กิจกรรมสร้างงานให้เป็นเล่ม
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search

Latest topics
» Who’s the KING? } 16 [END]
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:30 pm

» Who’s The KING? } 15 - Special part form Pramuk.
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:25 pm

» Who’s the KING? } 15
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:23 pm

» Who’s the KING? } 14
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:09 pm

» Who’s the KING? } 13
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:01 pm

» Who’s the KING? } 12
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 6:50 pm

» Who’s the KING? } 11
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 6:40 pm

» Who’s the KING? } 10
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 5:59 pm

» Who’s the KING? } 9
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:39 pm

» Who’s the KING? } 8
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:31 pm

» Who’s the KING? } 7
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:19 pm

» Who’s the KING? } 6
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 1:49 pm

» Who’s the KING? } 5
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:57 am

» Who’s the KING? } 4
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:43 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #2 (จบ)
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:26 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #1
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:13 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /14 (จบ)
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:03 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /13
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:54 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /12
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:43 am

» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /11
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:33 am


Zero-sum game 1 - 100%

+3
เลื่อมประภัสสร
มอคราม
ฟ้าแลบ
7 posters

Go down

Zero-sum game 1 - 100% Empty Zero-sum game 1 - 100%

ตั้งหัวข้อ by ฟ้าแลบ Thu Apr 10, 2014 10:55 am

1 หยั่งเชิง

ดิษยะครุ่นคิดถึงน้องชายที่เพิ่งพบหน้าตลอดครึ่งบ่ายที่เหลือ เขานึกสงสัยว่าเพราะอะไรอีกฝ่ายถึงอยากจะให้เขาไปฟังพินัยกรรมนัก?

เขาถอนหายใจเฮือกเมื่อรู้สึกตัวว่างานยังไม่ถึงไหนเลยเพราะไม่สามารถรวบรวมสมาธิได้ เสียงตัดสวิตซ์แอร์เหมือนเป็นสัญญาณให้บรรดามนุษย์เงินเดือนเริ่มกลับบ้านได้แล้ว

เรียวตะทำให้เขารู้สึกเหมือนผู้ใหญ่ใจร้ายที่แกล้งเด็ก...ถึงจะจงใจแกล้งไปนิดหน่อยจริง ๆ ก็เถอะ

“เร็นวันนี้จะอยู่ถึงกี่โมง? ไปกินข้าวกันก่อนมั้ย?” จิณณ์เพื่อนรุ่นพี่ของเขาถาม

“ผมคงจะกลับเลยดีกว่าครับ พี่จิณณ์งานเยอะมั้ยครับ?” ดิษยะจัดการเซฟงานที่ทำค้างไว้พร้อมลงไทม์ชีทของตนเอง

“ก็ไม่ได้เยอะมากหรอก” แต่ไม่รู้จะกลับบ้านไปทำอะไร...นั่นคือประโยคที่พวกเขาทั้งสองคนรู้กัน เขาและจิณณ์เหมือนกันตรงที่อาศัยอยู่คนเดียวไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน ถึงแม้จะทำไปไม่ได้โอทีแต่ก็ดีกว่ากลับบ้านไปนั่งเหงา ๆ อยู่คนเดียว

พวกเขาล่ำลากันก่อนที่เขาจะเดินเอื่อยตามกระแสคนไปยังรถไฟฟ้า พลันสายตาเขากลับสังเกตไปที่ร่างในชุดนักเรียนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของชานชาลา “เรียวตะ?” เขานึกว่าอีกฝ่ายกลับไปนานแล้วเสียอีก

ทว่าเด็กหนุ่มไม่ได้อยู่คนเดียวอย่างที่คิด เขาเห็นผู้ชายในชุดสูทอีกคนยกแขนโอบบ่าของเรียวตะพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด แม้จะเห็นไม่ชัดแต่เขารู้สึกว่าน้องชายต่างแม่ของเขาดูจะมีสีหน้าอึดอัดและไม่อยากคุยชัดเจนหากกลับยอมให้อีกฝ่ายแตะเนื้อต้องตัวขนาดนี้ก็คงจะเป็นคนที่รู้จัก

ดูเหมือนหนุ่มชุดสูทจะพูดอะไรจี้ใจดำเข้าเรียวตะจึงหน้าแดงด้วยความโมโหแล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขาเข้าพอดี เด็กน้อยดูจะตกใจที่เห็นเขาแต่แล้วรถไฟที่เข้าเทียบชานชาลาก็บดบังร่างของพวกเขาไป

