ค้นหา
Latest topics
» Who’s the KING? } 16 [END]by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:30 pm
» Who’s The KING? } 15 - Special part form Pramuk.
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:25 pm
» Who’s the KING? } 15
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:23 pm
» Who’s the KING? } 14
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:09 pm
» Who’s the KING? } 13
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:01 pm
» Who’s the KING? } 12
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 6:50 pm
» Who’s the KING? } 11
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 6:40 pm
» Who’s the KING? } 10
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 5:59 pm
» Who’s the KING? } 9
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:39 pm
» Who’s the KING? } 8
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:31 pm
» Who’s the KING? } 7
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:19 pm
» Who’s the KING? } 6
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 1:49 pm
» Who’s the KING? } 5
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:57 am
» Who’s the KING? } 4
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:43 am
» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #2 (จบ)
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:26 am
» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #1
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:13 am
» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /14 (จบ)
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:03 am
» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /13
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:54 am
» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /12
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:43 am
» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /11
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:33 am
อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่5
+2
น้ำไหล
มอคราม
6 posters
หน้า 1 จาก 1
อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่5
รายการทีวีไม่ว่ากี่ครั้งที่เปิดก็มีแต่รายการน่าเบื่อเหมือนเดิม ผมนอนบนโซฟาไล่กดเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ ตอนนี้นาฬิกาบอกเวลา 3 ทุ่มครึ่ง เสียงจอดรถข้างนอกทำให้ผมละจากทีวีแล้วลุกขึ้นไปเปิดประตู เห็นแม่กับคุณดำรงที่กำลังล่ำลากันอย่างหวานฉ่ำ ก่อนที่รถหรูจะเคลื่อนออกไป
“อ้าวปิง มาช่วยถือของซิ”
แม่นั่งลงบนโซฟา “ นี่ฉันซื้อของมาฝากแกด้วยนะ เปิดดูสิถุงนั้นน่ะ”
ผมเปิดดูตามที่บอก ไม่ต้องเปิดข้างในก็รู้ว่ามันคือแว่น
“ชอบไหมล่ะ เห็นแว่นแกมันเก่าฉันเลยซื้อมาให้ ของดีด้วยนะ”
ผมหยิบแว่นขึ้นมาดู รูปทรงสวยงามก็จริงแต่….
“ผมใส่ไม่ได้หรอก สายตาไม่เท่ากัน”
“จะเรื่องมากอะไรอีกล่ะ”
“แม่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสายตาผมสั้นหรือยาว……แต่ขอบคุณแม่มากนะครับ”
“จะเอาใช่ไหมพูดมากจริง” แม่เชิดหน้าแล้วหันไปดูทีวีแต่ผมรู้สึกแว่บนึงที่แม่แอบยิ้ม
“เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้นะ” ผมเดินไปที่ตู้เย็นแล้วรินน้ำใส่แก้วมาให้ แม่รับไปดื่มแล้วเอนตัวดูละครหลังข่าวที่นานๆครั้งแม่จะดู
“แกแย่งผัวฉัน”
เพี๊ยะ!
สาวสวยในละครล้มลงไปตามแรงตบ หยาดน้ำตาฉบับนักแสดงไหลมาไม่ขาดสาย ผมที่นั่งตรงพื้นเหลือบมองแม่ รู้สึกละครมันคล้ายชีวิตจริง
