดี๋ยวจะรีบมา
“จะรีบมาจริงหรือเปล่า” ผมนอนมองชื่อ ก่อนจะลุกไปอาบน้ำ แล้วลงมาข้างล่างเพื่อมาทานข้าวตามที่พี่เพ็ญบอก
“อ้าวมาท้านข้าวสิปิง” คุณดำรงเอ่ย
ผมค่อยๆทรุดนั่งข้างแม่ แม่เหลือบมองผมแล้วเบะปากก่อนจะหันไปตักอาหารให้คุณดำรง
“เยอะไปแล้วปราง”
“คุณดำรงเหนื่อยนี่คะ ต้องบำรุงเดี๋ยวคืนนี้จะไม่ไหวเหมือนเมื่อคืน” คำพูดของแม่ทำให้ ผมและคุณวิภาต่างหยุดชะงักเช่นเดียวกับคนรับใช้อื่นๆที่ต่างก็ทำสีหน้าไม่ถูก
ช้อนถูกวางลง คุณวิภาดื่มน้ำบ่งบอกว่าอิ่ม
“อิ่มแล้วเหรอวิภา”
“ค่ะ อิ่มแล้ว ....เอี้ยงพาฉันไปห้องที”
“คุณพี่ทานอีกหน่อยสิคะ ทานนิดเดียวเดี๋ยวไม่แข็งแรงนะคะ”
“นั่นสิวิภา ทานอีกนิดเถอะ ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ”
คุณดำรงส่ายหัวอ่อนใจนัก สายตาเหลือบมองมาทางผมพอดี
“ปิงหน้าเธอไปโดนอะไรมาน่ะ”
“อะ…เอ่อ” ผมจับหน้า
ยังมีรอยอีกงั้นเหรอ
“แหมๆแกคงไปซุ่มซ่ามชนโน่นชนนี่เเหละค่ะ”
“คะ…ครับ ”
“งั้นเหรอ ระวังตัวหน่อยก็ดีนะ”
“แล้ววันนี้คดีเป็นอย่างไรบ้างคะหนักไหม”
“หนักเอาการเลย เดี๋ยวฉันเล่าให้ฟังนะ ทานข้าวกันก่อนเถอะ”
“ได้ค่ะ” แม่ยิ้ม เเต่สายตามองมาทางผมประมาณว่าอย่าพูดมาก
ผมดื่มน้ำแล้วขอตัวออกไปเดินเล่นในสวน
สวนนี้หากมองไปด้านบนจะเจอหน้าต่างห้องของผม เป็นแค่สวนเล็กๆเมื่อเทียบกับสวนขนาดใหญ่ของบ้านที่มีเนื้อที่ตั้งแต่รั้วบ้านถึงตัวบ้าน กลิ่มหอมของดอกลีลาวดียามเย็นทำให้จิตใจสดชื่นขึ้น ผมหยิบดอกของมันที่ร่วงแล้วแตะจมูกรับกลิ่นเบาๆ
เสียงรถยนต์แว่วมา….รถมินิคูเปอร์สีขาวดำเคลื่อนตัวเเล้วหยุดลง ปรากฏร่างหญิงสาวในชุดกระโปรงสีขาวคุมเข่า ใบหน้าสวยหวานจนผมใจเต้นแต่ถ้าสังเกตุดีๆ ผู้หญิงคนนี้คือคนที่อยู่กับไอ้หมาบ้าในร้านหนังสือ
..........นานาเดินมาในบ้าน ป้ายุที่เดินมาพอดีทักขึ้น
“อ้าวคุณนานา”
“ป้ายุ สวัสดีค่ะ”
ป้ายุรับไหว้แล้วยิ้มรับ “มาหาคุณดอจหรอคะ”
“ค่ะ”
“คุณดอจยังไม่กลับเลยค่ะ คุณนานานั่งรอก่อนนะคะเดี๋ยวป้าให้เด็กเอาน้ำมาให้ค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ” นานานั่งลงโซฟา มองโทรศัพท์ในมือแล้วกดโทรหาแฟนหนุ่มที่ตอนนี้ยังไม่กลับบ้านเเต่ไม่ทันไรน้ำเปล่าก็มาเสริ์ฟ
“น้ำค่ะคุณนานา”
“ขอบคุณพี่แก้วมากนะคะ”
“ค่ะ” แก้วยิ้มแล้วเดินเข้าในครัว
............
...........................
“เอาหน้านะมึงอีแก้ว ”
“ทำไมกูล่ะอีกาด หาโอกาสประจบไม่ได้เหมือนกูล่ะสิ”
“กูไม่เอาหน้าเหมือนมึงหรอก ”
“แต่เกือบเอาหน้าไปให้คุณหญิงน้อยตบหรอวะ”
กาดเม้มปากแน่น ถ้าเมื่อกี้คนที่ถูกตบไม่ใช่ปิงมีหวังเธอคงโดนตบเเน่ดีไม่ดีอาจโดนเศษแก้วตบหน้ามาด้วยก็ได้ ยิ่งคิดก็รู้สึกกลัวปนโมโห
.................
...............................
