ค้นหา
Latest topics
» Who’s the KING? } 16 [END]by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:30 pm
» Who’s The KING? } 15 - Special part form Pramuk.
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:25 pm
» Who’s the KING? } 15
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:23 pm
» Who’s the KING? } 14
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:09 pm
» Who’s the KING? } 13
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 8:01 pm
» Who’s the KING? } 12
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 6:50 pm
» Who’s the KING? } 11
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 6:40 pm
» Who’s the KING? } 10
by เลื่อมประภัสสร Sat Aug 09, 2014 5:59 pm
» Who’s the KING? } 9
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:39 pm
» Who’s the KING? } 8
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:31 pm
» Who’s the KING? } 7
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 2:19 pm
» Who’s the KING? } 6
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 1:49 pm
» Who’s the KING? } 5
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:57 am
» Who’s the KING? } 4
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:43 am
» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #2 (จบ)
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:26 am
» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /ตอนพิเศษ #1
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:13 am
» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /14 (จบ)
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 11:03 am
» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /13
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:54 am
» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /12
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:43 am
» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /11
by น้ำไหล Wed Jul 30, 2014 10:33 am
ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /4
+4
น้ำไหล
memoapp
เลื่อมประภัสสร
หมึกจีน
8 posters
หน้า 1 จาก 1
ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /4
มาต่อตอนที่ 4 แล้วค่ะ พออากาศเย็นสบายหัวก็โล่ง ประกอบกับเป็นแนวสบาย ๆ เขียนได้เรื่อย ๆ เลยปั่นได้ต่อเนื่องหน่อย
ตอนนี้มาถึง 20 หน้าเอสี่แล้วจ้า!!
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่าน สำหรับนักเขียนแต่ละท่าน ไว้หมีกจีนปั่นนิยายรอดพ้นเส้นแดงเมื่อไหร่ จะแวะไปเยี่ยมเยียนไล่อ่านของทุกท่านในภายหลังนะคะ เดือนนี้ต้องปั่นให้พ้นขีดแดงให้ได้ค่ะ!