ผมนั่งกอดเข่า “แม่….เราอย่าไปยุ่งกับเขาเลยนะ ให้ครอบครัวเขามีความสุขเถอะ เราสองคนอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมก็ได้ แม่ไม่ต้องไปทำงานเดี๋ยวผมเลี้ยงแม่เอง เราสองคนใช้ชีวิตเหมือนเดิมเถอะนะ”
“มึงไม่อยากสบายหรือไง” แม่พูดสายตายังดูละครน้ำเน่า
“ตอนนี้ก็ไม่ได้ลำบากนี่”
“มึงมันไม่เคยลำบาก แต่สำหรับกูที่ลำบากมาตลอดถึงไม่อยากละโอกาสไง คุณดำรงเขารักกูและกูรักเขา เขาเป็นผู้ชายที่ดีผิดกับผู้ชายคนอื่นที่มีแต่ทำร้ายจิตใจกู พ่อมึงไง พ่อขี้เมาของมึง ที่ทำให้กูเจ็บช้ำน้ำใจ แล้วมาตายไปยังทิ้งหนี้มาให้กู กูต้องทำงานกลางคืนมาใช้หนี้อดมื้อกินมื้อเพื่อมึง” แม่พูดเสียงสั่น
“ผมเข้าใจ เพราะฉะนั้นแม่ก็ไม่ต้องเหนื่อยผมโตแล้วดูแลแม่ได้”
“หึ! มึงเนี่ยนะจะดูแลกู ไม่ว่ามึงจะพูดยังไงกูก็จะเข้าไปอยู่บ้านหลังนั้นในฐานะอะไรก็ชั่งเเต่ถ้ามีของให้กิน ที่ให้นอนสบายๆ มีเงินให้ใช้มีผู้ที่ชายที่รักกูก็พอ”
“แล้วคุณวิภาเขาล่ะ ”
“จะไปแคร์มันทำไม” แม่หันมามองหน้าผม “มึงก็ต้องไปอยู่กับกูจะได้ไปต่อกรกับมัน ถ้ามึงไม่ไปกูกับมึงตัดขาดกัน” พูดจบแม่ก็เดินขึ้นบันไดไปที่ห้อง
ผมกุมหัวรู้สึกปวด จนต้องเดินไปหยิบยาแก้ปวดที่ตู้ยามากินแล้วทรุดนอนลงโซฟา มองละครฉากที่เมียน้อยได้แต่ร้องไห้
ถึงผมจะไม่ชอบกับการกระทำของแม่ แต่ผมจะไม่มีทางให้ฉากนั้นเกิดขึ้นกับแม่เด็ดขาด
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ขึ้นมาเถอะดอจเดี๋ยวก็ไม่สบายหรอกลูก” หญิงวัยกลางคนมองร่างของลูกชายที่ตอนนี้กำลังว่ายน้ำ ร่างกายสมส่วนมีกล้ามและหน้าท้องเพราะผลจากการเล่นกีฬาบ่อยทั้งผิวสีแทนที่โดดเด่นในสระน้ำสีฟ้าใสสะอาด ร่างนั้นค่อยๆว่ายมาหามารดาที่นั่งอยู่ใต้ร่มข้างๆสระน้ำ
“สดชื่นมากกว่าครับแม่”
“งั้นหรอ แต่ลูกว่ายน้ำมานานแล้วนะ ขึ้นเถอะแม่ชักหิวข้าวแล้ว” นางพูดแกมหยอดลูกอ้อนให้ลูกชาย
“ได้ครับ ผมก็หิวเหมือนกัน” ดอจค่อยๆว่ายน้ำไปที่บันไดสระ ใช้ผ้าคลุมอาบน้ำคลุมกายแล้วอุ้มมารดาขึ้นรถเข็นเเล้วพาเข้าไปในบ้าน ก่อนจะเรียกเอี้ยงคนดูแลมาพาแม่ไปที่โต๊ะอาหารที่เตรียมรอ ส่วนตนเองก็ขึ้นไปอาบน้ำเพื่อมาทานอาหารกลางวัน
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นขณะที่ร่างสูงกำลังแต่งตัว ก่อนจะยิ้มรับเมื่อมองชื่อที่ขึ้นหน้าจอ
“ว่าไงนานา….ตอนนี้ฉันอยู่บ้าน…งั้นนานามาทานข้าวที่บ้านเลยดีกว่า ….เดี๋ยวเราค่อยออกไปดูหนังกัน” พูดจบก็กดปิดแล้วรีบแต่งตัว
“แต่งตัวซะหล่อเชียวจะไปไหนจ้ะ”
ดอจนั่งลงตรงข้ามมารดา “พอดีนานาจะมาน่ะครับ ผมเลยกะจะชวนเธอออกไปดูหนัง”
“อ๋อ งั้นมาหรือยังล่ะจะได้มาทานข้าวด้วยกัน”
“กำลังมาครับ”
เสียงจอดรถหน้าบ้าน......ปรากฏร่างบางในชุดกระโปรงสีชมพูเรียบง่ายแต่เหมาะกับผิวขาวของผู้มาใหม่ชัดเจน ‘นานา’ ลูกสาวของเจ้าสัวคำรณซึ่งเป็นเพื่อนกับคุณดำรงทั้งสองตระกูลจึงรู้จักกันเป็นอย่างดี และเมื่อลูกสาวและลูกชายต่างก็มีใจให้กันความสัมพันธ์จึงยิ่งแน่นแฟ้นขึ้น
“สวัสดีค่ะคุณป้า”
“สวัสดีจ้ะ หนูนา มาทานข้าวก่อนลูก”
“ขอบคุณค่ะ” นานาหรือหนูนายิ้มรับแล้วทรุดนั่งข้างๆดอจ ป้ายุรีบวางจานข้าวแล้วคดข้าวใส่ทันที พลางส่งยิ้มให้กับว่าที่คุณนาย
“ทานเยอะๆกันนะ เดี๋ยวไปเที่ยวจะไม่มีแรง”
หลังจากที่ทั้งสามคนทานข้าวเสร็จ ดอจและนานาตก็ออกไปดูหนังอย่างที่ตั้งใจ ทั้งสองเลือกที่จะดูหนังไซไฟ ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะดูหนังโรแมนติคเพราะดอจไม่ชอบ ระหว่างที่กำลังดูหนังร่างสูงไม่รู้เลยว่าสาวๆรอบข้างกำลังเเอบมองอยู่ คงมีเพียงนานาที่สังเกตุเห็นเเละเเอบหึง
ถึงแม้ดอจจะเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีมากคนนึง นิสัยออกแนวห้าว กวนประสาทเหมือนผู้ชายทั่วไปหรือมากกว่า แต่เมื่อเขาอยู่กับแฟนและครอบครัวเขาจะกายเป็นอีกคนที่แสนอบอุ่นแม้จะมีผู้หญิงมากมายมาเสนอตัวเขาไม่เคยที่จะตอบสนองเพราะไม่อยากนอกใจแฟนสาวและไม่อยากเป็นเหมือนพ่อของตัวเองเขาจึงรักนานาแฟนคนนี้มาก
“หนังสนุกดีนะคะ”
“ฉันว่างั้นๆนะ ”
“เเล้วสาวๆที่อยู่ในโรงหนังล่ะคะ ดีไหม” นานาพูดประชด
“หืม...หึงหรอ”
“ก็....”