ดิษยะลบภาพนั้นออกจากความคิดไม่ได้ เขาอยากรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ถึงแม้เขาจะเพิ่งพบน้องชายเป็นครั้งแรกและไม่ได้อยากจะเจออีกแต่เมื่ออีกฝ่ายเหมือนเจอปัญหาต่อหน้าต่อตาจะให้เขามองเมินไปเลยก็ทำไมได้

...เพราะอย่างนี้ไงถึงไม่อยากเจอ...เขานึกในใจ

“สวัสดีครับคุณมารุท นี่ดิษยะนะครับขอโทษที่โทรมารบกวนครับแต่ไม่ทราบว่าคุณพอจะบอกได้ไหมครับว่าถ้าผมไม่ไปฟังพินัยกรรมฉบับที่สองจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?”

ชายหนุ่มขมวดคิ้วเมื่อฟังจบ พ่อของเขาไม่ได้ตั้งเงื่อนไขแปลก ๆ อะไรเหมือนพล็อตนิยายประเภทที่ถ้าเขาไม่ไปมรดกทั้งหมดจะยกให้มูลนิธิอะไรแบบนั้น ทั้งหมดมีแค่พินัยกรรมฉบับที่สองจะถูกเปิดต่อเมื่อพบเขาและนับจากบอกเขาเรื่องนี้แล้วอีกสามเดือนจึงจะเปิดอ่านได้ซึ่งเขาจะไปฟังหรือไม่ก็ได้ไม่ได้มีผลอะไร

แล้วทำไมเรียวตะถึงอยากให้เขาไปนัก?


เมื่อกลับถึงบ้านเขาก็นำอาหารแช่แข็งเข้าไมโครเวฟก่อนจะไปอาบน้ำ ระหว่างที่นั่งกินข้าวและเปิดทีวีดูเรื่อยเปื่อยใจของเขากลับไม่ได้จดจ่อกับรายการทีวีตรงหน้าสักนิด ดิษยะคิดไม่ตกว่าจะไปฟังพินัยกรรมดีหรือไม่แต่ที่เขาหนักใจคือการที่เพิ่งรู้จากมารุทว่าตอนนี้น้องชายของเขาอยู่บ้านคนเดียว

การที่เด็กอายุสิบแปดปีที่พ่อเพิ่งเสียหลังจากที่แม่ก็ตายไปเมื่อปีที่แล้วต้องอยู่คนเดียวนับว่าเป็นอะไรที่หนักเอาการในความคิดของเขา

หรือเพราะอย่างนั้นเรียวตะถึงมาหาเขา? คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ชาย...

ชายหนุ่มเปิดมือถือที่วางบนโต๊ะขึ้น ก้มมองหน้าจอที่ยังปรากฎเบอร์โทรศัพท์มือถือของเรียวตะที่เขาได้มาจากมารุทไว้โดยยังไม่ได้เซฟ

หากโทร...นั่นหมายถึงเขาต้องทำใจที่จะรับอีกฝ่ายเข้ามามีบทบาทในชีวิต

ไม่โทร...ก็คือการเพิกเฉยไม่รับรู้เรื่องราวของคนเป็นน้องอีกเลย

“แค่เรื่องงานก็ปวดหัวจะตายแล้วทำไมชีวิตกูต้องมาดราม่าเพราะเรื่องนี้อีกวะเนี่ย” ดิษยะบ่นก่อนปิดหน้าจอมือถือเพื่อตัดปัญหาชั่วคราว

เขาตั้งหน้าตั้งตากินข้าวหมูกระเทียมในถาดพลาสติกให้หมดก่อนจะลุกไปปิดโทรทัศน์เพื่อเปิดคอมพิวเตอร์แทน ชั่วแวบหนึ่งที่ความเงียบที่เข้าครอบคลุมบริเวณบ้านดูจะคุกคามเขากว่าทุกทีทำให้เขาเปลี่ยนใจกดปุ่มเปิดใหม่อีกครั้ง รายการที่กำลังฉายอยู่คือสารคดีสิงโตในแอฟริกาใต้ถึงฉากที่มันกำลังกระโจนเข้าใส่ลูกม้าลายพอดี

อืม...ก็ยังดี...