ร่างบางขมวดคิ้วเพราะโทรไปหลายครั้งแต่ปลายสายก็ไม่ยอมรับ
“คนอุตส่าห์มาปรึกษาเสียนี่แต่กลับไม่อยู่ เราน่าจะนึกออกตั้งเเต่เมื่อวานจะได้ปรึกษาเลย เฮ้อ.... ”
ผมเดินเข้าไปในบ้านพลันสายตาประสานกับสาวสวยที่นั่งอยู่บนโซฟาพอดีเธอมองผมไม่วางสายตา ตกใจอย่างโจ่งแจ้งก่อนจะเอ่ยคำพูด
“คุณคือคนที่อยู่ในร้านหนังสือใช่ไหมคะ”
“อะ…เอ่อครับ”
“คุณ…..อยู่ที่นี่เหรอคะ”
“เอ่อ ผมชื่อปิงครับ ผมพึ่งมาอยู่ที่นี่เมื่อวานนี้”
“เอ๋ อยู่เมื่อวาน? ”
เธอยิ่งเพิ่มความสงสัยไปอีกผมจะอธิบายยังไงดีว่าผมน่ะ เป็นลูกของภรรยาอีกคนของคุณดำรง
“ฉันชื่อนานา ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะ” จู่ๆเธอก็เปลี่ยนบทคุยแล้วยิ้มหวานให้แทน ผู้ชายร้อยทั้งร้อยถ้าเห็นรอยยิ้มนี่ต้องละลายแน่นอน
“เช่นกันครับ”
“พอดีฉันมาหาดอจน่ะแต่ยังไม่มาเลย”
“อ่าครับ”
“ฉันพอจะปรึกษาปิงได้ไหม”
“ครับ? ”
“มานั่งตรงนี้เถอะ”
“เอ่อ”
“มาเถอะ ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”
ผมเดินไปหาแล้วทรุดนั่งโซฟาตรงข้าม
“เรื่องที่ปรึกษาคือ อีกไม่กี่วันทางโรงเรียนฉันกับโรงเรียนดอจจะจัดสัมพันธ์เข้าค่ายวิทย์น่ะ แต่ฉันไม่รู้จะเตรียมตัวยังไงดีเพราะจะมีการสัมมนาแลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างโรงเรียน และฉันเป็นตัวแทนชมรมเคมีด้วย แต่ว่าฉันก็ไม่ค่อยมั่นใจและค่อนข้างกลัวรอบข้าง”
ผมนั่งทบทวนคำพูด
“เอ่อ เข้าใจที่ฉันพูดไหม ...ตอนเเรกก็ปรึกษาเพื่อนน่ะนะเเต่ทุกคนก็บอกว่าไม่รู้”
“เข้าค่ายวิทย์เหรอครับ”
“ค่ะ”
ผมตงิดๆ จำคำพูดของพี่วิทย์ที่บอกจะจัดเข้าค่ายแต่ว่า…..
มันก็แค่ข้ออ้างไปเที่ยวเท่านั้นแหละ ….ไม่ใช่เหรอ
“คือ ผมเองก็อยู่ชมรมวิทย์เเละเรียนโรงเรียนเดียวกับไอ้…เอ้ย ดอจครับ”
“จริงเหรอคะ” นานาตาโต
“แล้วคุณเตรียมตัวยังไงคะ”
“คือ….ผมไปไม่ได้น่ะครับแต่รุ่นพี่ในชมรมบอกว่า แค่ไปเที่ยวนี่ครับ”
“เอ๊ะ ไปเที่ยว?? ไม่ใช่สัมมนาเหรอคะ ”
“ผมว่าแค่ไปเที่ยวครับ เพราะรุ่นพี่ที่ชมรมฟิสิกส์เขาเป็นคนจัดเอง ”
“หา…..จริงเหรอเนี่ย สงสัยฉันคงโดนเพื่อนๆหลอกแน่เลยค่ะ” นานาหัวเราะ
“ขอบคุณมากนะคะที่บอกก่อนไม่เช่นนั้นฉันต้องปวดหัวจนถึงวันเข้าค่ายแน่เลยค่ะ ดีนะคะที่มาปรึกษาปิง”
คือผมอยากจะถามมากกว่าว่าเอาอะไรไปมั่นใจถึงไปปรึกษาไอ้หมาบ้ากัน
“แล้วทำไมปิงไม่ไปค่ายล่ะคะ”
“….พอดีต้องทำงานพิเศษด้วยนะครับ”
“ทำงานพิเศษ……?”
“ครับ ”
นานาไม่ได้ถามต่อ แต่ชวนคุยเรื่องอื่น จนกระทั่งคุณดำรงเดินมาพอดี
“อ้าวหนูนานา”
“สวัสดีค่ะ คุณลุง คุณ…..” นานาหยุดมองแม่ แต่ก็ยกมือไหว้
“มาหาดอจเหรอ”
“ค่ะ พอดีจะมาปรึกษาแต่ตอนนี้ไม่ต้องแล้วค่ะ ได้ปิงช่วยแล้ว”
“อ๋อ งั้นเหรอ”
“เดี๋ยวนานาขอตัวกลับเลยนะคะ ”
“อ้าว ไม่อยู่เจอหน้าดอจมันหน่อยหรือ”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เจอค่ะ ”
“ฮ่าๆๆ นั่นสิเจอกันเกือบทุกวันนี้นะ งั้นก็ขับรถดีๆล่ะ ฟ้าเริ่มมืดแล้ว”
นานายิ้มแล้วไหว้อีกครั้งก่อนจะเดินออกไป
“ทำความรู้จักกับนานาแล้วสินะ” คุณดำรงพูดพลางนั่งโซฟา แม่นั่งตาม
“ครับ”
“นานาเขาเป็นคู่หมั้นดอจน่ะ คบกันมานานแล้ว”
“ครับ ” ผมพยักหน้าเพราะเป็นอย่างที่คาด
“แล้วปิงมีคนคบด้วยหรอยัง”
“เอ่อ ยังครับ”
“คนอย่างปิงใครจะมาคบมันล่ะคะ วันๆมัวแต่ก้มหน้าก้มตามืดมนจะตายแถมชอบสั่งสอนคนใครจะมาชอบมันกัน ”
“วิภาคุณพูดเกินไปปิงออกจะน่ารัก”
ผมเลิกคิ้ว นี่คนที่สามแล้วที่พูดว่าผมน่ารัก ผมเนี่ยนะก็แค่ไอ้แว่นที่ใครๆเรียกเท่านั้นแหละ
“แล้วคดีที่คุณดำรงจะบอก เป็นอย่างไรบ้างคะ” แม่พูดตัดบทกลางคัน
“อือ….ก็นะ เกี่ยวกับยาเสพติด….เรื่องใหญ่เปิดเผยได้ไม่มาก”
“ขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“ใช่ ถ้าจับกุมสำเร็จยาเสพติดแถวๆภาคเหนือจะหายไปมากกว่าครึ่ง”
“ระวังตัวด้วยนะคะ ยิ่งรายใหญ่ยิ่งอันตราย”
“ขอบใจปรางมากนะ”