..........................................................................................................................................
/4
พอกลับมาถึงที่พักรวีก็เรียกนักสืบให้ไปตามสืบเกี่ยวกับเวหาและครอบครัวรวมไปถึงคนรอบตัวของเด็กหนุ่มเพิ่มเติม และระหว่างนั้นชายหนุ่มก็ใช้เวลานั่งคิดแผนการที่จะสานสัมพันธ์ของเขากับอีกฝ่ายไปพลาง ๆ อย่างไม่รีบร้อนนัก จนกระทั่งข้อมูลทั้งหมดถูกนำมาส่งให้รวีในอีกสองวันถัดมา
"เจ้าสาวของฉัน...เติบโตมาเป็นเด็กดี ไร้ประวัติเสื่อมเสียอย่างที่คาดคิดไว้จริง ๆ"
รวีพึมพำอย่างมีความสุข สีหน้าระบายยิ้มนั้นทำให้เมฆาที่มองอยู่ แค่นหัวเราะนิด ๆ
"เหอะ ๆ ยินดีด้วยนะเพื่อน"
เมฆาบอกประชด เพราะเขาแน่ใจว่า ต่อให้เวหาจะเติบโตมาเป็นเด็กเกเรหรือแบบไหนก็ตาม รวีนั้นก็สามารถมีข้อแก้ตัวมารองรับให้สุดที่รักของเจ้าตัวได้มากมายอยู่แล้ว
"แล้วทีนี้นายจะทำยังไงต่อไปล่ะ"
เมฆาถามต่อ เพราะเพื่อนสนิทยังคงชื่นชมกับข้อมูลของเวหาที่ได้รับ โดยไม่คิดสนใจเขาสักนิด
"หือ...ทำยังไงต่อน่ะหรือ"
รวีเงยหน้าจากแผ่นเอกสารมามองเพื่อน แล้วจึงนิ่งคิดสักพัก
"จากข้อมูลที่ได้รับมา น้องฟ้าเป็นเด็กที่รักครอบครัวมาก ดังนั้นฉันก็คงจะเข้าตามตรอกออกตามประตูตรง ๆ นั่นล่ะ อีกอย่างฉันกับคุณแม่ของน้องฟ้า เมื่อก่อนก็รู้จักสนิทสนมกันดี ท่านเองก็คงจะจำฉันได้อยู่บ้าง ...และที่สำคัญ ฉันกับท่านก็เคยมีสัญญาระหว่างพวกเราบางอย่างอยู่ด้วยเหมือนกัน... หึ ๆ"
ใบหน้าแย้มยิ้มติดเจ้าเล่ห์ และเสียงหัวเราะเบา ๆ นั่น ทำให้เมฆาเลิกคิ้วมองคนพูดอย่างประหลาดใจ
"สัญญา? ไม่แค่กับน้องฟ้าแต่นายยังไปสัญญากับแม่ของเขาด้วยรึนั่น ...อย่าบอกนะว่านอกจากเด็กแล้วยังชอบคนแก่กว่าอีก"
รวีขมวดคิ้วยุ่งก่อนจะโพล่งใส่เพื่อนที่เข้าใจผิดตนอย่างหงุดหงิด
"บ้ารึ! สัญญาที่ว่านั่นมันเกี่ยวข้องกับน้องฟ้าต่างหาก ไอ้นายนี่ก็ช่างคิดได้... ฉันว่าคนโรคจิตน่ะ ไม่ใช่ฉันคนเดียวแล้วล่ะ!"
เมฆาชะงักกึก ก่อนจะหัวเราะแห้ง ๆ แล้วรีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที
"แล้วนายจะดำเนินแผนการที่ว่าตอนไหนล่ะ"
รวีเหลือบมองเพื่อนอย่างยังคงไม่สบอารมณ์นัก ก่อนจะเอ่ยตอบกลับไปตามตรง
"อีกสามวันที่จะถึงนี่ ฉันจะเข้าไปทักทายครอบครัวน้องฟ้าอย่างเป็นทางการ"
"เอ๋? แล้วทำไมถึงต้องสามวันล่ะ"
เมฆาถามต่อ ซึ่งคนฟังก็ยักไหล่นิด ๆ
"ก็เผื่อเวลาเตรียมการในเรื่องอื่น ๆ ไว้ยังไงล่ะ"
"เรื่องอะไรบอกได้ไหม"
รวีมองเพื่อนที่มีทีท่าอยากรู้อยากเห็นเต็มที่ เจ้าตัวจึงยกยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก ก่อนจะตอบแหย่กลับไปอย่างอารมณ์ดีขึ้นมากว่าเมื่อครู่
"เอาไว้นายไปเซอร์ไพรส์พร้อมคนอื่นแทนแล้วกัน"
"โห! ขี้งกว่ะ ใช่ซิ! เรามันแค่เพื่อน ไม่ใช่ว่าที่เจ้าสาวเด็กอย่างน้องเค้านี่!"
เมฆาแสร้งทำเป็นค้อนขวับ แล้วจีบปากจีบคอพูด เสียจนคนมองสะดุ้ง
"พอ ๆ อย่ามาทำสะบัดสะบิ้งให้ชวนคลื่นไส้เลยว่ะเมฆ เห็นแล้วขนลุก!"