เขาหันหลังกลับไปเอาโน้ตบุ้คออกมาจากกระเป๋าแล้ววางบนโต๊ะกินข้าว หลังจากที่แม่เสียเขาก็ใช้พื้นที่ในบ้านน้อยมาก ทุกสุดสัปดาห์เขาก็พยายามทำความสะอาดบ้านทั้งหลังเพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นจับกันหนาเกินไป หากไม่ติดที่นี่เป็นสถานที่ที่บรรจุความทรงจำมากมายเขาก็มีความคิดจะขายเพื่อซื้อคอนโดเหมือนกัน

ก่อนนอนเขาหยิบมือถือขึ้นมาตั้งนาฬิกาปลุกเหมือนปกติแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นตัวเลขสิบหลักที่ยังคงรอคอยเขาอยู่ว่าจะทำอย่างไรกับมันดี

“เซฟ ๆ ไปก่อนแล้วกัน” ในที่สุดเขาก็ตัดขาดจากญาติคนสุดท้ายของตนเองไม่ลง

อันที่จริงโดยพื้นฐานแล้วดิษยะไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำอะไรเพียงแต่เพราะความที่ต้องดูแลตนเองมาตั้งแต่เด็กบวกกับการใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมาสี่ปีหล่อหลอมให้ชายหนุ่มเป็นคนที่สร้างกำแพงล้อมตนเองเอาไว้เพื่อที่ป้องกันไม่ให้ตนเองเจ็บซึ่งนิสัยนี้ส่งผลให้เขายังโสดในปัจจุบัน ใจหนึ่งร่างสูงก็ดีใจที่ได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ตัวคนเดียวในโลกสีเทาใบนี้แต่เขาก็ถอยออกมาเสียก่อนที่จะได้สัมผัสตามความเคยชิน

ดิษยะผล็อยหลับไปก่อนที่มือถือจะส่งเสียงเป็นสัญญาณว่ามีข้อความเข้าไม่กี่นาทีไม่อย่างนั้นเขาคงจะมีเรื่องให้คิดเพิ่มอีกหนึ่งเรื่อง

ข้อความนั้นมาจากเบอร์ที่เขาเพิ่งจะเมมเบอร์ไป ‘พรุ่งนี้ผมขอไปหาที่บ้านตอนสิบเอ็ดโมงนะครับ - เรียวตะ’


วันถัดมาคือวันเสาร์ดิษยะจึงอนุญาตให้ตนเองตื่นสายได้กว่าปกติ กว่าเขาจะได้เห็นข้อความนั้นก็ปาไปสิบโมงครึ่งแล้ว

เด็กคนนี้รู้เบอร์กับบ้านเขาได้อย่างไง?! คำตอบผุดขึ้นมาให้หัวเขาทันที – มารุท!

“ไหนบอกว่าจะไม่หน้าด้านทู่ซี้ไงวะแล้วนี่มันอะไร?!” ชายหนุ่มร้องอย่างโมโห เขาเกลียดแขกที่ไม่ได้รับเชิญเป็นบ้า พอกดโทรออกก็ไม่มีคนรับสายเสียที เขาขยี้ผมอย่างหงุดหงิดเขามีเวลาอีกครึ่งชั่วโมงในการเตรียมตัวจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องรอให้อีกฝ่ายมาถึงแล้วเฉ่งให้ยับ!

ดิษยะใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวเพียงสิบนาทีก็เสร็จ เขาหยิบชุดอยู่บ้านที่พอรับแขกได้ออกมาเป็นเสื้อยืดคอกลมที่ยังอยู่ในสภาพดีสีเทากับกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลเข้ม เขาชงกาแฟให้ตนเองดื่มเป็นอาหารเช้าก่อนจะสำรวจบ้านหนึ่งรอบเพื่อให้แน่ว่าจะไม่มีอะไรรกหรือน่าอายโชว์แขกไม่ได้รับเชิญ

เรียวตะมาถึงตอนสิบเอ็ดโมงสิบห้าพร้อมกับชายหนุ่มอีกคนที่เขาไม่เคยพบ

...ไม่ใช่คนที่รถไฟฟ้า...ดิษยะคิดในใจ

“เชิญครับ” เพราะมีคนอื่นอยู่ด้วยเขาจึงยังไม่กล้าต่อว่าเด็กหนุ่มได้แต่ทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดีด้วยการเชิญแขกเข้าบ้านและจัดน้ำมาให้

ทั้งสามนั่งลงบนโซฟาที่วางต่อกันเป็นรูปตัวแอลโดยเรียวตะและชายอีกคนนั่งลงบนตัวเดียวกันขณะที่เขานั่งถัดไปอีกตัว