ทั้งสองกุมมือกัน หากคุณดำรงไม่มีภรรยาอยู่แล้ว ภาพนี้คงเป็นภาพที่ผมมีความสุขมาก…
เสียงรถยนต์ดังขึ้นอีกครั้ง ปรากฏรถหรูสีดำที่คุ้นเคย
“เอ่อ ผมขอตัวไปห้องนะครับ”
ผมรีบลุกแล้วเดินขึ้นห้อง ไม่อยากประจันหน้ากับไอ้หมาบ้า
ผมนั่งอยู่บนเตียงรอเสียงเจ้าของห้องฝั่งตรงข้ามอย่างใจจดใจจ่อ
เสียงประตูห้องฝั่งตรงข้ามเปิดออกและปิดลงผมถอนหายใจโล่งอกนึกว่ามันจะเคาะประตูบุกห้องผมซะอีก
ผมทรุดตัวนอน นาฬิกาดิจิตอลที่วางข้างเตียงบอกเวลา 1 ทุ่มตรง เวลานี้ปกติผมยังไม่นอนด้วยซ้ำ
“พรุ่งนี้วันพุธนี่ต้องทำงานพิเศษ ถ้าพี่โบว์และป้าหญิงรู้ว่าเราย้ายมาอยู่บ้านใหม่คงตกใจน่าดู จริงสิยังไม่ได้บอกป้าแจ่มกับลุงมีเลยว่าย้ายบ้านป่านนี้คงรอทุกเย็น”
ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูทำให้ผมสะดุ้งเฮือก
“คะ…ใครครับ”
“พี่เพ็ญเองจ้ะ”
ผมถอนหายใจแล้วเดินไปเปิด
“มีอะไรเหรอครับ”
“พี่มีเรื่องมาเตือน”
“เตือน? ”
“ใช่ เรื่องคุณนานาเมื่อตอนเย็น …..ตอนนี้เหล่าคนใช้พูดสนุกปากว่าปิงจีบคุณนานา”
“เอ๋ ผมก็แค่คุยกับเขาเฉยๆ”
“พี่ก็คิดอย่างนั้นแต่ปากคนไม่ชอบเวลาเล่าเรื่องมันเลยบานปลายกว่าเรื่องจริง ยังไงปิงอย่าเข้าใกล้คุณนานาเลย หรือยังไงก็หาทางเลี่ยง พี่เกรงว่าคุณดอจเขาจะเข้าใจผิดอีก”
ผมพยักหน้า “เข้าใจแล้วครับ”
“จ้ะ งั้นพี่ไปนะ”
“ขอบคุณที่มาบอกนะครับ”
ผมถอนหายใจอีกครั้ง ครั้งที่เท่าไหร่แล้ว……..
“เรื่องแบบนี้ก็ยังมาต้องกังวล” ผมปิดประตูแล้วกลับเข้าไปนอน เสียงเคาะประตูดังอีกครั้ง ผมจึงเดินไปเปิดเพราะพี่เพ็ญคงจะลืมบอกอะไรอีก แต่ผมคิดผิดคนที่เคาะไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเจ้าของห้องฝั่งตรงข้าม
“มีอะไรครับ”
มันไม่ได้พูดอะไรแต่โปรยเศษกระดาษบางอย่างลงพื้น
“อะไร”
“ดูเองดิวะ ว่าอะไร”
ผมก้มหยิบก่อนจะเบิกตากว้าง แม้จะเป็นชิ้นส่วนหลายชิ้น แต่ส่วนที่สำคัญกลับยังอยู่ ภาพเมื่อเช้าที่ว่อนโรงเรียน
“ตกใจล่ะสิ”
“ครับตกใจ แต่ผมเริ่มชิน”
“นายมันสำส่อน ผู้ชายพวกนั้นเสร็จนายหมดแล้วสิ”
“นี่นาย ฉันเป็นผู้ชายนะ”
“ก็ผู้ชาย แต่สำหรับนายทำได้ทุกอย่าง”
ผมเริ่มอารมณ์เสีย อุตส่าห์ลืมเรื่องนี้ไปเพราะพี่ดินช่วยแท้ๆแต่หมอนี่กลับมาฟื้นคืน
“นายอยากคิดอะไรก็คิดฉันจะนอน ”
แต่มันกลับจับประตูไม่ให้ปิด
“จะไปไหนยังคุยไม่จบ”
“อะไรอีก”
“ถูกข่มขืนหรือเปล่า”
“ฮะ? ”
“ฉันถามว่านายถูกข่มขืนใช่ไหม”
“บ้า! ฉันไม่ได้โดน …..แค่เกือบๆ”
มือหนาเอื้อมมาสัมผัสที่แก้ม ผมย่นหน้าหนีอัตโนมัติ มันก็ไม่ได้รั้งไว้ ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องโดยดี
หมอนี่กินยาผิดหรือเปล่า แปลกแฮะวันนี้ไม่อาละวาด
...............
.............................
...........ดอจนอนลงบนเตียงนึกถึงเรื่องที่เพื่อนพูด
“นี่มึงยังจะมองเศษรูปอีกหรอวะ ไอติมจะละลายหมดแล้ว ” ต๋องพูดไปก็ตักไอติมฝั่งตรงข้ามไป จนแมนที่อยู่ข้างๆต้องตีมือเบาๆ
“ทำอะไรเนี่ยเกือบหกเลย ภาคดูแมนมันทำดิ“ คนตัวเล็กหันไปฟ้องภาคที่นั่งฝั่งตรงข้ามตน ทั้งยังแอบกัดจิกอีกคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเหมือนกัน
แต่ภาคกลับเอื้อมมือมาเช็ดมุมปากที่เลอะให้แทน
ภาพเด็กทั้งสี่ในชุดนักเรียนในร้านไอติมเป็นเป้าสายตาของคนรอบข้างเพราะเวลานี้ยังแค่บ่ายโมงกว่าๆไม่สมควรที่จะมีนักเรียนจะมาอยู่ที่นี่ แต่สายตาก็หาได้ตำหนิทุกคนเพราะยกเว้นเหล่าหญิงสาวที่แอบชำเลืองมองหนุ่มๆโดยเฉพาะร่างสูงที่กำลังนั่งครุ่นคิดบางอย่าง
“ที่พวกมึงพูดถึงรูปนี้ว่าบางทีไอ้แว่นอาจโดนข่มขืนหรอวะ” ดอจพูดขึ้นทำเอาเพื่อนทั้งสามหยุดชะงัก
“แค่เกือบสิวะ” แมนพูด
ดอจนึกถึงเรื่องเมื่อวานตอนเย็นที่เขาเจอร่างนั้นร้องไห้เหมือนหนีอะไรมา
“มึงน่ะอคติกับน้องเขาเกินไป เจอหน้าก็หาเรื่อง ซื่อๆแบบนั้นไม่มีทางเป็นแบบข่าวลือบ้าๆนี่หรอก” ภาคเสริม
“ก็แม่มัน…..”