"แหม! กับฉันทำเป็นขนลุก ทีน้องฟ้าของนายก็หุ่นพอ ๆ กันกับฉันไม่ใช่หรือไง"
เมฆาแย้งขำ ๆ แต่ทำเอาคนฟังขมวดคิ้วยุ่ง
"ถึงไซส์จะใกล้เคียง แต่ออร่าความน่าทะนุถนอมของน้องฟ้าเขากินนายขาดกระจุยว่ะ สำหรับฉัน มองยังไงน้องฟ้าก็ยังดูบอบบางน่ารักเสมอล่ะนะ"
รวีบอกด้วยสีหน้าเคลิ้มฝัน ทำให้เมฆาที่ได้ยินเบ้หน้าใส่
"ไอ้คนหลงแฟน ...ไม่สิ น้องเขาจะยอมเป็นแฟนให้หรือเปล่าก็ไม่รู้"
ท้ายประโยคเมฆาบ่นอุบอิบกับตัวเองเบา ๆ แต่คนหูดีที่อยู่ใกล้ก็ยังคงได้ยินอยู่ดี
"ต้องยอมอยู่แล้วสิวะ! ไม่สิ...ถึงจะไม่ยอม แต่ฉันมีวิธีที่จะทำให้น้องฟ้าเขายอมรับฉัน อย่างละมุนละม่อมเตรียมไว้รอมากมายอยู่แล้วล่ะ"
รวีบอกพร้อมกับเหยียดยิ้มเจ้าเล่ห์ และนั่นจึงทำให้คนที่มองมาเสียวสันหลังวาบ นึกสงสารเป้าหมายของเพื่อนสนิทขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก แม้เขาจะมั่นใจว่ารวีนั้นจะไม่ใช้วิธีการรุนแรงกับเวหาก็ตาม ทว่าเด็กหนุ่มก็คงไม่แคล้วจะต้องเจอลูกตื๊อที่แสนจะน่ารำคาญจากเพื่อนของเขาตามมามากมายอย่างแน่นอน
นับจากวันที่รวีและเมฆามาสร้างความวุ่นวายที่บ้านพักของเขา มาวันนี้ก็เป็นเวลาเกือบอาทิตย์แล้วที่ทั้งคู่หายตัวไป มีนานั้นแม้จะรู้สึกโล่งอก แต่ก็ยังคงกังวลไม่หาย เพราะเท่าที่ได้เห็นสายตาของรวี เขามั่นใจว่าอีกฝ่ายนั้นจะต้องไม่ยอมแพ้ในเรื่องพี่ชายของเขาง่าย ๆ แน่
"หือ...รถรับขนย้าย? เข้ามาในซอยบ้านเราทำไมกันหว่า"
มีนาที่ตอนนี้ออกมากวาดใบไม้หน้าบ้าน เหลียวมองตามรถหกล้อที่ติดป้ายรับขนย้ายซึ่งแล่นผ่านบ้านเขาไปอย่างสนอกสนใจ เพราะมันแล่นขับไปจอดยังบ้านเรือนไทยหลังงามหลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ถัดจากบ้านเขาไปสองสามหลัง และบ้านที่ว่าก็เป็นบ้านของเศรษฐีประจำหมู่บ้านแห่งนี้
"ป้าพร ลุงจุกแกจะย้ายบ้านหรือครับ"
มีนาถามหญิงวัยกลางคนที่อยู่ตรงข้ามบ้านเขา เนื่องจากอีกฝ่ายนั้นค่อนข้างสนิทกับภรรยาของเศรษฐีจุกผู้เป็นเจ้าของบ้านนั่นเอง
"ใช่แล้ว เห็นว่ามีคนกรุงเทพฯมาขอซื้อต่อ จะเอามาทำเป็นบ้านพักตากอากาศส่วนตัวน่ะ ตาจุกแกเห็นว่าอีกฝ่ายให้ราคางาม ก็เลยขายซะ เพราะยังไงที่ของแกแถวนี้ก็มีอีกมาก จะปลูกบ้านอีกหลังสองหลังก็ยังสบายน่ะ"
พอได้ยินหญิงวัยกลางคนบอกเช่นนี้ มีนาก็ถึงกับชะงัก พลันอดนึกถึงเจ้าของรถยนต์คันหรูที่มาจีบพี่ชายของเขาเมื่อหลายวันก่อนขึ้นมาไม่ได้
"เอ่อ...ป้าพร พอจะรู้ไหมครับ ว่าคนมาขอซื้อเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง...แล้วอายุประมาณเท่าไหร่"
หญิงวัยกลางคนมองเด็กหนุ่มที่ตั้งคำถามอย่างประหลาดใจ แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงบอกออกไปตามที่ตนได้รู้มาอยู่ดี
"เห็นแม่รินเขาบอกป้าว่า มีผู้หญิงอายุประมาณ 30 - 40 ปี มาติดต่อน่ะ บอกว่ามาซื้อให้หลานชาย หลานเขาอยู่ต่างประเทศกับพ่อแม่เขา แต่เจ้าตัวบอกว่าชอบประเทศไทยมากกว่า อยากได้บ้านพักในไทย ตามต่างจังหวัดบ้าง น้าของเขาก็เลยมาหาซื้อบ้านให้แถวนี้น่ะ"
มีนาพยักหน้ารับรู้ แต่ก็ยังคงครุ่นคิดว่าคนที่มาซื้ออาจจะเกี่ยวข้องกับรวีอยู่ก็ได้ ทว่าระหว่างกำลังคิดอยู่นั้น เสียงจากในบ้านก็ดังขัดขึ้นมาก่อน
"มีน! มาช่วยแม่ยกของหน่อยสิ!"