“ไม่มีใครสวยสู้นานาได้สักคน” นานายิ้มหน้าเเดง
“เเล้วนานาจะซื้ออะไรไหม”
“อะ...เอ่อ ว่าจะไปร้านหนังสือค่ะ พอดีอยากได้ตำราทำอาหารใหม่ด้วย ”
“จะทำให้ฉันกินหรอ”
“ค่ะ จะทำให้กินจนพุงกางเลย”
“แบบนี้เวลาเราแต่งงานกันฉันไม่อ้วนเป็นหมูหรอ”
นานายิ้มหน้าแดงอีกครั้ง ดูน่ารักจนดอจอยากหอมแก้มเขาอยากจะหอมเลยด้วยซ้ำใช่ว่าแคร์สายตาคนอื่นจะจูบตรงนี้ก็ยังได้แต่เขาแคร์ร่างบางนี้มากกว่ากลัวทำให้อาย
“ไปเกันถอะค่ะ ” นานาพูดแล้วควงแขนดอจไปยังร้านหนังสือขนาดใหญ่ด้วยด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อีกด้านนึง
“พี่วิทย์เลือกอะไรอยู่ครับ”
“พอดีพุดโทรมาว่าให้หานิยายไปให้น่ะสิ พี่เลยต้องเลือก”
“อือ…พี่พุดชอบอ่านนิยายหรอครับ”
“ใช่ ชอบอ่านมากโดยเฉพาะแนวสืบสวน เพราะแบบนี้พุดก็เลยออกเพี๊ยนๆไง สังเกตไหมล่ะว่ามันชอบทำตัวเป็นนักสืบ”
“พี่วิทย์กับพี่พุดนี่สนิทกันจังนะครับ ”
“ก็อยู่กันมาตั้งแต่ม.ต้นนี่”
“แล้วเลือกมหาลัยที่เดียวกันเปล่าครับ ”
พี่วิทย์หน้าเจือนลงแล้วยิ้มบางๆ “ คนเราต่างก็มีเป้าหมายของตัวเองนะ ….ปิงเองก็มีเป้าหมายของปิง แล้วปิงเลือกหนังสือได้หรือยัง”
“อ๋อได้แล้วครับ ” ผมโชว์หนังสือเคมีให้ดู
“ปิงนี่เก่งวิทยาศาสตร์จริงๆเลยนะ จบไปอยากเข้าคณะอะไร”
“ยังไม่รู้เลยครับ ”
“ถ้าอย่างนั้นเป็นหมอสิ ปิงเหมาะที่จะเป็นหมอนะหัวดี ทั้งคณิตศาสตร์และอังกฤษปิงก็ทำได้ดีนี่”
ผมถอนหายใจ เขานิสัยแบบนี้คนไข้คงระอาแน่ “ไม่เหมาะมั้งครับ ”
“เหมาะสิ ปิงในชุดกราวน์จะต้องเซ็กซี่แน่ๆ ”
“พูดอะไรน่ะครับ ” ผมรู้แปลกๆกับคำว่าเซ็กซี่ เมื่อวานถูกชมว่าน่ารักวันนี้ก็เซ็กซี่อีก
“ทุเรศว่ะ” เสียงนึงดังขึ้น ผมและพี่วิทย์หันไปมองต้นเสียง ผมขมวดคิ้วเมื่อเจอกับไอ้หมาบ้า ส่วนพี่วิทย์มองคนพูดอย่างงงๆ
“เป็นผู้ชายด้วยกันแท้ๆยังจะมาเล่นบทรักในนี้อีก”
“ดอจพูดอะไรน่ะ” ผู้หญิงที่มาด้วยพูดปราม เธอคงเป็นแฟนไอ้หมาบ้า ถึงภายนอกจะเหมาสะสมกันเพราะทั้งสวย ทั้งหล่อ แต่ถ้ารู้นิสัยจริงๆของมัน ขอบอกเลยว่าคิดผิด
“พี่วิทย์ไปจ่ายเงินกันเถอะครับ”
“จะควงกันไปไหนไอ้ตุ๊ด”
“นี่นายพูดแบบนี้จะหาเรื่องหรอ ” พี่วิทย์มายืนกันผม ตัวพี่วิทย์พอเทียบกับไอ้หมาบ้าออกจะตัวเล็กกว่า
“นายคือ เดือนโรงเรียนคนนั้นนี่ ถ้าสาวๆรู้ว่ามาชอบไอ้แว่นคงร้องไห้น่าดู”
“ดอจไปเถอะค่ะ” ผู้หญิงข้างๆดึงแขนมันให้ออกไปข้างนอก
“งั้นนายคือคนที่ชอบหาเรื่องปิงล่ะสิ”
ไอ้หมาบ้ามองมาทางผม “มันฟ้องหรอ”
“งั้นนายก็ทำจริงๆ”
ตอนนี้รู้สึกมีกระแสไฟฟ้ามาประสานตาของทั้งสอง ผมดึงแขนพี่วิทย์เบาๆ
“ไปกันเถอะครับ อย่าไปมีเรื่องกับหมาบ้าเดี๋ยวมันจะกัดเอา”
“ว่าไงนะมึง”
“ดอจไปหาเรื่องเขาทำไมน่ะ อย่าหาเรื่องสิ”