“นี่มึงยังไม่เลิกคิดอีกหรอวะ จะให้กูพูดอีกกี่รอบว่าลูกกับแม่คนละคนกัน มึงเห็นน้องหน้าซื่อคนนั้นนิสัยแบบนี้หรือไง” พูดจบต๋องก็ฉกไอติมไปกินอีก
ดอจขมวดคิ้วมองรูปที่ขาด แล้วยกไอติมหนีร่างเล็กที่ทำท่าจะแย่งอีก
...............
.............................
ดอจถอนหายใจเฮือกใหญ่
“หรือเราจะลองทำดีกับมัน เพราะมันไม่ได้ทำอะไรผิด….”
===============================================================================
อารมณ์เราตอนนี้คือ ทำไมต้องมาเกี่ยวข้องกับเรื่องน้ำเน่าของพวกเเกด้วยฟะ!! ชักเบื่อตัวละครที่คิดเอง
*คำไหนผิดบอกด้วยนะคะ
“เก็บไปให้หมดเลยนะ มึงกล้าดียังไงมาทำแก้วน้ำกูหล่น จงใจชนใช่ไหม”
“ปะ…เปล่านะคะ คุณ…คุณ หญิงน้อย”
“แหม… คำที่มึงเรียกกูไม่พ้นเมียน้อยเลยนะ”
“กะ..กาด ไม่ได้ตั้งใจนะคะ” เธอรีบขอโทษมือก็เต็มไปด้วยเลือดเพราะถูกเศษแก้วบาด
“กาด ไม่ได้ตั้งใจงั้นเหรอ” ปรางพูดล้อเลียนกัดจิกคำพูดแล้วเงื้อมมือจะตบ
“แม่!”
“มึงมาก็ดีแล้ว มาช่วยกูสั่งสอนอีนี่หน่อยซิ”
ผมถอนหายใจยาว ก่อนจะก้มลงเก็บเศษแก้วที่แตก
“ทำอะไรของมึงไอ้ปิง”
“พี่กาดไปเถอะเดี๋ยวผมเก็บเอง”
“อะ..อืม” พี่กาดทำตามที่บอกแล้วรีบเดินหนีไปทันที
“มึงทำไรไอ้ปิง อีนั่นมันเป็นขี้ข้าให้มันทำก็ถูกแล้ว”
“แม่….. เขาก็คนเหมือนกัน เรียกเขาว่าขี้ข้าได้อย่างไรและอีกอย่างถึงพี่เขาจะคนเป็นใช้แม่ก็ไม่ควรที่จะกดขี่เขา”
เพี๊ยะ!
ใบหน้าผมหันไปตามแรง
“มึงสั่งสอนกูมาหลายรอบแล้วนะที่ยืนหัวโด่เนี่ยแม่ของมึงไม่ใช่ลูก หน็อย….มาสั่งสอนกู ฮึ๊ย! มีลูกก็ไม่ได้ใจ” แม่ฮึดฮัดเดินเข้าไปในบ้าน
ผมจับหน้าตัวเองที่ร้อนผ่าว.......
หลังจากที่ผมเก็บเศษแก้วเสร็จก็ขึ้นมาบนห้อง จะเรียกว่าห้องตัวเองก็กระดากปาก
มองโทรศัพท์ในมือที่เมมเบอร์พี่ดินไว้
ถ้ามีปัญหาโทรหาพี่เดี๋ยวจะรีบมา
“จะรีบมาจริงหรือเปล่า” ผมนอนมองชื่อ ก่อนจะลุกไปอาบน้ำ แล้วลงมาข้างล่างเพื่อมาทานข้าวตามที่พี่เพ็ญบอก
“อ้าวมาท้านข้าวสิปิง” คุณดำรงเอ่ย
ผมค่อยๆทรุดนั่งข้างแม่ แม่เหลือบมองผมแล้วเบะปากก่อนจะหันไปตักอาหารให้คุณดำรง
“เยอะไปแล้วปราง”
“คุณดำรงเหนื่อยนี่คะ ต้องบำรุงเดี๋ยวคืนนี้จะไม่ไหวเหมือนเมื่อคืน” คำพูดของแม่ทำให้ ผมและคุณวิภาต่างหยุดชะงักเช่นเดียวกับคนรับใช้อื่นๆที่ต่างก็ทำสีหน้าไม่ถูก
ช้อนถูกวางลง คุณวิภาดื่มน้ำบ่งบอกว่าอิ่ม
“อิ่มแล้วเหรอวิภา”
“ค่ะ อิ่มแล้ว ....เอี้ยงพาฉันไปห้องที”
“คุณพี่ทานอีกหน่อยสิคะ ทานนิดเดียวเดี๋ยวไม่แข็งแรงนะคะ”
“นั่นสิวิภา ทานอีกนิดเถอะ ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ”
คุณดำรงส่ายหัวอ่อนใจนัก สายตาเหลือบมองมาทางผมพอดี
“ปิงหน้าเธอไปโดนอะไรมาน่ะ”
“อะ…เอ่อ” ผมจับหน้า
ยังมีรอยอีกงั้นเหรอ
“แหมๆแกคงไปซุ่มซ่ามชนโน่นชนนี่เเหละค่ะ”
“คะ…ครับ ”
“งั้นเหรอ ระวังตัวหน่อยก็ดีนะ”
“แล้ววันนี้คดีเป็นอย่างไรบ้างคะหนักไหม”
“หนักเอาการเลย เดี๋ยวฉันเล่าให้ฟังนะ ทานข้าวกันก่อนเถอะ”
“ได้ค่ะ” แม่ยิ้ม เเต่สายตามองมาทางผมประมาณว่าอย่าพูดมาก
ผมดื่มน้ำแล้วขอตัวออกไปเดินเล่นในสวน
สวนนี้หากมองไปด้านบนจะเจอหน้าต่างห้องของผม เป็นแค่สวนเล็กๆเมื่อเทียบกับสวนขนาดใหญ่ของบ้านที่มีเนื้อที่ตั้งแต่รั้วบ้านถึงตัวบ้าน กลิ่มหอมของดอกลีลาวดียามเย็นทำให้จิตใจสดชื่นขึ้น ผมหยิบดอกของมันที่ร่วงแล้วแตะจมูกรับกลิ่นเบาๆ
เสียงรถยนต์แว่วมา….รถมินิคูเปอร์สีขาวดำเคลื่อนตัวเเล้วหยุดลง ปรากฏร่างหญิงสาวในชุดกระโปรงสีขาวคุมเข่า ใบหน้าสวยหวานจนผมใจเต้นแต่ถ้าสังเกตุดีๆ ผู้หญิงคนนี้คือคนที่อยู่กับไอ้หมาบ้าในร้านหนังสือ
..........นานาเดินมาในบ้าน ป้ายุที่เดินมาพอดีทักขึ้น
“อ้าวคุณนานา”
“ป้ายุ สวัสดีค่ะ”
ป้ายุรับไหว้แล้วยิ้มรับ “มาหาคุณดอจหรอคะ”
“ค่ะ”
“คุณดอจยังไม่กลับเลยค่ะ คุณนานานั่งรอก่อนนะคะเดี๋ยวป้าให้เด็กเอาน้ำมาให้ค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ” นานานั่งลงโซฟา มองโทรศัพท์ในมือแล้วกดโทรหาแฟนหนุ่มที่ตอนนี้ยังไม่กลับบ้านเเต่ไม่ทันไรน้ำเปล่าก็มาเสริ์ฟ
“น้ำค่ะคุณนานา”
“ขอบคุณพี่แก้วมากนะคะ”
“ค่ะ” แก้วยิ้มแล้วเดินเข้าในครัว
............