"อ๊ะ! ครับ ๆ แป๊บนะครับ!"
มีนาตะโกนตอบแล้วหันมาเอ่ยลาหญิงวัยกลางคนเบื้องหน้าเขา
"จ้า ๆ ไปเถอะ วันนี้พี่ฟ้าเขาไม่อยู่บ้านล่ะสิ"
ป้าพรบอกอย่างรู้ดี ซึ่งมีนาก็ยิ้มรับ เพราะปกติงานใช้กำลังภายในบ้าน มักจะเป็นหน้าที่ของเวหาเสียเป็นส่วนใหญ่ ส่วนมีนานั้นถอดความสามารถด้านการครัวมาจากมารดา แถมยังถนัดงานใช้ฝีมือและงานบ้านทุกประเภท จนชาวบ้านแถวนี้ที่มีลูกชายยังไม่ออกเรือน ต่างก็นึกเสียดายที่อีกฝ่ายเป็นผู้ชาย หาไม่แล้วก็คงจะมีคนไปขอให้มาเป็นลูกสะใภ้กันจนหัวกระไดบ้านไม่แห้งไปแล้ว
เช้าวันถัดมาบริเวณในสวนผลไม้แห่งหนึ่ง เวหานั้นกำลังช่วยณรงค์พ่อเลี้ยงของเขา ขุดดินปลูกต้นไม้อยู่อย่างขยันขันแข็ง ซึ่งแม้ว่าพ่อของเขาคนนี้จะไม่ใช่พ่อแท้ ๆ ผู้ให้กำเนิด แต่อีกฝ่ายก็เลี้ยงดูเวหามาตั้งแต่เล็กและรักเด็กหนุ่มเหมือนกับลูกแท้ ๆ ของตน เช่นเดียวกับที่เวหาให้ความรักและความเคารพณรงค์เหมือนพ่อแท้ ๆ ของเขาเช่นกัน
"พ่อครับ หลุมตรงนี้ขุดเรียบร้อยแล้วล่ะครับ"
เวหาบอกกับพ่อของเขา ซึ่งชายวัยกลางคนก็หันมามองแล้วยิ้มให้อย่างพอใจ
"ขอบใจมากนะฟ้า ที่เหลือเดี๋ยวพ่อจัดการเอง ฟ้าไปนั่งพักก่อนเถอะ"
"งั้นฟ้าไปนั่งเล่นแถวนี้นะครับ ถ้ามีอะไรให้ช่วยพ่อก็เรียกฟ้าได้เลยนะ"
บิดาของชายหนุ่มยิ้มรับ ส่วนเวหาก็เดินลัดเลาะไปนั่งพักที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ริมคลอง อันเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจประจำตัวของเขา
"แดดค่อนข้างแรงจังเลยแฮะวันนี้..."
เวหาพึมพำ พลางจ้องมองน้ำคลองใสแจ๋วตรงหน้าอย่างสนใจปนลังเล เพราะณรงค์เคยเตือนเขาไว้ว่า หลังทำงานเสร็จเหนื่อย ๆ อย่าเพิ่งลงไปว่ายน้ำเล่น...หากแต่เพราะวันนี้อากาศร้อน และความที่ว่ายน้ำในคลองนี้เล่นมาตั้งแต่เด็ก จึงทำให้เวหาอดใจไว้ไม่ไหว สักพักเจ้าตัวจึงถอดเสื้อออกเผยให้เห็นแผ่นอกสีแทนที่มีกล้ามเนื้อน้อย ๆ สมวัย ก่อนจะกระโจนลงน้ำแล้วดำผุดดำว่ายอย่างสนุกสนาน โดยไม่ทันได้สังเกตคนที่กำลังลงมาสำรวจศาลาริมน้ำของบ้านพักเรือนไทยฝั่งตรงข้าม และตอนนี้เจ้าตัวก็กำลังจ้องมองคนที่ว่ายน้ำอยู่อย่างตกตะลึงไม่วางตาพอดี
"เฮ้! ซัน บริเวณรอบ ๆ บ้านนี่ ดูดีกว่าที่คิดไว้อีกว่ะ หือ มีศาลาริมน้ำด้วยหรือเนี่ย!"