“ต้องขอโทษด้วยนะครับที่พวกเรามารบกวนคุณดิษยะในวันหยุดแบบนี้” ชายตรงหน้าเขากล่าว

เสียงนี้มัน...”คุณมารุท?” อีกฝ่ายไม่เหมือนภาพที่เขาจินตนาการไว้เลย จริงอยู่ว่าฟังเสียงจากมือถือจะยังดูหนุ่มแต่เขาก็ไม่คิดว่าทนายมารุทจะดูอายุไล่เลี่ยกับเขาแบบนี้ ทว่าภาพทนายเขี้ยวลากดินที่คิดก็ไม่ได้ต่างออกไปเท่าไหร่เพราะเมื่อสบตากันเขาก็รู้ทันทีว่าคนนี้เคี้ยวยากแน่ ๆ

“ใช่ครับ ผมลืมไปว่าพวกเรายังไม่เคยเจอกัน ขอโทษที่ไม่ได้แนะนำตัวก่อนนะครับ” ทนายหนุ่มกล่าวก่อนจะหันไปหาเรียวตะที่ยังนั่งมองแก้วน้ำนิ่ง “เรียวตะเองก็ทักคุณดิษยะสิ”

“สวัสดีครับ” เด็กหนุ่มพึมพำยกมือไหว้
เขาไม่พูดอะไรแค่ยกมือรับไหว้เท่านั้น

“ผมคิดว่าคุณดิษยะน่าจะพอเดาได้ว่าพวกเรามาเพราะอะไรดังนั้นผมขอเข้าประเด็นเลยแล้วกันนะครับ” มารุทกล่าว “คุณดิษยะครับ ผมขอถามถึงเหตุผลที่คุณจะไม่ไปฟังพินัยกรรมได้ไหมครับ?”

“แล้วทำไมคุณถึงอยากจะรู้นักล่ะครับ? มันเป็นสิทธิของผมไม่ใช่เหรอครับ?” เมื่อมาตรง ๆ เขาก็ตอบไป ยังดีที่ยั้งทันว่า ‘ถ้าผมไปคุณจะได้ค่าจ้างเพิ่มหรือไง’ ด้วยซ้ำ

มันจะอะไรกันนักหันหนากับพินัยกรรมนี่ ถ้าเขาไม่ไปทุกคนจะอดได้มรดกกันหมดหรือไง?

“ครับ คุณมีสิทธิที่จะเลือกเพียงแต่ผมคิดว่าคุณควรจะไปเพื่อรักษาสิทธิของคุณในฐานะทายาทคนหนึ่งครับ” ทนายหนุ่มกล่าว “คุณไม่อยากจะรู้จริง ๆ หรือครับว่าคุณพ่อของคุณทิ้งอะไรไว้ให้คุณบ้าง?”

(ต่อโพสล่าง)




แก้ไขล่าสุดโดย ฟ้าแลบ เมื่อ Sun Apr 13, 2014 2:21 pm, ทั้งหมด 6 ครั้ง
ฟ้าแลบ
ฟ้าแลบ
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 23
Join date : 01/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Zero-sum game 1 - 100% Empty Re: Zero-sum game 1 - 100%

ตั้งหัวข้อ by มอคราม Thu Apr 10, 2014 12:10 pm

ใครเคะ เมะ อ๊ากกกกกกกกกกก อยากรู้ บอกที!
มอคราม
มอคราม
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 141
Join date : 01/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Zero-sum game 1 - 100% Empty Re: Zero-sum game 1 - 100%

ตั้งหัวข้อ by ฟ้าแลบ Thu Apr 10, 2014 5:29 pm

“โอเค ผมยอมรับว่าการที่พวกคุณตามไม่เลิกแบบนี้มันทำให้ผมอยากไปนิด ๆ” ดิษยะกล่าว

อันที่จริงต้องบอกว่าเขาลำบากจนไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงด้วยจะถูกกว่า

…เสียเวลาแค่หนึ่งวันกับค่ารถอีกนิดหน่อยก็ช่างมันเถอะ…เขาคิด

“ดีครับ งั้นผมจะส่งวันเวลากับแผนที่สถานที่นัดพบมาทางอีเมลล์นะครับ” มารุทส่งยิ้มการค้าให้
เป็นจังหวะเดียวกับที่โทรศัพท์มือถือของชายหนุ่มดังพอดี
ทนายหนุ่มเอ่ยขอตัวลุกขึ้นไปคุยนอกบ้านจึงเหลือสองพี่น้องนั่งอยู่ตามลำพัง

“…”

เรียวตะเบือนสายตามองไปที่รูปภาพสวนดอกไม้ติดผนังราวกับน่าสนใจหนักหนาขณะที่ผู้เป็นพี่ก็เลือกที่จะหยิบหนังสือพิมพ์ที่วางไว้มากางอ่าน

“คุณอายุเท่าไหร่ครับ?” จู่ ๆ เด็กหนุ่มก็เปิดบทสนทนา

“ยี่สิบเจ็ด” ดิษยะตอบโดยไม่ละสายตาจากหน้ากระดาษ

“ปีนี้ยี่สิบแปด?”