“นานา ก็มัน….” ไอ้หมาบ้าถึงกับพูดไม่ออกท่าทางผู้หญิงคนนี้จะมีอิทธิพลกับมันน่าดู ดีแล้วล่ะจะได้เลิกเห่าซักที
ผมและวิทย์จ่ายเงินค่าหนังสือแล้วเดินไปที่อื่นตอนแรกกะจะกินผัดไทร้านเดิมแต่ท่าทางพี่วิทย์จะอารมณ์ไม่ดีจึงเลือกออกไปกินข้าวข้างทางแทนจะได้ไม่เจอไอ้หมาบ้า
“ข้าวไม่อร่อยหรอครับ พี่ไม่กินเลย”
ผมมองข้าวผัดกะเพราะหมูกรอบในจานพี่วิทย์ที่ยังคงเต็มจาน
“เอ่อ อร่อยสิ”
“ขอโทษนะครับที่ผมทำให้พี่วิทย์โดนหมอนั่นว่า”
“ปิง ทำไมปิงถึงไม่บอกพี่ว่าโดนไอ้ดอจมันรังแก ไอ้หมอนี่มันนิสัยไม่ดีเลวติดอันคับต้นๆของโรงเรียนเพราะถือว่าพ่อเป็นตำรวจมันเลยเหลิงเกือบโดนจับตั้งหลายรอบ ”
“ขนาดนั้นเลยหรอครับ”
“ใช่”
พี่วิทย์เอื้อมมือจับมุมปากผมที่ตอนนี้เริ่มหาย “ แผลตรงนี้ก็น่ะบอกได้แล้วว่านิสัยมันเป็นยังไง แต่อย่างน้อยมันก็ยังพอมีเพื่อนที่เตือนสติได้บ้าง ”
ท่าทางผมจะไปยุ่งกับตัวปัญหาของโรงเรียน อยากเจอหน้าพ่อแม่หมอนั่นที่ทำให้ลูกชายนิสัยเสียแบบนี้จริงๆ
เสียงเพลงริงโทนดังขึ้น พี่วิทย์รับขึ้นแล้วแอบยิ้ม
“ว่าไงพุด….อือซื้อมาสิ…..แพงนะเกือบห้าร้อย”
ผมดูดน้ำพลางมองพี่วิทย์ที่ยิ้มน้อยๆ รู้สึกความสัมพันธ์ของพี่วิทย์และพี่พุดจะไม่ธรรมดา ผมเองก็อยากมีเพื่อนสนิทบ้างสักครั้ง เพราะผมมักจะอยู่คนเดียวตอนแรกอาจเหงาแต่ตอนนี้ชินชาไปมากแต่ก็อดที่จะอิจฉาไม่ได้
“พี่พุดโทรมาหรอครับ”
“อือ หมอนี่มันกวนประสาทบอกว่าจะผ่อนส่ง”
“พี่เขาตลกดีนะครับ”
“ก็แบบนี้แหละ เป็นแบบนี้มาตลอดถ้าแยกย้ายกันไปไม่รู้จะใช้ชีวิตยังไง” พี่วิทย์ตักข้าวเข้าปากแต่ผมสังเกตุว่าหน้าพี่เขาเริ่มเศร้า
ผมไม่เข้าเคยเข้าใจความรู้สึกนี้เลยเพราะผมไม่เคยที่ต้องรู้สึกเศร้าเวลาจากใครเพราะผมชินแล้ว เรื่องเมื่อตอนประถม ถึง ปัจจุบันเริ่มเข้ามาในหัว เพื่อนที่เคยคุยกันในห้องค่อยๆตีห่างจากนั้นก็แทบลืมไปว่าผมมีตัวตน หรือเพราะผมมันน่ารังเกียจ ถึงได้แต่จากผมไป………ถ้าวันใดผมจากไปทุกคนจะรู้สึกกันยังไงนะ
“อ้าวปิง มาช่วยถือของซิ”
แม่นั่งลงบนโซฟา “ นี่ฉันซื้อของมาฝากแกด้วยนะ เปิดดูสิถุงนั้นน่ะ”
ผมเปิดดูตามที่บอก ไม่ต้องเปิดข้างในก็รู้ว่ามันคือแว่น
“ชอบไหมล่ะ เห็นแว่นแกมันเก่าฉันเลยซื้อมาให้ ของดีด้วยนะ”
ผมหยิบแว่นขึ้นมาดู รูปทรงสวยงามก็จริงแต่….
“ผมใส่ไม่ได้หรอก สายตาไม่เท่ากัน”
“จะเรื่องมากอะไรอีกล่ะ”
“แม่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสายตาผมสั้นหรือยาว……แต่ขอบคุณแม่มากนะครับ”
“จะเอาใช่ไหมพูดมากจริง” แม่เชิดหน้าแล้วหันไปดูทีวีแต่ผมรู้สึกแว่บนึงที่แม่แอบยิ้ม
“เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้นะ” ผมเดินไปที่ตู้เย็นแล้วรินน้ำใส่แก้วมาให้ แม่รับไปดื่มแล้วเอนตัวดูละครหลังข่าวที่นานๆครั้งแม่จะดู
“แกแย่งผัวฉัน”
เพี๊ยะ!