เมฆาที่เดินตามเพื่อนมาอุทานอย่างพึงพอใจ แต่แล้วเขาก็ต้องชะงักเมื่อเห็นสายตาของเพื่อนจับจ้องมองบางสิ่งอยู่ไม่วางตา และเมื่อเขามองตามไปบ้าง จึงทำให้เห็นว่าเพื่อนกำลังมองสิ่งใดอยู่นั่นเอง
"นั่นน้องฟ้าไม่ใช่รึ!?"
เสียงของเมฆาไม่ค่อยเบานัก และก็ทำให้คนที่กำลังเล่นน้ำอยู่รู้สึกตัวขึ้นมา
"เอ่อ...พวกคุณ"
เวหานิ่งอึ้งเพราะไม่คิดว่าหนึ่งในคนที่มาจีบเขาและหายหน้าไปเกือบอาทิตย์ จะกลับมาเจอกันในสถานการณ์และสถานที่เช่นนี้
"ง่า...น้องฟ้า สวัสดีครับ ดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้งนะครับ"
รวีหันไปเขม่นใส่เพื่อน ก่อนจะหันมายิ้มหวานทักทายคนที่อยู่ในคลอง ซึ่งเวหาเองก็ยิ้มเจื่อน ๆ พร้อมทักตอบกลับไป
"สวัสดีครับ...เอ่อ ไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสเจอกันในที่แบบนี้เลยนะครับ"
เวหามองพวกรวี แล้วเหลือบมองเรือนไทยด้านหลังทั้งคู่ และดูเหมือนรวีนั้นจะพอคาดเดาสายตานั้นออก จึงรีบเอ่ยดักตอบขึ้นทันที
"คือพวกพี่มาดูบ้านพักตากอากาศหลังใหม่ที่ซื้อต่อมาจากเจ้าของคนเก่าน่ะครับ"
เวหาชะงักก่อนจะมองคนพูดอย่างตกใจ
"ถ้าอย่างนั้นคนที่มาซื้อบ้านต่อจากลุงจุก ก็คือพวกคุณหรือครับ!"
รวีพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มหวาน แต่นั่นก็ทำเอาเวหาถึงกับยิ้มไม่ออก เขาไม่อยากคิดเลยว่า อีกฝ่ายจะกล้าลงทุนเงินเป็นหลักสิบล้าน เพื่อให้ได้มีโอกาสมาอยู่ใกล้กับเขาเช่นนี้
"เท่านี้พวกเราก็เป็นเพื่อนบ้านกันแล้วนะครับน้องฟ้า ไว้เดี๋ยวกลางวันนี้พี่จะเข้าไปไหว้ทักทายแม่กับพ่อของน้องฟ้าด้วยนะครับ"
เวหานิ่งอึ้ง นึกไม่ออกว่าจะห้ามหรือยิ้มรับดี หากแต่จู่ ๆ เด็กหนุ่มก็ต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ เมื่อรู้สึกว่าขาของตนกำลังเป็นตะคริว เขาพยายามตั้งสติใช้มือพยุงให้ลอยตัวเอาไว้ ส่วนทางด้านรวีพอเห็นอาการผิดปกติของเด็กหนุ่มเจ้าตัวก็พลันชะงัก ก่อนจะตะโกนถามกลับไปอย่างร้อนรน
"น้องฟ้า! เป็นอะไรไปครับ!"
"...รู้สึกจะเป็นตะคริวครับ ...แต่...น่าจะพอไหว..."
ยังไม่ทันพูดจบเจ้าตัวก็ผลุบหายลงไปในน้ำ ทำเอารวีเบิกตากว้างแล้วรีบกระโจนลงไปช่วยเด็กหนุ่มทันที
"เฮ้ย! ซัน!"