“ใช่”

“แก่กว่าตั้งเก้าปีแน่ะ” เรียวตะพึมพำ

ชายหนุ่มพยักหน้ารับเงียบ ๆ การตอกย้ำแบบนี้ทำให้เขารู้สึกแก่จริง ๆ นั่นแหละ ถึงแม้ว่าในแผนกเขาจะเป็นคนที่หนุ่มอันดับสองแต่พอถึงช่วงเวลาจบการศึกษาแล้วมีเด็กใหม่เข้ามาทีไรเขาก็อดจะถอนใจนึกถึงวันเวลาวัยรุ่นของตนเองไม่ได้

…อันที่จริงการที่มานึกหวนถึงอดีตแบบนี้นี่แหละที่ทำให้เขารู้สึกแก่จริงจัง…

โครก

“เอาขนมไหม? ฉันยังไม่ได้ทำอาหารเที่ยงแต่ถ้าพวกคุกกี้ล่ะก็พอจะมีอยู่”
ดิษยะเสนออย่างขบขันเมื่อเรียวตะเอามือกุมท้องหน้าแดงด้วยความอายที่กระเพาะเจ้ากรรมทรยศสร้างความอับอายให้เจ้าของด้วยการส่งเสียงร้องโครกครากออก

“ขอบคุณครับ ถ้าไม่เป็นการรบกวนคุณจนเกินไป” เด็กหนุ่มตอบอ้อมแอ้ม

นัยน์ตาสีอ่อนฉายแววเอ็นดู เด็กที่ซื่อจริงใจแบบนี้ใช่ว่าเขาจะเกลียด “คุณมารุทเองก็ไม่รู้ว่าหิวไหมเดี๋ยวฉันจะไปเตรียมขนมมา รบกวนนายไปถามเขาทีว่าระหว่างสั่งพิซซ่ามากับไปกินข้างนอกเขาสะดวกแบบไหนมากกว่า”

เรียวตะพยักหน้ารับคำว่าครับก่อนจะลุกไปหาทนายหนุ่ม

ดิษยะคิดในใจขณะหยิบจานเล็กมาใส่คุกกี้ที่เขาซื้อมาติดบ้านไว้เวลาอยากทานอะไรหวาน ๆ ซึ่ง…ก็เกือบจะตลอดเวลา สำหรับคนที่รู้ว่าชายหนุ่มอนาคตไกลท่าทางมาดเข้มคนนี้ชอบทานอะไรหวาน ๆ
ผิดอิมเมจหน้าตาแบบนี้มักจะมีสีหน้าตกใจไม่ก็หัวเราะเรื่อยไป

“คุณเร็นครับ พี่แซ็คบอกว่ากินที่นี่เลยก็ได้ครับคุณจะได้ไม่ต้องออกแล้วเดี๋ยวพี่แซ็คจะช่วยออกค่าพิซซ่าด้วย”
เด็กหนุ่มเดินเข้ามาบอกในห้องครัว

ดิษยะนิ่วหน้ากับคำเรียกขานนั้น เรียกเขาที่เป็นพี่แท้ ๆ ว่าคุณแต่กลับเรียกทนายนั่นว่าพี่?

“ได้ งั้นนายโทรสั่งเลยอยากสั่งหน้าอะไรก็สั่ง อ้อสั่งไอติมรสวนิลลามาด้วยล่ะ” เขาเสริมเมื่อนึกได้ว่าไอศครีมที่มีกำลังจะหมดแล้ว

“ได้ครับ ตอนนี้มีโปรหนึ่งแถมหนึ่งอยู่คุณเร็นเลือกมาสักหน้าก็ได้นะครับ ผมกับพี่แซ็คชอบหน้าเดียวกันอยู่แล้ว”

“เรียกพี่ก็ได้”

เรียวตะตาโต “ครับ?”