สาวสวยในละครล้มลงไปตามแรงตบ หยาดน้ำตาฉบับนักแสดงไหลมาไม่ขาดสาย ผมที่นั่งตรงพื้นเหลือบมองแม่ รู้สึกละครมันคล้ายชีวิตจริง
ผมนั่งกอดเข่า “แม่….เราอย่าไปยุ่งกับเขาเลยนะ ให้ครอบครัวเขามีความสุขเถอะ เราสองคนอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมก็ได้ แม่ไม่ต้องไปทำงานเดี๋ยวผมเลี้ยงแม่เอง เราสองคนใช้ชีวิตเหมือนเดิมเถอะนะ”
“มึงไม่อยากสบายหรือไง” แม่พูดสายตายังดูละครน้ำเน่า
“ตอนนี้ก็ไม่ได้ลำบากนี่”
“มึงมันไม่เคยลำบาก แต่สำหรับกูที่ลำบากมาตลอดถึงไม่อยากละโอกาสไง คุณดำรงเขารักกูและกูรักเขา เขาเป็นผู้ชายที่ดีผิดกับผู้ชายคนอื่นที่มีแต่ทำร้ายจิตใจกู พ่อมึงไง พ่อขี้เมาของมึง ที่ทำให้กูเจ็บช้ำน้ำใจ แล้วมาตายไปยังทิ้งหนี้มาให้กู กูต้องทำงานกลางคืนมาใช้หนี้อดมื้อกินมื้อเพื่อมึง” แม่พูดเสียงสั่น
“ผมเข้าใจ เพราะฉะนั้นแม่ก็ไม่ต้องเหนื่อยผมโตแล้วดูแลแม่ได้”
“หึ! มึงเนี่ยนะจะดูแลกู ไม่ว่ามึงจะพูดยังไงกูก็จะเข้าไปอยู่บ้านหลังนั้นในฐานะอะไรก็ชั่งเเต่ถ้ามีของให้กิน ที่ให้นอนสบายๆ มีเงินให้ใช้มีผู้ที่ชายที่รักกูก็พอ”
“แล้วคุณวิภาเขาล่ะ ”
“จะไปแคร์มันทำไม” แม่หันมามองหน้าผม “มึงก็ต้องไปอยู่กับกูจะได้ไปต่อกรกับมัน ถ้ามึงไม่ไปกูกับมึงตัดขาดกัน” พูดจบแม่ก็เดินขึ้นบันไดไปที่ห้อง
ผมกุมหัวรู้สึกปวด จนต้องเดินไปหยิบยาแก้ปวดที่ตู้ยามากินแล้วทรุดนอนลงโซฟา มองละครฉากที่เมียน้อยได้แต่ร้องไห้
ถึงผมจะไม่ชอบกับการกระทำของแม่ แต่ผมจะไม่มีทางให้ฉากนั้นเกิดขึ้นกับแม่เด็ดขาด
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ขึ้นมาเถอะดอจเดี๋ยวก็ไม่สบายหรอกลูก” หญิงวัยกลางคนมองร่างของลูกชายที่ตอนนี้กำลังว่ายน้ำ ร่างกายสมส่วนมีกล้ามและหน้าท้องเพราะผลจากการเล่นกีฬาบ่อยทั้งผิวสีแทนที่โดดเด่นในสระน้ำสีฟ้าใสสะอาด ร่างนั้นค่อยๆว่ายมาหามารดาที่นั่งอยู่ใต้ร่มข้างๆสระน้ำ
“สดชื่นมากกว่าครับแม่”
“งั้นหรอ แต่ลูกว่ายน้ำมานานแล้วนะ ขึ้นเถอะแม่ชักหิวข้าวแล้ว” นางพูดแกมหยอดลูกอ้อนให้ลูกชาย
“ได้ครับ ผมก็หิวเหมือนกัน” ดอจค่อยๆว่ายน้ำไปที่บันไดสระ ใช้ผ้าคลุมอาบน้ำคลุมกายแล้วอุ้มมารดาขึ้นรถเข็นเเล้วพาเข้าไปในบ้าน ก่อนจะเรียกเอี้ยงคนดูแลมาพาแม่ไปที่โต๊ะอาหารที่เตรียมรอ ส่วนตนเองก็ขึ้นไปอาบน้ำเพื่อมาทานอาหารกลางวัน
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นขณะที่ร่างสูงกำลังแต่งตัว ก่อนจะยิ้มรับเมื่อมองชื่อที่ขึ้นหน้าจอ
“ว่าไงนานา….ตอนนี้ฉันอยู่บ้าน…งั้นนานามาทานข้าวที่บ้านเลยดีกว่า ….เดี๋ยวเราค่อยออกไปดูหนังกัน” พูดจบก็กดปิดแล้วรีบแต่งตัว
“แต่งตัวซะหล่อเชียวจะไปไหนจ้ะ”
ดอจนั่งลงตรงข้ามมารดา “พอดีนานาจะมาน่ะครับ ผมเลยกะจะชวนเธอออกไปดูหนัง”
“อ๋อ งั้นมาหรือยังล่ะจะได้มาทานข้าวด้วยกัน”
“กำลังมาครับ”
เสียงจอดรถหน้าบ้าน......ปรากฏร่างบางในชุดกระโปรงสีชมพูเรียบง่ายแต่เหมาะกับผิวขาวของผู้มาใหม่ชัดเจน ‘นานา’ ลูกสาวของเจ้าสัวคำรณซึ่งเป็นเพื่อนกับคุณดำรงทั้งสองตระกูลจึงรู้จักกันเป็นอย่างดี และเมื่อลูกสาวและลูกชายต่างก็มีใจให้กันความสัมพันธ์จึงยิ่งแน่นแฟ้นขึ้น