เมฆาตะโกนเรียกเพื่อนสนิทที่ตอนนี้ผลุบหายลงไปใต้ผืนน้ำด้วยความตกใจ ทว่าสักพักรวีก็ลอยตัวขึ้นมา ในอ้อมแขนมีร่างของเด็กหนุ่มที่จมลงไปใต้น้ำติดมาด้วย และเพราะเสียงเอะอะโวยวายที่เกิดขึ้นก็ทำให้ณรงค์ พ่อเลี้ยงของเวหาวิ่งตามมา เมื่อเห็นรวีกำลังลากลูกชายของเขาขึ้นมาจากคลอง เจ้าตัวก็รีบวิ่งลงไปช่วยประคองเด็กหนุ่มขึ้นมาด้วยกันอย่างรวดเร็ว
"แค่ก ๆ ๆ"
เวหานั้นไม่ได้หมดสติแต่อย่างใด เขาสำลักน้ำอยู่สักพัก แล้วจึงนอนหงายอย่างหมดแรงอยู่บนผืนดินริมฝั่งน้ำแถวนั้น
"เกิดอะไรขึ้นกันน่ะฟ้า! แล้วคุณ..."
ณรงค์ถามลูกชายแล้วมองไปยังชายหนุ่มแปลกหน้าที่เขาไม่เคยเห็น ทางด้านรวีที่รู้จากข้อมูลดีว่าอีกฝ่ายเป็นพ่อเลี้ยงของเวหา จึงยิ้มน้อย ๆ แล้วยกมือไหว้อีกฝ่าย ซึ่งณรงค์ก็รีบยกมือรับไหว้ทันที
"ผมชื่อรวีครับ เรียกว่าซันก็ได้ ...ผมมาซื้อบ้านเรือนไทยฝั่งนั้นไว้เป็นบ้านตากอากาศตอนผมกลับเมืองไทย ...แล้วก็ได้เจอน้องฟ้าเล่นน้ำอยู่ คุยกันไปคุยกันมา น้องเขาเกิดเป็นตะคริว ผมก็เลยโดดลงมาช่วยนี่ล่ะครับ"
พอได้ยินดังนั้น ณรงค์ก็ถึงกับอุทานออกมาอย่างตกใจ เพราะถ้าเกิดรวีไม่อยู่แถวนี้ ลูกชายของเขาอาจจะจมน้ำตายไปแล้วก็ได้
"ฟ้า! พ่อบอกหลายหนแล้วใช่ไหมว่า เวลาทำงานมาเหนื่อย ๆ ไม่ให้ลงเล่นน้ำเลย กล้ามเนื้อมันจะล้า อาจจะเป็นตะคริวได้ ...แล้วเห็นไหมล่ะ ผลของการไม่เชื่อที่พ่อเตือนมันทำให้เกิดอะไรขึ้น"
เวหาหน้าสลด เขายันกายลุกขึ้นนั่งก่อนจะยกมือไหว้ขอโทษบิดา ซึ่งอีกฝ่ายก็ถอนหายใจ แล้วตบบ่าลูกชายเบา ๆ อย่างให้อภัย เพราะเห็นว่าเจ้าตัวเจอเรื่องชวนให้ตกใจมามากเกินพอแล้ว
"ขอบคุณ คุณรวีเขาด้วยสิลูก เขาช่วยชีวิตลูกไว้นะ"
ณรงค์พูดต่อ ซึ่งรวีก็เตรียมจะแย้งห้าม หากแต่เวหานั้นหันมาทางชายหนุ่มแล้วพนมมือไหว้ขอบคุณอีกฝ่ายตามที่บิดาของตนบอก
"ขอบคุณจริง ๆ นะครับคุณรวี ที่ช่วยชีวิตผมไว้"
"...เรียกพี่ซันดีกว่านะครับน้องฟ้า ยังไงเราก็เพื่อนเก่าแก่กันไม่ใช่หรือครับ"
รวีบอกอย่างไม่ถือสา ซึ่งก็ทำให้ณรงค์ที่ฟังอยู่แปลกใจ ทางด้านรวีพอเห็นสีหน้าเช่นนั้นเขาจึงรีบอธิบายตามมา
"จริง ๆ แล้วผมเคยเป็นเพื่อนบ้านกับน้องฟ้าแล้วก็น้าวารีเมื่อสมัยน้องฟ้ายังเด็ก ๆ น่ะครับ แต่ผมต้องย้ายไปต่างประเทศเสียก่อน กลับมาเมืองไทยอีกครั้งก็พบว่าน้าวารีกับน้องฟ้าย้ายบ้านไปแล้ว...แต่บังเอิญดันได้กลายมาเป็นเพื่อนบ้านกันอีกครั้งแบบนี้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องของโชคชะตาพรหมลิขิตแท้ ๆ เลยนะครับ"