...........................
“เอาหน้านะมึงอีแก้ว ”
“ทำไมกูล่ะอีกาด หาโอกาสประจบไม่ได้เหมือนกูล่ะสิ”
“กูไม่เอาหน้าเหมือนมึงหรอก ”
“แต่เกือบเอาหน้าไปให้คุณหญิงน้อยตบหรอวะ”
กาดเม้มปากแน่น ถ้าเมื่อกี้คนที่ถูกตบไม่ใช่ปิงมีหวังเธอคงโดนตบเเน่ดีไม่ดีอาจโดนเศษแก้วตบหน้ามาด้วยก็ได้ ยิ่งคิดก็รู้สึกกลัวปนโมโห
.................
...............................
ร่างบางขมวดคิ้วเพราะโทรไปหลายครั้งแต่ปลายสายก็ไม่ยอมรับ
“คนอุตส่าห์มาปรึกษาเสียนี่แต่กลับไม่อยู่ เราน่าจะนึกออกตั้งเเต่เมื่อวานจะได้ปรึกษาเลย เฮ้อ.... ”
ผมเดินเข้าไปในบ้านพลันสายตาประสานกับสาวสวยที่นั่งอยู่บนโซฟาพอดีเธอมองผมไม่วางสายตา ตกใจอย่างโจ่งแจ้งก่อนจะเอ่ยคำพูด
“คุณคือคนที่อยู่ในร้านหนังสือใช่ไหมคะ”
“อะ…เอ่อครับ”
“คุณ…..อยู่ที่นี่เหรอคะ”
“เอ่อ ผมชื่อปิงครับ ผมพึ่งมาอยู่ที่นี่เมื่อวานนี้”
“เอ๋ อยู่เมื่อวาน? ”
เธอยิ่งเพิ่มความสงสัยไปอีกผมจะอธิบายยังไงดีว่าผมน่ะ เป็นลูกของภรรยาอีกคนของคุณดำรง
“ฉันชื่อนานา ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะ” จู่ๆเธอก็เปลี่ยนบทคุยแล้วยิ้มหวานให้แทน ผู้ชายร้อยทั้งร้อยถ้าเห็นรอยยิ้มนี่ต้องละลายแน่นอน
“เช่นกันครับ”
“พอดีฉันมาหาดอจน่ะแต่ยังไม่มาเลย”
“อ่าครับ”
“ฉันพอจะปรึกษาปิงได้ไหม”
“ครับ? ”
“มานั่งตรงนี้เถอะ”
“เอ่อ”
“มาเถอะ ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”
ผมเดินไปหาแล้วทรุดนั่งโซฟาตรงข้าม
“เรื่องที่ปรึกษาคือ อีกไม่กี่วันทางโรงเรียนฉันกับโรงเรียนดอจจะจัดสัมพันธ์เข้าค่ายวิทย์น่ะ แต่ฉันไม่รู้จะเตรียมตัวยังไงดีเพราะจะมีการสัมมนาแลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างโรงเรียน และฉันเป็นตัวแทนชมรมเคมีด้วย แต่ว่าฉันก็ไม่ค่อยมั่นใจและค่อนข้างกลัวรอบข้าง”
ผมนั่งทบทวนคำพูด
“เอ่อ เข้าใจที่ฉันพูดไหม ...ตอนเเรกก็ปรึกษาเพื่อนน่ะนะเเต่ทุกคนก็บอกว่าไม่รู้”
“เข้าค่ายวิทย์เหรอครับ”
“ค่ะ”
ผมตงิดๆ จำคำพูดของพี่วิทย์ที่บอกจะจัดเข้าค่ายแต่ว่า…..
มันก็แค่ข้ออ้างไปเที่ยวเท่านั้นแหละ ….ไม่ใช่เหรอ
“คือ ผมเองก็อยู่ชมรมวิทย์เเละเรียนโรงเรียนเดียวกับไอ้…เอ้ย ดอจครับ”
“จริงเหรอคะ” นานาตาโต
“แล้วคุณเตรียมตัวยังไงคะ”
“คือ….ผมไปไม่ได้น่ะครับแต่รุ่นพี่ในชมรมบอกว่า แค่ไปเที่ยวนี่ครับ”
“เอ๊ะ ไปเที่ยว?? ไม่ใช่สัมมนาเหรอคะ ”
“ผมว่าแค่ไปเที่ยวครับ เพราะรุ่นพี่ที่ชมรมฟิสิกส์เขาเป็นคนจัดเอง ”
“หา…..จริงเหรอเนี่ย สงสัยฉันคงโดนเพื่อนๆหลอกแน่เลยค่ะ” นานาหัวเราะ
“ขอบคุณมากนะคะที่บอกก่อนไม่เช่นนั้นฉันต้องปวดหัวจนถึงวันเข้าค่ายแน่เลยค่ะ ดีนะคะที่มาปรึกษาปิง”
คือผมอยากจะถามมากกว่าว่าเอาอะไรไปมั่นใจถึงไปปรึกษาไอ้หมาบ้ากัน
“แล้วทำไมปิงไม่ไปค่ายล่ะคะ”
“….พอดีต้องทำงานพิเศษด้วยนะครับ”
“ทำงานพิเศษ……?”