“สวัสดีค่ะคุณป้า”
“สวัสดีจ้ะ หนูนา มาทานข้าวก่อนลูก”
“ขอบคุณค่ะ” นานาหรือหนูนายิ้มรับแล้วทรุดนั่งข้างๆดอจ ป้ายุรีบวางจานข้าวแล้วคดข้าวใส่ทันที พลางส่งยิ้มให้กับว่าที่คุณนาย
“ทานเยอะๆกันนะ เดี๋ยวไปเที่ยวจะไม่มีแรง”
หลังจากที่ทั้งสามคนทานข้าวเสร็จ ดอจและนานาตก็ออกไปดูหนังอย่างที่ตั้งใจ ทั้งสองเลือกที่จะดูหนังไซไฟ ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะดูหนังโรแมนติคเพราะดอจไม่ชอบ ระหว่างที่กำลังดูหนังร่างสูงไม่รู้เลยว่าสาวๆรอบข้างกำลังเเอบมองอยู่ คงมีเพียงนานาที่สังเกตุเห็นเเละเเอบหึง
ถึงแม้ดอจจะเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีมากคนนึง นิสัยออกแนวห้าว กวนประสาทเหมือนผู้ชายทั่วไปหรือมากกว่า แต่เมื่อเขาอยู่กับแฟนและครอบครัวเขาจะกายเป็นอีกคนที่แสนอบอุ่นแม้จะมีผู้หญิงมากมายมาเสนอตัวเขาไม่เคยที่จะตอบสนองเพราะไม่อยากนอกใจแฟนสาวและไม่อยากเป็นเหมือนพ่อของตัวเองเขาจึงรักนานาแฟนคนนี้มาก
“หนังสนุกดีนะคะ”
“ฉันว่างั้นๆนะ ”
“เเล้วสาวๆที่อยู่ในโรงหนังล่ะคะ ดีไหม” นานาพูดประชด
“หืม...หึงหรอ”
“ก็....”
“ไม่มีใครสวยสู้นานาได้สักคน” นานายิ้มหน้าเเดง
“เเล้วนานาจะซื้ออะไรไหม”
“อะ...เอ่อ ว่าจะไปร้านหนังสือค่ะ พอดีอยากได้ตำราทำอาหารใหม่ด้วย ”
“จะทำให้ฉันกินหรอ”
“ค่ะ จะทำให้กินจนพุงกางเลย”
“แบบนี้เวลาเราแต่งงานกันฉันไม่อ้วนเป็นหมูหรอ”
นานายิ้มหน้าแดงอีกครั้ง ดูน่ารักจนดอจอยากหอมแก้มเขาอยากจะหอมเลยด้วยซ้ำใช่ว่าแคร์สายตาคนอื่นจะจูบตรงนี้ก็ยังได้แต่เขาแคร์ร่างบางนี้มากกว่ากลัวทำให้อาย
“ไปเกันถอะค่ะ ” นานาพูดแล้วควงแขนดอจไปยังร้านหนังสือขนาดใหญ่ด้วยด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อีกด้านนึง
“พี่วิทย์เลือกอะไรอยู่ครับ”
“พอดีพุดโทรมาว่าให้หานิยายไปให้น่ะสิ พี่เลยต้องเลือก”
“อือ…พี่พุดชอบอ่านนิยายหรอครับ”
“ใช่ ชอบอ่านมากโดยเฉพาะแนวสืบสวน เพราะแบบนี้พุดก็เลยออกเพี๊ยนๆไง สังเกตไหมล่ะว่ามันชอบทำตัวเป็นนักสืบ”
“พี่วิทย์กับพี่พุดนี่สนิทกันจังนะครับ ”
“ก็อยู่กันมาตั้งแต่ม.ต้นนี่”
“แล้วเลือกมหาลัยที่เดียวกันเปล่าครับ ”
พี่วิทย์หน้าเจือนลงแล้วยิ้มบางๆ “ คนเราต่างก็มีเป้าหมายของตัวเองนะ ….ปิงเองก็มีเป้าหมายของปิง แล้วปิงเลือกหนังสือได้หรือยัง”
“อ๋อได้แล้วครับ ” ผมโชว์หนังสือเคมีให้ดู
“ปิงนี่เก่งวิทยาศาสตร์จริงๆเลยนะ จบไปอยากเข้าคณะอะไร”
“ยังไม่รู้เลยครับ ”
“ถ้าอย่างนั้นเป็นหมอสิ ปิงเหมาะที่จะเป็นหมอนะหัวดี ทั้งคณิตศาสตร์และอังกฤษปิงก็ทำได้ดีนี่”
ผมถอนหายใจ เขานิสัยแบบนี้คนไข้คงระอาแน่ “ไม่เหมาะมั้งครับ ”
“เหมาะสิ ปิงในชุดกราวน์จะต้องเซ็กซี่แน่ๆ ”
“พูดอะไรน่ะครับ ” ผมรู้แปลกๆกับคำว่าเซ็กซี่ เมื่อวานถูกชมว่าน่ารักวันนี้ก็เซ็กซี่อีก
“ทุเรศว่ะ” เสียงนึงดังขึ้น ผมและพี่วิทย์หันไปมองต้นเสียง ผมขมวดคิ้วเมื่อเจอกับไอ้หมาบ้า ส่วนพี่วิทย์มองคนพูดอย่างงงๆ
“เป็นผู้ชายด้วยกันแท้ๆยังจะมาเล่นบทรักในนี้อีก”