ณรงค์พอได้ยินก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจมากยิ่งขึ้น แต่เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นรู้จักภรรยาของเขา รวมถึงช่วยชีวิตลูกชายของเขาไว้ ก็ทำให้ชายวัยกลางคนไม่รู้สึกติดใจอะไรมากนัก
"อ๊ะ! ถ้ายังไงพาน้องฟ้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะครับ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา....แล้วไว้ตอนกลางวันผมจะแวะไปทักทายน้าวารีที่บ้านอีกครั้ง และอาจจะไปขอฝากท้องกินข้าวกลางวันที่นั่นด้วย ...หวังว่าคุณน้าณรงค์คงไม่รังเกียจใช่ไหมครับ"
"หือ...ไม่เลย น้าไม่รังเกียจอะไรหรอก ดีเสียอีกจะได้เลี้ยงตอบแทนคุณที่ช่วยฟ้าเอาไว้ด้วย"
รวียิ้มแย้มส่งให้พร้อมกับยกมือไหว้อีกฝ่าย ก่อนจะกระโดดน้ำว่ายข้ามไปอีกฝั่ง แทนที่จะเดินอ้อมไปขึ้นสะพานซึ่งอยู่ไกลกว่าแทน
ณรงค์มองชายหนุ่มที่ขึ้นศาลาริมน้ำแล้วหันมาโค้งศีรษะนิด ๆ ให้ตน ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินกลับไปทางหน้าบ้านพร้อมกับเพื่อนที่มาด้วยกัน ชายวัยกลางคนจึงได้หันมาทางลูกชายของตนอีกครั้ง
"เพิ่งรู้ว่าฟ้ามีเพื่อนเป็นลูกครึ่งนะเนี่ย ...แถมยังอายุมากกว่าเยอะด้วยเลยสินะ แล้วไปสนิทกันได้ยังไงล่ะ ตอนนั้นฟ้าก็น่าจะเพิ่งสามหรือสี่ขวบเองไม่ใช่หรือ"
ณรงค์ถามบุตรชาย ซึ่งเวหาก็ยิ้มเจื่อน ๆ ไม่กล้าบอกต้นสายปลายเหตุที่แท้จริงออกไปให้บิดารู้ ทว่าพอพวกเขาทั้งสองเริ่มลุกเดินเพื่อจะตรงกลับบ้านพัก ณรงค์ก็พลันชะงักแล้วหันกลับไปมองยังศาลาริมน้ำที่ไร้ผู้คนเบื้องหลัง แล้วจึงหันกลับมามองบุตรชายของเขาด้วยสีหน้าประหลาดใจ
"พ่อว่าพ่อยังไม่ได้แนะนำตัวเองเลยนะ แล้วเขารู้จักชื่อพ่อได้ไง ฟ้าบอกพี่เขาไปหรือลูก"
เวหาสั่นศีรษะเบา ๆ และพอคิดตามที่บิดาบอก ก็ทำให้เขารู้สึกแปลกใจอยู่เหมือนกัน
"เอาเถอะ ...ไว้ตอนกลางวันก็เจอกันอีก ไว้ค่อยถามตอนนั้นก็ได้"
ณรงค์ตัดบทอย่างไม่อยากคิดมากนัก จากนั้นพวกเขาพ่อลูกก็พากันตรงกลับบ้าน ซึ่งพอเห็นสภาพลูกชาย วารีก็โวยวายยกใหญ่แล้วรีบไล่ให้เวหาไปอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยไม่คิดจะฟังเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นแต่อย่างใด
... TBC ....