“ครับ ”
นานาไม่ได้ถามต่อ แต่ชวนคุยเรื่องอื่น จนกระทั่งคุณดำรงเดินมาพอดี
“อ้าวหนูนานา”
“สวัสดีค่ะ คุณลุง คุณ…..” นานาหยุดมองแม่ แต่ก็ยกมือไหว้
“มาหาดอจเหรอ”
“ค่ะ พอดีจะมาปรึกษาแต่ตอนนี้ไม่ต้องแล้วค่ะ ได้ปิงช่วยแล้ว”
“อ๋อ งั้นเหรอ”
“เดี๋ยวนานาขอตัวกลับเลยนะคะ ”
“อ้าว ไม่อยู่เจอหน้าดอจมันหน่อยหรือ”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เจอค่ะ ”
“ฮ่าๆๆ นั่นสิเจอกันเกือบทุกวันนี้นะ งั้นก็ขับรถดีๆล่ะ ฟ้าเริ่มมืดแล้ว”
นานายิ้มแล้วไหว้อีกครั้งก่อนจะเดินออกไป
“ทำความรู้จักกับนานาแล้วสินะ” คุณดำรงพูดพลางนั่งโซฟา แม่นั่งตาม
“ครับ”
“นานาเขาเป็นคู่หมั้นดอจน่ะ คบกันมานานแล้ว”
“ครับ ” ผมพยักหน้าเพราะเป็นอย่างที่คาด
“แล้วปิงมีคนคบด้วยหรอยัง”
“เอ่อ ยังครับ”
“คนอย่างปิงใครจะมาคบมันล่ะคะ วันๆมัวแต่ก้มหน้าก้มตามืดมนจะตายแถมชอบสั่งสอนคนใครจะมาชอบมันกัน ”
“วิภาคุณพูดเกินไปปิงออกจะน่ารัก”
ผมเลิกคิ้ว นี่คนที่สามแล้วที่พูดว่าผมน่ารัก ผมเนี่ยนะก็แค่ไอ้แว่นที่ใครๆเรียกเท่านั้นแหละ
“แล้วคดีที่คุณดำรงจะบอก เป็นอย่างไรบ้างคะ” แม่พูดตัดบทกลางคัน
“อือ….ก็นะ เกี่ยวกับยาเสพติด….เรื่องใหญ่เปิดเผยได้ไม่มาก”
“ขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“ใช่ ถ้าจับกุมสำเร็จยาเสพติดแถวๆภาคเหนือจะหายไปมากกว่าครึ่ง”
“ระวังตัวด้วยนะคะ ยิ่งรายใหญ่ยิ่งอันตราย”
“ขอบใจปรางมากนะ”
ทั้งสองกุมมือกัน หากคุณดำรงไม่มีภรรยาอยู่แล้ว ภาพนี้คงเป็นภาพที่ผมมีความสุขมาก…
เสียงรถยนต์ดังขึ้นอีกครั้ง ปรากฏรถหรูสีดำที่คุ้นเคย
“เอ่อ ผมขอตัวไปห้องนะครับ”
ผมรีบลุกแล้วเดินขึ้นห้อง ไม่อยากประจันหน้ากับไอ้หมาบ้า
ผมนั่งอยู่บนเตียงรอเสียงเจ้าของห้องฝั่งตรงข้ามอย่างใจจดใจจ่อ
เสียงประตูห้องฝั่งตรงข้ามเปิดออกและปิดลงผมถอนหายใจโล่งอกนึกว่ามันจะเคาะประตูบุกห้องผมซะอีก
ผมทรุดตัวนอน นาฬิกาดิจิตอลที่วางข้างเตียงบอกเวลา 1 ทุ่มตรง เวลานี้ปกติผมยังไม่นอนด้วยซ้ำ
“พรุ่งนี้วันพุธนี่ต้องทำงานพิเศษ ถ้าพี่โบว์และป้าหญิงรู้ว่าเราย้ายมาอยู่บ้านใหม่คงตกใจน่าดู จริงสิยังไม่ได้บอกป้าแจ่มกับลุงมีเลยว่าย้ายบ้านป่านนี้คงรอทุกเย็น”
ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูทำให้ผมสะดุ้งเฮือก
“คะ…ใครครับ”
“พี่เพ็ญเองจ้ะ”
ผมถอนหายใจแล้วเดินไปเปิด
“มีอะไรเหรอครับ”
“พี่มีเรื่องมาเตือน”
“เตือน? ”
“ใช่ เรื่องคุณนานาเมื่อตอนเย็น …..ตอนนี้เหล่าคนใช้พูดสนุกปากว่าปิงจีบคุณนานา”
“เอ๋ ผมก็แค่คุยกับเขาเฉยๆ”
“พี่ก็คิดอย่างนั้นแต่ปากคนไม่ชอบเวลาเล่าเรื่องมันเลยบานปลายกว่าเรื่องจริง ยังไงปิงอย่าเข้าใกล้คุณนานาเลย หรือยังไงก็หาทางเลี่ยง พี่เกรงว่าคุณดอจเขาจะเข้าใจผิดอีก”
ผมพยักหน้า “เข้าใจแล้วครับ”
“จ้ะ งั้นพี่ไปนะ”
“ขอบคุณที่มาบอกนะครับ”
ผมถอนหายใจอีกครั้ง ครั้งที่เท่าไหร่แล้ว……..