“ดอจพูดอะไรน่ะ” ผู้หญิงที่มาด้วยพูดปราม เธอคงเป็นแฟนไอ้หมาบ้า ถึงภายนอกจะเหมาสะสมกันเพราะทั้งสวย ทั้งหล่อ แต่ถ้ารู้นิสัยจริงๆของมัน ขอบอกเลยว่าคิดผิด
“พี่วิทย์ไปจ่ายเงินกันเถอะครับ”
“จะควงกันไปไหนไอ้ตุ๊ด”
“นี่นายพูดแบบนี้จะหาเรื่องหรอ ” พี่วิทย์มายืนกันผม ตัวพี่วิทย์พอเทียบกับไอ้หมาบ้าออกจะตัวเล็กกว่า
“นายคือ เดือนโรงเรียนคนนั้นนี่ ถ้าสาวๆรู้ว่ามาชอบไอ้แว่นคงร้องไห้น่าดู”
“ดอจไปเถอะค่ะ” ผู้หญิงข้างๆดึงแขนมันให้ออกไปข้างนอก
“งั้นนายคือคนที่ชอบหาเรื่องปิงล่ะสิ”
ไอ้หมาบ้ามองมาทางผม “มันฟ้องหรอ”
“งั้นนายก็ทำจริงๆ”
ตอนนี้รู้สึกมีกระแสไฟฟ้ามาประสานตาของทั้งสอง ผมดึงแขนพี่วิทย์เบาๆ
“ไปกันเถอะครับ อย่าไปมีเรื่องกับหมาบ้าเดี๋ยวมันจะกัดเอา”
“ว่าไงนะมึง”
“ดอจไปหาเรื่องเขาทำไมน่ะ อย่าหาเรื่องสิ”
“นานา ก็มัน….” ไอ้หมาบ้าถึงกับพูดไม่ออกท่าทางผู้หญิงคนนี้จะมีอิทธิพลกับมันน่าดู ดีแล้วล่ะจะได้เลิกเห่าซักที
ผมและวิทย์จ่ายเงินค่าหนังสือแล้วเดินไปที่อื่นตอนแรกกะจะกินผัดไทร้านเดิมแต่ท่าทางพี่วิทย์จะอารมณ์ไม่ดีจึงเลือกออกไปกินข้าวข้างทางแทนจะได้ไม่เจอไอ้หมาบ้า
“ข้าวไม่อร่อยหรอครับ พี่ไม่กินเลย”
ผมมองข้าวผัดกะเพราะหมูกรอบในจานพี่วิทย์ที่ยังคงเต็มจาน
“เอ่อ อร่อยสิ”
“ขอโทษนะครับที่ผมทำให้พี่วิทย์โดนหมอนั่นว่า”
“ปิง ทำไมปิงถึงไม่บอกพี่ว่าโดนไอ้ดอจมันรังแก ไอ้หมอนี่มันนิสัยไม่ดีเลวติดอันคับต้นๆของโรงเรียนเพราะถือว่าพ่อเป็นตำรวจมันเลยเหลิงเกือบโดนจับตั้งหลายรอบ ”
“ขนาดนั้นเลยหรอครับ”
“ใช่”
พี่วิทย์เอื้อมมือจับมุมปากผมที่ตอนนี้เริ่มหาย “ แผลตรงนี้ก็น่ะบอกได้แล้วว่านิสัยมันเป็นยังไง แต่อย่างน้อยมันก็ยังพอมีเพื่อนที่เตือนสติได้บ้าง ”
ท่าทางผมจะไปยุ่งกับตัวปัญหาของโรงเรียน อยากเจอหน้าพ่อแม่หมอนั่นที่ทำให้ลูกชายนิสัยเสียแบบนี้จริงๆ
เสียงเพลงริงโทนดังขึ้น พี่วิทย์รับขึ้นแล้วแอบยิ้ม
“ว่าไงพุด….อือซื้อมาสิ…..แพงนะเกือบห้าร้อย”
ผมดูดน้ำพลางมองพี่วิทย์ที่ยิ้มน้อยๆ รู้สึกความสัมพันธ์ของพี่วิทย์และพี่พุดจะไม่ธรรมดา ผมเองก็อยากมีเพื่อนสนิทบ้างสักครั้ง เพราะผมมักจะอยู่คนเดียวตอนแรกอาจเหงาแต่ตอนนี้ชินชาไปมากแต่ก็อดที่จะอิจฉาไม่ได้
“พี่พุดโทรมาหรอครับ”
“อือ หมอนี่มันกวนประสาทบอกว่าจะผ่อนส่ง”
“พี่เขาตลกดีนะครับ”
“ก็แบบนี้แหละ เป็นแบบนี้มาตลอดถ้าแยกย้ายกันไปไม่รู้จะใช้ชีวิตยังไง” พี่วิทย์ตักข้าวเข้าปากแต่ผมสังเกตุว่าหน้าพี่เขาเริ่มเศร้า
ผมไม่เข้าเคยเข้าใจความรู้สึกนี้เลยเพราะผมไม่เคยที่ต้องรู้สึกเศร้าเวลาจากใครเพราะผมชินแล้ว เรื่องเมื่อตอนประถม ถึง ปัจจุบันเริ่มเข้ามาในหัว เพื่อนที่เคยคุยกันในห้องค่อยๆตีห่างจากนั้นก็แทบลืมไปว่าผมมีตัวตน หรือเพราะผมมันน่ารังเกียจ ถึงได้แต่จากผมไป………ถ้าวันใดผมจากไปทุกคนจะรู้สึกกันยังไงนะ
แก้ไขล่าสุดโดย มอคราม เมื่อ Sat Apr 26, 2014 8:52 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง
มอคราม- นักเขียน
- จำนวนข้อความ : 141
Join date : 01/04/2014
Re: อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่5
เปลี่ยนตัวพระเอกได้มั้ยคะ ฟฟฟฟฟฟฟฟ #โดนคุณมอครามโยนออกนอกห้อง