แก้ไขล่าสุดโดย หมึกจีน เมื่อ Fri May 23, 2014 5:07 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง
หมึกจีน- นักเขียน
- จำนวนข้อความ : 81
Join date : 01/04/2014
Re: ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /4
พี่ซันจัดเต็มด้านข้อมูลเลยนะจ๊ะ ตอนแรกแอบคิดว่าน้องฟ้าจมน้ำเพราะพี่ซันนะคะเนี่ย
เห็นน้องฟ้าบอกว่าไหวคงจะก้มลงไปดัดขาตัวเอง เกือบไปแล้วนะนั่น
บอกเขาไปสิซันว่ามีจิตสัมผัส เลยรู้ว่าชื่ออะไร ฮ่าๆๆๆ
#รอดูคนแถค่ะ
เห็นน้องฟ้าบอกว่าไหวคงจะก้มลงไปดัดขาตัวเอง เกือบไปแล้วนะนั่น
บอกเขาไปสิซันว่ามีจิตสัมผัส เลยรู้ว่าชื่ออะไร ฮ่าๆๆๆ
#รอดูคนแถค่ะ
เลื่อมประภัสสร- นักเขียน
- จำนวนข้อความ : 192
Join date : 01/04/2014
Re: ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /4
พี่ซันเดินหน้าทำคะแนนเลยนะเนี้ย
แต่ที่สุดยอดคือเล่นซื้อบ้านข้างๆเลยเนี้ยนะ
แต่ที่สุดยอดคือเล่นซื้อบ้านข้างๆเลยเนี้ยนะ
memoapp- นักอ่าน
- จำนวนข้อความ : 46
Join date : 04/04/2014
Re: ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /4
ไม่เหนือกว่าการคาดหมายเท่าไหร่เลยจริงๆ
พวกที่ตื้อมากๆ (และรวย) มักจะหาทางทำยังไงก็ได้ให้บ้านอยู่ใกล้กันที่สุดเ้ท่าที่จะทำได้
โอยยยยยย หมั่นไส้ 55555555555
ปล.เร็วมากค่ะ แป๊บเดียว 20 หน้าแล้ว
พวกที่ตื้อมากๆ (และรวย) มักจะหาทางทำยังไงก็ได้ให้บ้านอยู่ใกล้กันที่สุดเ้ท่าที่จะทำได้
โอยยยยยย หมั่นไส้ 55555555555
ปล.เร็วมากค่ะ แป๊บเดียว 20 หน้าแล้ว
น้ำไหล- นักเขียน
- จำนวนข้อความ : 172
Join date : 01/04/2014
Re: ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /4
นี่นายรวีเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสเลยนะเนี่ย
ช่วยน้องฟ้าได้แบบนี้สงสัยจะได้คะแนนจากครอบครัวน้องฟ้าอยู่มากนะเนี่ย
ช่วยน้องฟ้าได้แบบนี้สงสัยจะได้คะแนนจากครอบครัวน้องฟ้าอยู่มากนะเนี่ย
13cotton13- นักอ่าน
- จำนวนข้อความ : 129
Join date : 03/04/2014
Re: ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /4
บ้านน้องฟ้าเนี่ย เค้ามองโลกในแง่ดีทั้งนั้น? แต่แบบว่า
วิกฤตสร้างวีรบุรุษอย่างแท้จริง 555+++
วิกฤตสร้างวีรบุรุษอย่างแท้จริง 555+++
tuktukta- นักอ่าน
- จำนวนข้อความ : 21
Join date : 30/03/2014
Re: ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /4
น้องฟ้าแอบอ่อยพี่ซันป่ะเนี่ย!!! วิ้ดวิ้ว
TwInZZZ- นักอ่าน
- จำนวนข้อความ : 31
Join date : 21/06/2014
Re: ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /4
พี่ซันน่ากลัวนะเนี่ย น้องฟ้าต้องระวังตัวไว้ให้ดี ๆ นะ
DevilAngel- นักอ่าน
- จำนวนข้อความ : 11
Join date : 04/04/2014
Similar topics
» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /7
» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /8
» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /9
» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /10
» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /11
» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /8
» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /9
» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /10
» ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว /11
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|