“เรื่องแบบนี้ก็ยังมาต้องกังวล” ผมปิดประตูแล้วกลับเข้าไปนอน เสียงเคาะประตูดังอีกครั้ง ผมจึงเดินไปเปิดเพราะพี่เพ็ญคงจะลืมบอกอะไรอีก แต่ผมคิดผิดคนที่เคาะไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเจ้าของห้องฝั่งตรงข้าม
“มีอะไรครับ”
มันไม่ได้พูดอะไรแต่โปรยเศษกระดาษบางอย่างลงพื้น
“อะไร”
“ดูเองดิวะ ว่าอะไร”
ผมก้มหยิบก่อนจะเบิกตากว้าง แม้จะเป็นชิ้นส่วนหลายชิ้น แต่ส่วนที่สำคัญกลับยังอยู่ ภาพเมื่อเช้าที่ว่อนโรงเรียน
“ตกใจล่ะสิ”
“ครับตกใจ แต่ผมเริ่มชิน”
“นายมันสำส่อน ผู้ชายพวกนั้นเสร็จนายหมดแล้วสิ”
“นี่นาย ฉันเป็นผู้ชายนะ”
“ก็ผู้ชาย แต่สำหรับนายทำได้ทุกอย่าง”
ผมเริ่มอารมณ์เสีย อุตส่าห์ลืมเรื่องนี้ไปเพราะพี่ดินช่วยแท้ๆแต่หมอนี่กลับมาฟื้นคืน
“นายอยากคิดอะไรก็คิดฉันจะนอน ”
แต่มันกลับจับประตูไม่ให้ปิด
“จะไปไหนยังคุยไม่จบ”
“อะไรอีก”
“ถูกข่มขืนหรือเปล่า”
“ฮะ? ”
“ฉันถามว่านายถูกข่มขืนใช่ไหม”
“บ้า! ฉันไม่ได้โดน …..แค่เกือบๆ”
มือหนาเอื้อมมาสัมผัสที่แก้ม ผมย่นหน้าหนีอัตโนมัติ มันก็ไม่ได้รั้งไว้ ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องโดยดี
หมอนี่กินยาผิดหรือเปล่า แปลกแฮะวันนี้ไม่อาละวาด
...............
.............................
...........ดอจนอนลงบนเตียงนึกถึงเรื่องที่เพื่อนพูด
“นี่มึงยังจะมองเศษรูปอีกหรอวะ ไอติมจะละลายหมดแล้ว ” ต๋องพูดไปก็ตักไอติมฝั่งตรงข้ามไป จนแมนที่อยู่ข้างๆต้องตีมือเบาๆ
“ทำอะไรเนี่ยเกือบหกเลย ภาคดูแมนมันทำดิ“ คนตัวเล็กหันไปฟ้องภาคที่นั่งฝั่งตรงข้ามตน ทั้งยังแอบกัดจิกอีกคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเหมือนกัน
แต่ภาคกลับเอื้อมมือมาเช็ดมุมปากที่เลอะให้แทน
ภาพเด็กทั้งสี่ในชุดนักเรียนในร้านไอติมเป็นเป้าสายตาของคนรอบข้างเพราะเวลานี้ยังแค่บ่ายโมงกว่าๆไม่สมควรที่จะมีนักเรียนจะมาอยู่ที่นี่ แต่สายตาก็หาได้ตำหนิทุกคนเพราะยกเว้นเหล่าหญิงสาวที่แอบชำเลืองมองหนุ่มๆโดยเฉพาะร่างสูงที่กำลังนั่งครุ่นคิดบางอย่าง
“ที่พวกมึงพูดถึงรูปนี้ว่าบางทีไอ้แว่นอาจโดนข่มขืนหรอวะ” ดอจพูดขึ้นทำเอาเพื่อนทั้งสามหยุดชะงัก
“แค่เกือบสิวะ” แมนพูด
ดอจนึกถึงเรื่องเมื่อวานตอนเย็นที่เขาเจอร่างนั้นร้องไห้เหมือนหนีอะไรมา
“มึงน่ะอคติกับน้องเขาเกินไป เจอหน้าก็หาเรื่อง ซื่อๆแบบนั้นไม่มีทางเป็นแบบข่าวลือบ้าๆนี่หรอก” ภาคเสริม
“ก็แม่มัน…..”
“นี่มึงยังไม่เลิกคิดอีกหรอวะ จะให้กูพูดอีกกี่รอบว่าลูกกับแม่คนละคนกัน มึงเห็นน้องหน้าซื่อคนนั้นนิสัยแบบนี้หรือไง” พูดจบต๋องก็ฉกไอติมไปกินอีก
ดอจขมวดคิ้วมองรูปที่ขาด แล้วยกไอติมหนีร่างเล็กที่ทำท่าจะแย่งอีก
...............
.............................
ดอจถอนหายใจเฮือกใหญ่
“หรือเราจะลองทำดีกับมัน เพราะมันไม่ได้ทำอะไรผิด….”
===============================================================================
อารมณ์เราตอนนี้คือ ทำไมต้องมาเกี่ยวข้องกับเรื่องน้ำเน่าของพวกเเกด้วยฟะ!! ชักเบื่อตัวละครที่คิดเอง
*คำไหนผิดบอกด้วยนะคะ
แก้ไขล่าสุดโดย มอคราม เมื่อ Sat Apr 26, 2014 9:03 am, ทั้งหมด 2 ครั้ง
มอคราม- นักเขียน
- จำนวนข้อความ : 141
Join date : 01/04/2014
Re: อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่9
ดอจจจจจจจจจจจจ ฟหฟยกนาหฟนหกดานห #อัลไล
้เออ ให้มันเข้าใจอะไรง่ายๆ แบบนี้สิ ค่อยเรียกคะแนนความเป็นพระเอกกลับมาหน่อย
แต่.......... เรื่องนานา............ #มีแววก่อเกิดดราม่าในสักวัน
ปล. 'แต่ฉันไม่รู้จะเตรียมตัวยังไงดีเพราะจะมีการสัมมานาแลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างโรงเรียน' สระ า เกินมาตัวนึง
ปลล.คำผิดตอนนี้น้อยมาก (เทียบกับตอนอื่น) แต่อยากให้เช็คช่องไฟ (การเว้นวรรคประโยค) หน่อยค่ะ ยังเขียนติดกันอยู่หลายประโยคเลย
้เออ ให้มันเข้าใจอะไรง่ายๆ แบบนี้สิ ค่อยเรียกคะแนนความเป็นพระเอกกลับมาหน่อย
แต่.......... เรื่องนานา............ #มีแววก่อเกิดดราม่าในสักวัน
ปล. 'แต่ฉันไม่รู้จะเตรียมตัวยังไงดีเพราะจะมีการสัมมานาแลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างโรงเรียน' สระ า เกินมาตัวนึง
ปลล.คำผิดตอนนี้น้อยมาก (เทียบกับตอนอื่น) แต่อยากให้เช็คช่องไฟ (การเว้นวรรคประโยค) หน่อยค่ะ ยังเขียนติดกันอยู่หลายประโยคเลย
น้ำไหล- นักเขียน
- จำนวนข้อความ : 172
Join date : 01/04/2014
Re: อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่9
ขอบคุณจ้า
ดูเหมือนนายดอจจะดีขึ้น คิดได้ (จะได้เท่านี้เปล่า ??)