พี่วิทย์ขราาาาา พี่พูดอะไรคะ กรี๊ดดดดดดดด เซะกุซี่อะไรคะ พี่คิดอะไรกับปิงใช่มั้ย มีชงมีชมประจำ >////<
พี่วิทย์ขราาาาา พี่พูดอะไรคะ กรี๊ดดดดดดดด เซะกุซี่อะไรคะ พี่คิดอะไรกับปิงใช่มั้ย มีชงมีชมประจำ >////<
น้ำไหล- นักเขียน
- จำนวนข้อความ : 172
Join date : 01/04/2014
Re: อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่5
อยากตบดอจล้างน้ำ คุณมอครามจะว่าอะไรไหมคะ
อย่าหวังเลยว่าอิฉันจะยกน้องปิงให้ ชริๆ ตอนแรกจะยกให้พี่วิทย์ ่แต่ก็ดูท่าจะมีบางคนอยู่แล้ว
ปิงจ๊ะ แนะนำคนอื่นๆ ให้ไหมจ๊ะ คนดีๆ มีอีกครึ่งโลก โฮก!!!!
อย่าหวังเลยว่าอิฉันจะยกน้องปิงให้ ชริๆ ตอนแรกจะยกให้พี่วิทย์ ่แต่ก็ดูท่าจะมีบางคนอยู่แล้ว
ปิงจ๊ะ แนะนำคนอื่นๆ ให้ไหมจ๊ะ คนดีๆ มีอีกครึ่งโลก โฮก!!!!
เลื่อมประภัสสร- นักเขียน
- จำนวนข้อความ : 192
Join date : 01/04/2014
Re: อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่5
ดูท่าพี่วิทย์จะมีเจ้าของแล้วสินะคะ
แต่ไหนๆก็เอ็นดูปิงซะขนาดนี้ทำให้ดอจหึงอีกสักหลายๆยกก่อน เอาให้คลั่งเลยยิ่งดี แล้วค่อยเปิดตัวกับพี่พุดนะ *หัวเราะ*
ปิงกับดอจก็ช่างเป็นคู่บุพเพอาละวาดสุดๆ ไปไหนก็เจอกัน ไม่อยากจะคิดเมื่อต้องอยู่บ้านเดียวกัน กลัวปิงจะหนีออกจากบ้านสักวัน
สู้เขาต่อไปนะปิง
คุณแม่ของปิงเองก็มีมุมน่ารักเหมือนกันนะ ความจริงก็รักลูกชายล่ะสิ =^^=
แต่ไหนๆก็เอ็นดูปิงซะขนาดนี้ทำให้ดอจหึงอีกสักหลายๆยกก่อน เอาให้คลั่งเลยยิ่งดี แล้วค่อยเปิดตัวกับพี่พุดนะ *หัวเราะ*
ปิงกับดอจก็ช่างเป็นคู่บุพเพอาละวาดสุดๆ ไปไหนก็เจอกัน ไม่อยากจะคิดเมื่อต้องอยู่บ้านเดียวกัน กลัวปิงจะหนีออกจากบ้านสักวัน
สู้เขาต่อไปนะปิง
คุณแม่ของปิงเองก็มีมุมน่ารักเหมือนกันนะ ความจริงก็รักลูกชายล่ะสิ =^^=
Freezea- นักอ่าน
- จำนวนข้อความ : 50
Join date : 31/03/2014
Re: อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่5
อย่าบอกนะว่าพี่วิทย์เอ็นดูน้องปิงแต่แอบกิ๊กกั๊กกะพี่พุดน่ะ
งนมโนต้องมา 55
งนมโนต้องมา 55
13cotton13- นักอ่าน
- จำนวนข้อความ : 129
Join date : 03/04/2014
Re: อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่5
คุณวิทย์ค่ะ ถ้าจะมีเจ้าของแล้วละก็ อย่ามาทำเจ้ามุ้งมิ้งกับปิงให้คนอ่านฟินสิค่ะ
กดตอนต่อไปรั่วๆ
กดตอนต่อไปรั่วๆ
Sier- นักอ่าน
- จำนวนข้อความ : 107
Join date : 11/04/2014
Similar topics
» อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่1
» อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่2
» อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่3
» อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่4
» อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่6
» อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่2
» อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่3
» อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่4
» อารมณ์รัก อารมณ์ร้าย ตอนที่6
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|