ดิษยะส่งจานคุกกี้ให้ มองสบตาคนตรงหน้า “เรียกฉันว่าพี่บ้างสิ”

เด็กหนุ่มมองคนตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา คุณเร็น…อิจฉาพี่แซ็ค?

TBC.
------------------------------------------
ถึงจะบอกว่าเป็น 50% ที่เหลือแต่ก็แค่สองหน้าเองต้องขอโทษด้วยนะครับ แต่รู้สึกว่ามันน่าจะตัดตอนตรงนี้ดีกว่า ชื่อตอนเอาจริง ๆ ว่าไม่ค่อยจะเข้ากับบทนี้เท่าไหร่ หยวน ๆ ไปก่อนแล้วกันนครับ แหะ ๆ
ฟ้าแลบ
ฟ้าแลบ
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 23
Join date : 01/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Zero-sum game 1 - 100% Empty Re: Zero-sum game 1 - 100%

ตั้งหัวข้อ by เลื่อมประภัสสร Mon Apr 14, 2014 11:35 pm

แอร๊ย น่ารักค่ะ อยู่ดีๆ ก็อยากให้เขาเรียกพี่ซะงั้น 
หึงแซ็คกับเรียวตะป่ะเนี่ยเร็นจ๋า ว่าแต่แซ็คกับเรียวตะไม่ได้มีซัมติงกันใช่ไหมอ่า ดูสนิทกันดีจังเลย
เลื่อมประภัสสร
เลื่อมประภัสสร
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 192
Join date : 01/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Zero-sum game 1 - 100% Empty Re: Zero-sum game 1 - 100%

ตั้งหัวข้อ by น้ำไหล Wed Apr 16, 2014 6:31 pm

แหมๆ อิจฉาสินะ อิจฉาสินะ อิจฉาสินะ อิจฉาสินะ อิจฉาสินะ อิจฉาสินะ อิจฉาสินะ อิจฉาสินะ #โดนถีบฐานสแปม
น้ำไหล
น้ำไหล
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 172
Join date : 01/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Zero-sum game 1 - 100% Empty Re: Zero-sum game 1 - 100%

ตั้งหัวข้อ by ฟ้าแลบ Thu Apr 17, 2014 12:54 am

ตอบคอมเม้นต์ครับผม

คุณมอคราม
- อืม ผมยังไม่ได้กำหนดตายตัวครับว่าใครจะคู่ใครหรือใครเคะใครเมะ เรื่องนี้ฟ้าแลบกะจะให้ตัวละครพาไปเลยครับ

คุณเลื่อมประภัสสร
- แซ็คกับเรียวตะไม่ได้มีซัมติงกับครับ แซ็คเขามีของเขาอยู่แล้วครับ ฮา

คุณน้ำไหล
- ถูกต้องนะคร้าบ อิจฉาครับผ้ม!  lol!
ฟ้าแลบ
ฟ้าแลบ
นักเขียน

จำนวนข้อความ : 23
Join date : 01/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Zero-sum game 1 - 100% Empty Re: Zero-sum game 1 - 100%

ตั้งหัวข้อ by memoapp Thu Apr 17, 2014 8:56 pm

คริๆ แอบหึงหละสิที่น้องเรียวตะเรียกทนายว่าพี่ ทีตัวเองดันเรียกคุณ
น่ารักอะชอบเด็กน้อย

memoapp
นักอ่าน

จำนวนข้อความ : 46
Join date : 04/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Zero-sum game 1 - 100% Empty Re: Zero-sum game 1 - 100%

ตั้งหัวข้อ by 13cotton13 Thu May 01, 2014 3:15 pm

แหมมมม เจอน้องเรียวตะเรียกพี่กับคุณทนายครั้งเดียวนี่
คุณดิษยะเปลี่ยนอารมณ์ทันทีเลยนะคะ
หวงน้องรึไงคะเนี่ย
13cotton13
13cotton13
นักอ่าน

จำนวนข้อความ : 129
Join date : 03/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

Zero-sum game 1 - 100% Empty Re: Zero-sum game 1 - 100%

ตั้งหัวข้อ by Sier Thu May 15, 2014 4:37 pm

อิจฉา... หรืออาการเริ่มต้นของ "หึง" เนี่ย
ชื่อจริงกับชื่อเล่นแต่ละคน ให้อารมณ์ต่างกันราวฟ้ากับเหวทีเดียว ~

Sier
นักอ่าน

จำนวนข้อความ : 107
Join date : 11/04/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