เหตุการณ์สภาพลมฟ้าอากาศตอนนี้เมฆเริ่มครึ้มๆ
กำลังก่อตัวเป็นเมฆที่ดำมืดในท้องฟ้าใช่ไหม
หวังว่านายดอจจะคิดได้ และทำดีกับปิงได้ตลอดนะ
พี่ดิน ยังไงกันละจ๊ะ....จะจีบปิง หรือเป็นห่วงเฉยๆ ^^
เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนจ้า
ดูเหมือนนายดอจจะดีขึ้น คิดได้ (จะได้เท่านี้เปล่า ??)
เหตุการณ์สภาพลมฟ้าอากาศตอนนี้เมฆเริ่มครึ้มๆ
กำลังก่อตัวเป็นเมฆที่ดำมืดในท้องฟ้าใช่ไหม
หวังว่านายดอจจะคิดได้ และทำดีกับปิงได้ตลอดนะ
พี่ดิน ยังไงกันละจ๊ะ....จะจีบปิง หรือเป็นห่วงเฉยๆ ^^
เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนจ้า
tookta- นักอ่าน
- จำนวนข้อความ : 22
Join date : 17/04/2014
Re: อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่9
กราบงามๆ ค่ะ ดอจคิดได้แล้ว โฮ้ว ปลาบปลื้มมากค่ะ ทำดีกับปิงเถอะ
แต่ดูๆ ไปแล้วเห็นแววว่าปิงจะโดนอีกรอบ และอีกหลายๆ รอบ
แม่ปิงก็เหลือเกินจริงๆ ตบลูกตัวเองนี่ไม่รู้สึกอะไรเลยใช่ไหม ผู้หญิงคนนี้จะได้รับบทเรียนอะไรบ้างไหมเนี่ย
สู้ๆ ค่ะ อยากให้ดอจกับปิงเข้าใจกันโดยไว T^T
แต่ดูๆ ไปแล้วเห็นแววว่าปิงจะโดนอีกรอบ และอีกหลายๆ รอบ
แม่ปิงก็เหลือเกินจริงๆ ตบลูกตัวเองนี่ไม่รู้สึกอะไรเลยใช่ไหม ผู้หญิงคนนี้จะได้รับบทเรียนอะไรบ้างไหมเนี่ย
สู้ๆ ค่ะ อยากให้ดอจกับปิงเข้าใจกันโดยไว T^T
เลื่อมประภัสสร- นักเขียน
- จำนวนข้อความ : 192
Join date : 01/04/2014
Re: อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่9
จริงๆแล้วดอจเป็นคนดีใช่มั้ยค่ะ แต่ด้วยสภาพแวดล้อม...เอิ่มมมก็นะ
เอาใจช่วยหนูปิงดีกว่า^^~
มาม่าถ้วยถัดไปกำลังจะมา (#หล่อนมโนไปเองละย่ะ-,-")
เอาใจช่วยหนูปิงดีกว่า^^~
มาม่าถ้วยถัดไปกำลังจะมา (#หล่อนมโนไปเองละย่ะ-,-")
wazabikung- นักอ่าน
- จำนวนข้อความ : 24
Join date : 22/04/2014
Re: อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่9
ดอจคิดอย่างนี้แต่ดูจากแนวโน้มแล้วต้องมาเข้าใจผิดเรื่องนานาต่ออีกใช่ไหมเนี่ย T^T
อยากให้ทั้งสองคนเข้าใจกันเร็วๆจังเลย สงสารปิงจนอยากไปฉกตัวมาเองแล้วค๊า
ปล. ภาคกับต๋องช่างดูน่าสงสัย หรือจะเป็นเรื่องสั้นตอนต่อไป
อยากให้ทั้งสองคนเข้าใจกันเร็วๆจังเลย สงสารปิงจนอยากไปฉกตัวมาเองแล้วค๊า
ปล. ภาคกับต๋องช่างดูน่าสงสัย หรือจะเป็นเรื่องสั้นตอนต่อไป
Freezea- นักอ่าน
- จำนวนข้อความ : 50
Join date : 31/03/2014
Re: อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่9
ขอให้ดอจทำความเข้าใจกะน้องปิงด้วยเถิด
ไม่งั้นน้องปิงน่าสงสารแย่
แม่ก็มาทำร้ายอีก
ไม่งั้นน้องปิงน่าสงสารแย่
แม่ก็มาทำร้ายอีก
13cotton13- นักอ่าน
- จำนวนข้อความ : 129
Join date : 03/04/2014
Re: อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่9
ดอจจะทำตัวดี!! o_O
ใจหนึ่งก็อยากให้ปิงแฮปปี้ๆนะ แต่อีกใจหนึ่ง...ก็...ดราม่าสักหน่อย...ก็ดีนะ >_<
ใจหนึ่งก็อยากให้ปิงแฮปปี้ๆนะ แต่อีกใจหนึ่ง...ก็...ดราม่าสักหน่อย...ก็ดีนะ >_<
Sier- นักอ่าน
- จำนวนข้อความ : 107
Join date : 11/04/2014
Similar topics
» อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่1
» อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่2
» อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่3
» อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่4
» อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่5
» อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่2
» อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่3
» อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่4
» อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่5
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|